26 ม.ค. 2022 เวลา 11:13 • ความคิดเห็น
แก่นแท้ของการดูดวง คือ การที่มีความรู้สึกว่า
ไม่มีความมั่นคงใน สถานภาพแห่งชีวิต
มีปัจจัยจากภายนอก มากระทบการดำเนินชีวิต
บางสถานการณ์ บังเกิดเป็นแรงกดดัน บีบคั้น
บีบเค้น จนแทบหมดหนทาง
1
ที่จุดนั้น ก็ต้องการใครสักคน ที่อาจจะตอบให้รู้
ว่าสถานการณ์ที่ดำรงอยู่ ควรจะจบสิ้นเมื่อไร
การดูดวง จึงเป็นทางออก ทางหนึ่ง
แต่ในโลกที่เปลี่ยนไป ผู้รู้เหล่านั้น แปรผันตัว
เป็นผู้ทำมาหากิน กลายเป็นวิชาชีพ
แทนที่จะคงเจตนาเดิม ของครูอาจารย์
ผู้ประสิทธิ์ ปสาท วิชา
ในการสงเคราะห์ผู้ ได้ความยากลำบาก
การดูดวง จึงอาจจะไม่ใช่คำตอบที่แท้จริง
ถ้าจะต้องแลกความสบายใจ
ด้วยการใช้จ่ายเงิน เพื่อสะเดาะเคราะห์
แก่นแท้ของ โหราศาสตร์ คือ การหาจุดพิกัด
ที่กำเนิด ในเวลาที่หายใจอากาศเข้าปอดครั้งแรก
สมัยโบราณ ไม่มีอุปกรณ์สำเร็จรูป เช่นปัจจุบัน
ต้องใช้การคำนวณเท่านั้น จึงสงวนไว้
สำหรับชนชั้นสูง และ กฎุมพีผู้มีทรัพย์
จุดพิกัดนั้นคือ ลัคนากำเนิด
มักจะเขียนลงกระดาน หรือ กระดาษ
เรียกว่าดวงอีแปะ ผู้รู้ จะบอกได้ว่า
มีอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิตบ้าง
ลัคนากำเนิด เป็นเหมือน กัมมะพันธุ
ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้
ไม่มีใครแก้ไขได้ จะเรียกว่า
เป็น วิบากกรรม ของคนนั้นๆ ในชาตินี้ก็ได้
อีกส่วนคือ ดาวจร ที่โคจรไปในแต่ละวัน
จะส่งผลกระทบกับ ดวงกำเนิด แต่ละบุคคล
ไม่เหมือนกัน
ผลกระทบนี้ ก็คือข้างต้นด้านบน ที่ว่าไว้
ดาวจร ที่ส่งผลให้แต่ละบุคคล จะเรียกว่า
กรรมเก่าให้ผลก็ได้ มีทั้งฝ่ายกุศล และ อกุศล
แต่ดาวจร ก็คือ ดาวจร มีระยะเวลาโคจร
ที่คำนวณได้ เมื่อดาวจร ย้ายราศี
ผลกระทบกับดวงเกิด ก็เปลี่ยนไป
แรงกระทำกับดวงเกิดของบุคล ก็เปลี่ยนไป
ฉะนั้น การที่ดูดวงแล้ว ต้องไปสะเดาะเคราะห์
จึงเป็นแค่ ผลดีทางใจเท่านั้น
ผลเสียคือ ต้องใช้จ่ายทรัพย์ เพื่อการนั้น
ถ้าดาวจร ย้ายราศีแล้ว สถานการณ์ก็เปลี่ยน
ถ้าบุคคลนั้น ทนต่อแรงกรรมเก่านั้นได้
เมื่อดาวจร ย้ายราศี กรรมเก่าก็เบาบาง
หรือ อาจจะหมดก็ได้
แต่.. ยกเว้น ดวงกำเนิด เดิม ถ้าวิบากกรรม
ในดวงเดิม สะท้อนสิ่งที่ต้องเป็นไป
ก็แก้ไขไม่ได้นะครับ
เช่น บางคนถูก ผู้อื่นโกงทั้งชีวิต
เป็นไปตามดวงกำเนิด แก้ไม่ได้
ดาวจร พาคนที่จะโกง มาพบเจอ
ให้ถูกโกง เป็นคราวๆ เปลี่ยนคนไป
หมดกรรมกัน ก็จากกันไป
ทีต้องการจะสื่อสาร คือ
ถ้าบุคคลใดถูกกรรมเก่า ย่ำยี
แล้วอดทน จนหมดวิบากกันไป
ก็ไม่ต้องดิ้นรน ไปหา ดูดวงให้เสียทรัพย์ครับ
โฆษณา