27 ม.ค. 2022 เวลา 12:41 • ประวัติศาสตร์
ทำไมความสัมพันธ์ของไทยกับซาอุดิอาระเบีย จึงเกิดความแตกร้าวกันอย่างหนัก ในรอบ 32 ปีที่ผ่านมา เราจะไปลำดับเรื่องราวกันทั้งหมดตั้งแต่แรกด้วยกัน
ฝั่งซาอุฯ ไม่ออกวีซ่าให้คนไทยเข้าประเทศ ถ้าไม่ใช่เหตุจำเป็นจริงๆ เช่น การแสวงบุญในพิธีฮัจญ์ หรือกรณีที่ต้องให้นักกีฬาเข้ามาแข่งขัน อย่างในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ที่ไทยอยู่กลุ่มเดียวกับซาอุฯ ถึง 3 ครั้ง (2002, 2014 และ 2018)
1
คำถามคือมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศถึงแตกร้าวได้นานขนาดนั้น และทำไมตอนนี้ถึงเริ่มจะเห็นแสงสว่างบ้างแล้ว
จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด เริ่มจากชายชื่อ "เกรียงไกร เตชะโม่ง" เขาเป็นชาวอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง หลังจากเรียนจบ ม.3 เขาตัดสินใจไปประกอบอาชีพแรงงานที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยเข้าไปอยู่ในบริษัทรับจ้างทำความสะอาด
ช่วงเวลาที่เกรียงไกรเดินทางไป คือปี พ.ศ. 2525 ณ เวลานั้น ซาอุฯ กับไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเป็นอย่างมาก ดูจากจำนวนตัวเลขที่ ซาอุฯ จ้างแรงงานไทยไปทำงานมากถึงหลักแสนคน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เกรียงไกรเองก็หวังจะไปขุดทอง ทำเงินในต่างประเทศด้วย
2
เกรียงไกรทำงานที่ซาอุฯ นานถึง 7 ปี ทุกอย่างก็ดูปกติดี แต่จากนั้นเหตุการณ์สำคัญก็เกิดขึ้น ในเดือนธันวาคมปี 2532 เมื่อบริษัททำความสะอาดของเกรียงไกร ได้โอกาสไปทำงานที่พระราชวังของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด โอรสพระองค์โตของกษัตริย์ซาอุฯ
5
พระราชวังของเจ้าชายไฟซาล มีเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ตั้งอยู่ที่ชานเมืองริยาด โดยด้านในพระราชวัง มีเพชร แหวน สร้อย และ นาฬิกาที่มีค่าจำนวนมหาศาลมาก ที่น่าสนใจคือทรัพย์สินเหล่านั้นไม่มีการล็อกป้องกันเป็นพิเศษ บางตู้เสียบกุญแจคาไว้เห็นๆ เลย
7
การที่เจ้าชายไฟซาล ไม่ได้เตรียมการป้องกันเอาไว้ หลายคนเชื่อว่า เพราะที่ซาอุฯ กฎหมายการขโมยมีโทษรุนแรงมาก ถ้าโดนจับได้ก็ต้องโดนตัดมือทิ้ง ดังนั้นผู้คนจึงหวาดกลัวที่จะทำผิด และที่สำคัญขนาดของชาวบ้านธรรมดาคนยังไม่กล้าขโมย แล้วกับทรัพย์สินของราชวงศ์ ไม่มีใครกล้าแตะต้องอยู่แล้ว
5
