26 ม.ค. 2022 เวลา 10:52 • ไลฟ์สไตล์
6 เรื่องที่อยากให้ลองทำเพื่อยกระดับทุกความสัมพันธ์ในชีวิต
เพราะคุณภาพความสัมพันธ์ของมนุษย์เรากับผู้คนในชีวิต ล้วนส่งผลสำคัญต่อความสุข, ความยืนยาวของชีวิต รวมถึงสุขภาพจิต และเราไม่สามารถใช้ชีวิตเพียงลำพังโดยไม่มีปฏิสัมพันธ์อันดีกับใครสักคนเลยได้ จึงเป็นเหตุผลที่เรานำบทความนี้ขึ้นมาแนะนำ
บางครั้งเราอาจคิดว่าความสัมพันธ์กับใครก็ตามนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ผ่านไป แล้วก็จบลงไป แบบท้ายที่สุดแล้วไม่ได้ทิ้งความหมายหรือความสำคัญอะไรให้กับชีวิตเรานัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว การมีความสัมพันธ์ที่ดี สามารถทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นตามไปด้วยได้ เพราะแม้แต่ในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์กว่าหลายสิบปี ก็ยังรับรองว่าสายสัมพันธ์ของมนุษย์ไม่เพียงแต่ส่งผลกับสุขภาพจิตเท่านั้น แต่ยังเป็นคีย์สำคัญที่จะช่วยกำหนดได้ว่าเราจะมีชีวิตได้ยืนยาวแค่ไหน และมีความแข็งแรงทางสุขภาพร่างกายอย่างไรด้วย
ซึ่งตอนหนึ่งในรายการ TED Talks โดย Robert Waldinger ผู้ที่จัดทำการศึกษาระยะยาวในเรื่องความสุขของ Harvard ได้พูดไว้ว่า คนที่มีการเชื่อมต่อทางสังคม, เพื่อนฝูง, ครอบครัว หรือกลุ่มสังคมใดก็ตามจะมีความสุขมากกว่า และมีสุขภาพทางกายดีกว่าด้วย และพวกเขาก็มีชีวิตได้ยืนยาวมากกว่าคนที่มีการเชื่อมต่อทางสังคมน้อย และการเชื่อมต่อในที่นี่ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างครอบครัวหรือคู่ชีวิตเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการเชื่อมโยงระหว่างผู้คนในทุกรูปแบบ ตั้งแต่ระดับสังคมจนถึงระดับการทำงาน และยังรวมถึงความสัมพันธ์กับคนที่เราไปเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือพวกเขาด้วย เพราะการสร้างความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในความสัมพันธ์ต่างๆ นั้นอาจให้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆ กับเรา ซึ่งต่อไปนี้เราจะพูดถึงวิธียกระดับความสัมพันธ์ที่สามารถปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเรากับผู้อื่นให้ดีขึ้นได้
‘6 เป้าหมายของความสัมพันธ์ที่อยากให้คุณลองทำดูในปีนี้’
1. เปลี่ยนคำพูดที่เรา ‘คิด’ ต่อคนอื่น
คำพูดนั้นสำคัญกว่าที่คุณคิด และไม่ใช่แค่คำพูดที่เราพูดออกไปให้คนอื่นได้ยินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคำพูดที่เราพูดถึงคนอื่นกับตัวเราเองด้วย เพราะเรื่องเล่าภายในใจของเรา โดยเฉพาะเรื่องของคนอื่นที่เราบอกกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจของพวกเขา นิสัย หรือการแสดงออกของพวกเขา หรือแม้แต่ความไม่มีเหตุผลต่างๆ ล้วนมีผลกระทบอย่างสำคัญต่อท่าทีที่เรามีต่อพวกเขา
