26 ม.ค. 2022 เวลา 09:25 • ธุรกิจ
Sabri Suby ผู้สร้างธุรกิจหมื่นล้านโดยใช้คอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว
คนส่วนใหญ่ที่ต้องการสร้างธุรกิจ จะหมกมุ่นอยู่กับการหาคำตอบว่า “ทำอะไรดี?”
แต่สิ่งที่ยากกว่าการหาว่าจะทำธุรกิจอะไร คือการต้องเอาสินค้าจากธุรกิจของตัวเองไปทำตลาดด้วยกลยุทธ์มัดใจลูกค้า
แต่จะด้วยวิธีที่ต้องพลิกตำราการตลาดกันทุกกระบวนท่า แต่บางทีท่าเบสิกธรรมดาๆ ก็สามารถสร้างธุรกิจหลักหลักล้านได้ ซึ่งชายหนุ่มคนหนึ่ง ได้ใช้ช่องโหว่ของการทำตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้านี้ มาสร้างเป็นธุรกิจหมื่นล้านโดยใช้คอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว
‘Sabri Suby’ ชาวออสเตรเลีย ผู้ก่อตั้งบริษัท King Kong เป็นบริษัทว่าด้วยการตลาดผ่านสื่อดิจิทัล ที่มีบริการเสิร์ชเอนจิ้น กลยุทธการทำการตลาดบนเฟสบุ๊ก อินสตราแกรม ยูทูป และอื่นๆ ก่อตั้งในปี 2014 หรือมีอายุเพียงแค่ 8 ปีเท่านั้น
King Kong ให้บริการทุกรูปแบบเพื่อความเติบโตทางการค้า มีลูกค้าเป็นแบรนด์ต่างๆ ที่ผลิตภัณฑ์มีมูลค่าสูง ว่ากันง่ายๆ คือ ถ้าหากอยากใช้บริการกับ King Kong ต้องเป็นบริษัทที่มียอดขายมากกว่า 1 ล้านเหรียญ หรือมากกว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อปี และบริษัทนั้นๆ ต้องมีทีมงาน มีทุน และมีแผนขยายยอดจำหน่ายอย่างจริงจัง
แม้ลูกค้าของ King Kong จะค่อนข้างเป็นบริษัทใหญ่ แต่ไม่ว่าใครที่ใช้บริการ King Kong ล้วนแล้วแต่ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่าเป็นที่สุด
กลับมาที่เรื่องราวของ Suby รู้ไหมว่าเขาเริ่มธุรกิจนี้หลังจากการดรอปเรียนในมหาวิทยาลัย เดินหน้าทำธุรกิจหลายอย่าง โดยใช้ดิจิทัลมาเก็ตติ้งเป็นเครื่องมือ
1
Suby ใช้เวลาไม่นานในการเรียนรู้กลยุทธ์ เปลี่ยนผลตอบแทนจาก 10 ดอลลาร์ ไปเป็น 50 ดอลลาร์ และ 200 ดอลลาร์ จากทุกๆ 1 ดอลาร์ที่ลงทุน
กล่าวคือ ถ้าบริษัท A ยิงAds 1 ดอลลาร์ ต้องได้ผลตอบแทนกลับมาเป็น 10 เท่า 50 เท่า หรือ 200 เท่า
ในเวลานั้น บริษัทให้บริการดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งส่วนใหญ่ สนใจในเรื่องของจำนวนครั้งที่ถูกมองเห็น อัตราการคลิก หรือจำนวนการเข้าถึง ซึ่งบริการเหล่านี้มีราคาสูงจนน่าตกใจ
อย่างแพ็คเกจหนึ่ง ต้องลงทุนด้วย Budget 10,000 ดอลลาร์ หรือราว 300,000 บาท เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้มีการรับประกันการวัดผลหรือพยากรณ์ผลตอบแทนที่กลับมาเป็นเม็ดเงินรายได้ที่ลูกค้าจะได้รับจากยอดซื้อ
แต่ Suby ให้ความสำคัญกับการวัดผลและพยากรณ์ผลตอบแทน ซึ่งจะช่วยมัดใจลูกค้าได้มากกว่า เพราะมันแฟร์ๆ ทั้งสองฝ่าย ลูกค้าเข้าถึงลูกค้าโดยมียอดสั่งซื้อเพิ่ม ในขณะที่ Suby ก็ได้ผลตอบแทนเป็น Budget ที่คุ้มค่าเหนื่อย
1
King Kong เริ่มต้นทุกอย่างจากห้องนอนที่มีคอมพิวเตอร์แค่ 1 เครื่อง และใช้โทรศัพท์โทรไปเสนองานให้กับลูกค้าด้วยตัวเอง
นั่นจึงเป็นที่มา ขององค์ประกอบที่ยากที่สุดในการเริ่มต้นทำธุรกิจคือ “การบริหารงานด้วยตัวคนเดียว” เขาไม่มีทุน ไม่มีทีม แต่หลังจากที่ขายงานได้ในครั้งแรกๆ แล้วลูกค้าพึงพอใจ ปริมาณงานจะเพิ่มขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ จากหลักหน่วยไปหลักสิบ จากสิบไปร้อยต่อสัปดาห์ ทำให้คนๆ หนึ่ง ต้องทำงานเทียบเท่ากับคน 10 คน
ซึ่งถ้าเทียบกับบริษัทอื่นๆ ที่ได้รับเงินระดมทุนและขยายธุรกิจจากนักธุรกิจ และบริษัทยักษ์ใหญ่ ในขณะที่ King Kong ขยายธุรกิจจากเม็ดเหงื่อ หนึ่งสมองและสองมือของคนๆ เดียว
1
ปัจจุบัน Suby ขยายบริษัทให้เติบโตขึ้น มีทีมงานคุณภาพมากมาย และเขามีทรัพย์สินมากว่า 1,330 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมากกว่า 44,500 ล้านบาท เลยทีเดียว
นอกจากนี้เขาได้ถ่ายทอดวิธีคิดคิดแบบ Sabri Suby ผ่านหนังสือ “Sell Like Crazy” ที่เขาเขียนขึ้นเอง โดยมีคำพูดที่สื่อถึงการทำธุรกิจของเขา เช่น
“ธุรกิจของผม ผมตัดงาน 96% ที่เป็นงานยิบย่อยให้พนักงานทำทั้งหมด เพราะมันไม่เกิดรายได้ต่อบริษัท”
1
“ผมโฟกัสไปยัง สิ่งที่สร้างกำไร” ทั้งระบบ แบบเข้าใจต้นน้ำและปลายน้ำ ตั้งแต่ทีมงานทั้งหมด ยอดสั่งซื้อ ต้นทุน ไปจนถึงลูกค้า”
1
ลงทุนในทรพย์สินทุกอย่างและนับ “เวลา” เป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่งของชีวิต
1
ติดตามเทคฮีโร เพิ่มเติมได้ที่..
โฆษณา