แต่เกรียงไกร ไม่ใช่ชาวซาอุฯ เขาจึงไม่ได้เกรงกลัวบทลงโทษอะไร ในช่วงที่ได้ทำความสะอาดนั้น เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าชายไฟซาล แปรพระราชฐานไปที่ต่างประเทศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเวลา 3 เดือน โดยเหลืออีก 15 วันกว่าจะกลับ ดังนั้นเกรียงไกรจึงตัดสินใจว่าจะขโมยเอาทรัพย์สินเหล่านี้มาเป็นของตัวเอง ถ้าได้ครอบครองเพชรแค่ไม่กี่เม็ด ย่อมร่ำรวยกว่าทำงานเป็นปีแน่ๆ
6
หลังจากดูลาดเลา 2 วัน เขาก็พบว่าช่วงที่เจ้าชายไม่อยู่ พระราชวังมีคนอยู่น้อยมาก ดังนั้นในวันที่ 3 เกรียงไกรจึงแอบเอาถุงกระสอบติดตัวไปด้วย แล้วหลอกหัวหน้างานว่าเมื่อเลิกกะแล้ว จะขอเดินทางกลับที่พักเอง ทั้งๆที่ ตามปกติบริษัทจะมีรถรับส่งให้ตลอด
1
แต่หัวหน้างานชาวฟิลิปปินส์ ไม่ได้เอะใจอะไร พอคนงานทุกคนกลับกันหมด เกรียงไกรแอบซ่อนตัวอยู่ในพระราชวังที่ปลอดคน และเริ่มทำการขโมยเพชร
4
แทนที่เขาจะขโมยแค่ 2-3 ชิ้นไม่ให้ผิดสังเกต เขาขโมยชิ้นแล้วชิ้นเล่าจากพระราชวังไปเรื่อยๆ รวมแล้วใช้เวลาขโมย 7 วัน ซึ่งเพชรที่เขาหยิบฉวยไปนั้น มีน้ำหนักรวมทั้งหมดถึง 200 ปอนด์ (90.7 กิโลกรัม)
10
หนึ่งในเพชรที่เกรียงไกรขโมยไป คือเพชรขนาดใหญ่ 50 กะรัต ที่ชื่อว่า Blue Diamond นี่คือเพชรที่สวยงาม และมีความหมายสำคัญ เพราะมันคืออัญมณีประจำราชวงศ์ของเจ้าหญิงมูนีราช์ ซึ่งเป็นพระชายาของเจ้าชายไฟซาล โดยเพชรชิ้นนี้สืบทอดมาจากบรรพบุรุษหลายชั่วอายุคน
10
แต่ ณ เวลานั้น เกรียงไกรไม่เข้าใจว่ามันมีคุณค่าแค่ไหน เขาเห็นอะไรน่าจะแพงก็หยิบฉวยออกมาหมด
2
เมื่อขโมยจนพอใจแล้ว เกรียงไกรก็ทยอยส่งเพชรกลับประเทศด้วยขนส่ง DHL จากนั้นตัวเขาบินกลับไทยตามมาในอีก 2 วันให้หลัง
5
จริงๆ เขาเหลือสัญญาทำความสะอาดอีก 2 เดือน แต่เขาจะทนทำงานทำไม ในเมื่อหอบเพชรมาซะขนาดนี้ เอาไปขายได้หมด เดี๋ยวก็รวยแล้ว
2
การส่งพัสดุกลับไทย เกรียงไกรใช้ความฉลาด ด้วยการเอาเพชรปะปนกับเสื้อผ้า และสิ่งของส่วนตัว ทำเป็นเหมือนว่าเป็นของใช้ที่แรงงานไทยอยากส่งกลับบ้าน ในยุคนั้นระบบการตรวจสอบไม่เข้มข้น พอเห็นว่าเป็นของแรงงานก็ดูๆ พอเป็นพิธี แล้วก็ปล่อยผ่านง่ายๆ
4
แต่บางกระแสก็บอกว่า เกรียงไกรแอบติดสินบนเจ้าหน้าที่ศุลกากร ตอนไปรับของด้วยเงิน 7,000 บาท โดยบอกว่าในกล่องมีแต่หนังสือโป๊ ดังนั้นขอให้เจ้าหน้าที่ปล่อยผ่านให้ที ซึ่งเมื่อพัสดุมาจากซาอุฯ ซึ่งเป็นประเทศที่เคร่งครัดอยู่แล้ว ไม่มีทางจะมียาเสพติดซ่อนอยู่ ดังนั้นศุลกากรจึงรับเงินสินบนแล้วปล่อยผ่านให้เกรียงไกรในที่สุด
7
คือไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหน สุดท้ายเกรียงไกรก็ได้พัสดุของเขาจากซาอุฯ โดยไม่ถูกตรวจค้นเจอเพชร และเมื่อได้ของไว้กับมือ เกรียงไกรจึงเริ่มจัดการปล่อยขายเพชรทันทีให้พ่อค้าในจังหวัดลำปาง
3