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราบอกตัวเองว่าคนนั้นชอบบงการเรา หรือคนนี้ไม่เคยฟังเราเลย หรือแม้แต่คนนี้เป็นคนที่ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง คำพูดเหล่านี้ก็จะสร้างแนวโน้มในการที่เราจะมองหาหลักฐานยืนยันว่าพวกเขาเป็นคนแบบนั้นแบบนี้ ทั้งก่อนเริ่มและระหว่างบทสนทนากับพวกเขา เพราะเราได้บอกตัวเองแบบนั้นไปแล้ว
วิธีที่จะช่วยให้เราปรับนิสัยตรงนี้ได้ ขั้นแรก ก็คือเราต้องรับรู้ให้ได้ว่าตอนไหนเรามีความคิดในเชิงตัดสินผู้อื่นเข้ามาในหัวของเราแล้ว แล้วมันก็ผลักดันให้เกิดเรื่องราวเชิงลบต่อพวกเขา ขั้นต่อไปเมื่อเรารับรู้แล้วว่าตัวเองคิดแบบนั้นให้หยุดตัวเองจากการเล่าเรื่องพวกนี้ต่อ และขั้นสุดท้ายให้เราแทนที่เรื่องเล่าในแง่ลบเหล่านั้นด้วยคำพูดในเชิงบวกแทน ซึ่งเรื่องราวในเชิงบวกนั้นไม่ใช่เรื่องที่ไม่เป็นความจริง หรือการแต่งเรื่องให้พวกเขาดูดีขึ้นจนกลายเป็นคนละฉบับกับความจริง แต่ให้เราเลือกคำพูดหรือเรื่องราวไหนก็ตามของพวกเขาที่ทำให้คุณนึกถึงจิตใจที่ดีของพวกเขาได้ จากนั้นให้รับรู้ว่าคุณได้ก้าวเข้าสู่ขั้นตอนของการปรับความสัมพันธ์ใหม่แล้ว
และเมื่อเวลาผ่านไป คุณจะประหลาดใจกับตัวเองว่าคำพูดของคุณที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นสามารถเปลี่ยนคุณภาพความสัมพันธ์ของคุณได้เช่นกัน
2. สร้างโมเมนต์ที่ดี เล็กๆ น้อยๆ ในระหว่างวัน
เราสามารถสร้างโมเมนต์ดีๆ ให้เกิดขึ้นได้ในทุกที่ ผ่านการใช้เวลาไม่กี่วินาทีเรียนรู้ชื่อของผู้คนทำนิสัยน่ารักๆ ให้กับคุณ และบอกพวกเขาว่าคุณทำให้วันนี้เป็นวันที่ดีของฉัน ไม่ว่าเขาจะเป็นใครที่คุณได้พบเจอในวันนั้น เพราะไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ เล็กน้อย กับใครก็ตาม หรือจะเป็นแค่รอยยิ้มอบอุ่น หรือการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่ดีกับพวกเขา ให้พวกเขารับรู้ว่ายังมีอีกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ ก็ถือเป็นการปลดปล่อยการแสดงออกดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณและผู้อื่นแล้ว
ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างผลกระทบที่กระเพื่อมเป็นวงกว้างต่อไปได้ จากการสร้างโมเมนต์เชิงบวกเล็กๆ กับคนแปลกหน้า , คนรู้จัก , เพื่อนร่วมงานหรือคนใกล้ชิด เพราะสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นคลื่นความรู้สึกดีที่แผ่กระจายไปในชีวิตคุณและผู้อื่น
3. ‘จับมืออีกฝ่ายไว้’ ในเวลาที่เราทะเลาะกับคู่ชีวิตหรือคนสำคัญ
เวลาที่คนเรามีปัญหากัน สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมก็คือพวกคุณอยู่ทีมเดียวกัน ต่อให้คุณจะมีความคิดที่ต่างกันก็ตาม ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดคือการตกลงว่าจะยังจับมือกัน แม้จะถกเถียงกันหรือทะเลาะกันอยู่ก็ตาม เพราะวิธีอันเรียบง่ายนี้จะช่วยให้คู่ชีวิตรู้สึกเชื่อมโยงกันมากขึ้น และลดความรุนแรงของการทะเลาะกันลงไปได้ด้วย