แต่ด้วยความที่ไม่ทราบคุณค่าที่แท้จริงของเพชร ทำให้เขาปล่อยขายไปเท่าที่ได้ และได้เงินมา 5 ล้านบาท ทั้งๆที่ ความจริงมูลค่าของเพชร ต้องได้ราคามหาศาลกว่านี้มาก อาจถึงหลักพันล้าน
5
ปัญหาของเรื่องนี้ คือเมื่อเจ้าชายไฟซาล กลับมาที่ซาอุฯ ก็ค้นพบว่าทรัพย์สินของตัวเองหายไป สุดท้ายการสืบสวนจากรัฐบาลจึงเริ่มต้นขึ้น มีการไล่จี้ถามพนักงานทำความสะอาดทีละคน และสุดท้ายก็ค้นพบว่า คนขโมยคือเกรียงไกร ที่บินหนีกลับมาไทยแล้ว
3
ฝั่งซาอุฯ กดดันให้รัฐบาลไทย ตามจับคนร้ายและเอาเพชรคืนมาให้ได้ นั่นทำให้รัฐบาลไทยก็อยู่เฉยไม่ได้ บี้กรมตำรวจอีกที โดยคนที่ได้รับคำสั่งโดยตรงคือ พล.ต.ต. ชลอ เกิดเทศ (ยศขณะนั้น) ที่เป็นสุดยอดมือปราบฉายา "สิงห์เหนือ" เป็นคนรับภารกิจตามล่าตัวเกรียงไกรที่กบดานอยู่
1
พล.ต.ต. ชลอ ณ ขณะนั้นนอกจากจะเป็นตำรวจใหญ่แล้ว เขายังควบตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยอีกด้วย ถือเป็นคนใหญ่คนโตของประเทศไทย ณ เวลานั้นก็ว่าได้
2
10 มกราคม 2533 หนึ่งเดือนหลังการตามล่า ตำรวจสามารถจับกุมเกรียงไกรได้ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ในขณะที่เกรียงไกรกำลังนอนกกอยู่กับโสเภณี
11
เมื่อจับกุมได้ ทางการไทยมีความใจอ่อน ที่ไม่ยอมส่งเกรียงไกรไปให้ซาอุฯ ลงโทษ เพราะถ้าส่งไปก็โดนประหารชีวิตสถานเดียว ดังนั้นจึงลงโทษให้ติดคุกที่ไทย 7 ปี ข้อหาลักทรัพย์ แต่เกรียงไกรรับสารภาพ จึงลดโทษเหลือจำคุก 3 ปี 6 เดือน
9
เมื่อเจอคนร้ายแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการตามเพชรคืน โดยตำรวจไทยพบว่าเกรียงไกรปล่อยขายเพชรไปเยอะมากแล้ว จึงตามรอยจากพ่อค้าอัญมณีที่ลำปาง ที่ปล่อยต่อให้พ่อค้าทองที่แพร่ก่อนจะนำมาสู่มือสุดท้าย คือร้านเพชรชื่อสันติมณี ที่อยู่ในกรุงเทพฯ โดยร้านนี้มีเจ้าของชื่อ นายสันติ ศรีธนะขันฑ์ โดยเชื่อกันว่านายสันติเป็นคนที่มีเพชรที่นายเกรียงไกรขโมยมามากที่สุด
2
อย่างไรก็ตาม นายสันติระบุว่ากระจายเพชรออกไปทั่วประเทศแล้ว มีปล่อยต่อให้คนต่างชาติด้วย สรุปคือไม่รู้ว่าเพชรไปไหนต่อไหนแล้วบ้าง
7
ดังนั้นตำรวจจึงยังหาเพชรไม่เจอ รวมถึง Blue Diamond ด้วย ที่ไม่รู้ไปอยู่กับใครแล้วตอนนี้
4
เมื่อเพชรยังไม่ได้คืน รัฐบาลซาอุฯ จึงส่งนักการทูตมา 3 คน ประกอบด้วย อับดุลลาห์ อัล-เบซี่, ฟาฮัด อัซ อัลบาลี่ และ อาห์เหม็ด เอ อัลซาอิฟ เพื่อช่วยติดตามและกดดันการทำงานของรัฐบาลไทย
7
1 กุมภาพันธ์ 2533 ทูตซาอุดิอาระเบียโดนยิงตายทั้ง 3 คน ในช่วงเวลาห่างกันแค่ 10 นาที ในบริเวณเขตยานนาวา เรื่องนี้ยากที่จะเป็นเหตุบังเอิญ แต่ก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าใครคือฆาตกรกันแน่ บางคนก็บอกว่า เป็นการล้างแค้นของอิหร่านที่กำลังขัดแย้งกับซาอุฯ อยู่ บางคนก็โยงไปที่เรื่องกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เช่นเดียวกับประเด็นเพชร ก็มีความเป็นไปได้ เพราะคนที่ครอบครองเพชรที่แท้จริง อาจต้องการขู่ซาอุฯ ให้ยุติการสืบสวน
10
แต่ทั้งหมดทั้งสิ้น ตำรวจไทยไม่สามารถจับคนฆ่าทูตทั้ง 3 คนได้ ทั้งๆ ที่ก่อการอย่างอุกอาจขนาดนี้ และจริงๆ ก่อนหน้านี้ 1 ปี ทูตซาอุฯ หนึ่งคนโดนฆาตกรรมที่กรุงเทพฯ และเช่นกัน ที่ตำรวจไทยก็หาคนร้ายไม่ได้
8
ด้วยความตายของทูต 3 คน ทำให้ซาอุฯ เดือดดาลอย่างมาก วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2533 ซาอุฯ แสดงออกด้วยการลดระดับความสัมพันธ์กับไทย ไม่ต่อวีซ่าให้คนไทยที่ทำงานในซาอุฯ จากเดิมเคยมีคนไทยใช้แรงงานถึง 2 แสนคน ก็ค่อยๆ ลดเหลือแค่ 1 หมื่นคนเท่านั้น
5
ซาอุฯ เคยเป็นบ่อทองของแรงงานไทย ที่สามารถเข้าไปทำงานและโกยเงินกลับประเทศ ความสัมพันธ์อันแตกร้าวครั้งนี้ทำให้ขุมทรัพย์หายไปอย่างสิ้นเชิง รัฐบาลซาอุฯ แจ้งบริษัทในประเทศว่า ให้หาพนักงานชาติอื่นมาแทนคนไทยทันที
4
ไม่เพียงแค่นั้น รัฐบาลซาอุฯ สั่งห้ามประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวที่ไทยถ้าไม่จำเป็น ตามด้วยเรียกเอกอัครราชทูตของตัวเองกลับประเทศ และไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับไทยทุกกรณี ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ
1
เหตุการณ์เลวร้ายลงอีก ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2533 เมื่อรัฐบาลซาอุฯ ส่ง โมฮัมเหม็ด อัล-รูไวลี่ นักธุรกิจที่เป็นเชื้อพระวงศ์ซาอุฯ เข้ามาช่วยหาความจริงว่านักการทูตทั้ง 3 โดนใครฆ่า แต่ยังไม่ทันได้สืบสวนอะไร เขาก็โดนอุ้มหายกลางกรุงเทพ ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครพบเห็นอีกเลย แต่ทุกคนเชื่อว่าเขาโดนฆ่าทิ้งไปแล้ว
11
คดีของอัล-รูไวลี่นั้น ไทยไม่สามารถหาคนร้ายได้ มีการจับกุมตำรวจนครบาล 5 นาย ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มฆ่า แต่ในภายหลังศาลฎีกาก็ยกฟ้องไปแล้ว สรุปคือคดีนี้ ไม่มีคนโดนลงโทษเลยสักคนเดียว
16
มูฮัมหมัด ซาอิค โคจา อุปทูตซาอุฯ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ทั้ง 4 คนที่โดนฆาตกรรม น่าจะรู้ความคืบหน้าว่าเพชรอยู่ไหน จึงโดนสั่งเก็บ แต่สุดท้ายก็จับมือใครดมไม่ได้อยู่ดี
5
เมื่อเรื่องมันบานปลายถึงขนาดนี้แล้ว ฝั่งตำรวจไทยต้องกู้หน้าด้วยการทวงหาเพชรเอามาคืนซาอุฯ ให้ได้ และในที่สุดเดือนมีนาคม 2533 ตำรวจไทยนำโดย พล.ต.ต.ชลอ ก็ตามเพชรจำนวนมาก เอามาวางเรียงกันยาว 2 โต๊ะปิงปอง จากนั้นรีบทำการส่งคืนให้ซาอุฯ ทันที