4. ‘ถามคำถามปลายเปิด’ กับผู้คนในชีวิต ทุกๆ วัน
เพราะการสื่อสารคือเคล็ดลับของความสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จ และที่สำคัญการฟังอย่างสนใจ พร้อมกับปล่อยให้ผู้อื่นพูดก็ถือเป็นการสื่อสารเช่นกัน และมันก็มักเป็นเครื่องมือที่ถูกมองข้ามมากที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น ทั้งที่การฟังนั้นช่วยให้เราเข้าใจอีกฝ่ายได้ดีขึ้น และเป็นการให้พื้นที่กับพวกเขาได้แชร์เรื่องราวของตัวเอง ระบายความกลัวของตัวเอง และช่วยทำให้ความหวังของพวกเขาชัดเจนขึ้นได้ด้วย
การฟังให้มากขึ้นและพูดให้น้อยลง รวมถึงถามคำถามปลายเปิด จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัวให้ดีขึ้นได้
5. จัดตารางเวลาเอาไว้สำหรับใช้กับ ‘เพื่อนสนิท’
ความสัมพันธ์ที่แข็งแรงและมีคุณภาพล้วนต้องการการดูแลรักษาและการลงทุนทางเวลาอย่างต่อเนื่อง และมิตรภาพก็ถือเป็นกุญแจสำคัญของความสุขคนเราและการมีอายุที่ยืนยาวด้วย โดยเฉพาะเมื่อเราอายุมากขึ้น เรายิ่งต้องคอยดูแลมัน เพราะมิตรภาพก็สามารถแห้งเหี่ยวได้เช่นเดียวกับต้นไม้ที่ไม่ได้รับการดูแล
หนึ่งวิธีง่ายๆ ที่จะรักษาคุณภาพของมิตรภาพได้ ก็คือการพยายามหาเวลาในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละเดือนเพื่อใช้ร่วมกับเพื่อนสนิท ถ้าเจอกันต่อหน้าเลยได้ยิ่งดีที่สุด แต่ถ้าสถานการณ์โรคระบาดยังไม่ดีขึ้น การโทรหากันหรือคุยกันเรื่อยๆ โดยไม่ขาดหายไปนานก็เป็นวิธีที่ดีเช่นกัน
6. ‘กล่าวคำขอโทษ’ ในเรื่องที่คุณคิดว่ามันสายเกินไปแล้ว
บนโลกใบนี้ไม่มีมนุษย์คนไหนที่สมบูรณ์แบบ และบางครั้งเราก็จบความสัมพันธ์ลงด้วยเหตุผลที่ไม่เป็นเหตุผลหรือการไม่ใส่ แต่ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายไหน เราก็มักเดินออกจากชีวิตกันด้วยความโกรธหรือความขุ่นเคืองใจ
แต่คุณอาจลองเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ในปีนี้ ด้วยการเลือกผู้คนในชีวิตที่เคยทำหล่นหายไประหว่างทาง แล้วส่งข้อความถึงเขาดู ไม่ว่าจะเป็นข้อความเสียง ข้อความที่พิมพ์ในแชทหรือลายมือบนกระดาษ ลองเขียนคำขอโทษหรือความเสียใจของคุณลงไปแบบสั้นๆ และเรียบง่าย พร้อมกับยอมรับสิ่งใดก็ตามที่คุณทำไปแล้วรู้สึกไม่ดี เพราะเมื่อไหร่ที่เรายอมรับและโอบกอดความอ่อนน้อมของตัวเองได้หรือสามารถวางทิฐิของตัวเองลงได้สักครั้งแล้วล่ะก็ เราจะไม่ได้รับเพียงแค่การยกโทษ หรือยกโทษคนอื่นได้ แต่ความสุขของเราก็จะถูกยกระดับด้วยเช่นกัน
ที่มาของข้อมูล - 6 relationship resolutions to make this year - https://ideas.ted.com/6-relationship-resolutions-to-make-this-year
โฆษณา