6
ทุกอย่างเหมือนจะดี ทำให้ดร. อาทิตย์ อุไรรัตน์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศขณะนั้น เดินทางไปซาอุฯ เพื่อเจรจาขอให้ซาอุฯ ปลดแบนให้แรงงานไทย แต่ทางซาอุฯ สวนกลับมาว่า เพชรที่ส่งมาเกินครึ่งคือของปลอม ไม่มีราคาเลย และที่สำคัญ Blue Diamond ก็ยังหาไม่เจอ แบบนี้ไทยยังมีหน้ามาขอให้ปลดแบนอีกหรือ
10
ในมุมของซาอุฯ การกระทำของคนไทยแต่ละอย่าง คือการตบหน้ากันชัดๆ เช่น ไม่ส่งตัวคนขโมยมารับโทษที่ซาอุฯ คืนเพชรก็เอาเพชรปลอมมาให้ ส่งทูตไป 3 คนก็โดนฆ่า ส่งเชื้อพระวงศ์ไปก็โดนฆ่าอีก แล้วจับคนร้ายไม่ได้สักครั้ง
10
จากจุดนั้น นั่นทำให้ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ ก็สิ้นสุดลง ไม่มีทางญาติดีกันได้อีก เพราะการกระทำของฝั่งไทยมันแรงเกินไปสำหรับซาอุฯ จริงๆ
ถามว่าไทยเสียประโยชน์ไหม ก็ต้องยอมรับว่าเสีย เพราะแรงงานเราถูกมองข้าม Worker ไทย ตกงานนับแสน เช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยวไทย เมื่อไม่มีชาวซาอุฯ เดินทางมาเที่ยวรายได้เราก็หายไป ตัวอย่างเช่นในปี 2556 ในขณะที่มีชาวซาอุฯ มาเยือนไทย 24,834 คน แต่กลับไปเยือนมาเลเซีย ซึ่งเป็นชาติคู่แข่งขันด้านการท่องเที่ยว มากถึง 120,290 คน รายได้ที่ควรจะเป็นของเรา ก็สูญไปมหาศาล
6
จากนั้น มีอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวเนื่องกัน คือเมื่อซาอุฯ ตัดความสัมพันธ์แล้ว คนไทยก็เดือดร้อน รัฐบาลเองจึงอยู่เฉยไม่ได้ สั่งให้ตำรวจที่รับผิดชอบ คือ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ (ยศใหม่) ไปตามหาเพชรให้เจอให้ได้ โดยเฉพาะ Blue Diamond ขอแค่ได้เจออัญมณีที่สำคัญที่สุดก็ยังดี
1
กระแสสังคมตอนนี้ กล่าวหาว่าตำรวจชั้นผู้ใหญ่เองนั่นแหละที่เอาเพชรจริงไป แล้วส่งเพชรเก๊ไปคืนซาอุฯ ดังนั้น พล.ต.ท. ชลอ เกิดเทศ ก็ต้องโชว์ฝีมือในการหาเพชรของจริงให้ได้ ซึ่งเขาตัดสินใจใช้วิธี ไล่บี้จากนายสันติ ศรีธนะขันฑ์ เจ้าของร้านเพชรที่รับซื้อเพชรจากนายเกรียงไกรไปมากที่สุด คือฝั่ง พล.ต.ท.ชลอเชื่อจริงๆ ว่า นายสันติรู้ดี ว่า Blue Diamond อยู่ที่ไหน
8
แต่ปัญหาคือนายสันติไม่ยอมซัดทอดถึงใครเลย เพราะกลัวจะได้รับอันตรายจากผู้มีอิทธิพล ดังนั้น พล.ต.ท.ชลอ จึงตั้งใจลักพาตัวนายสันติไปซ้อมเพื่อให้สารภาพ แต่นายสันติหนีรอดจากการโดนลักพาตัวมาได้ ตำรวจจึงเปลี่ยนแผนไปตั้งด่านเถื่อน แล้วลักพาตัว ภรรยา - ดาราวดี ศรีธนะขัณฑ์ และ ลูกชาย - เสรี ศรีธนะขัณฑ์ วัย 14 ปี มาแทน โดยไปจับขังไว้ที่โรงแรมในจังหวัดสระแก้ว
13
หลังจากลักพาตัวมาแล้ว 1 เดือน นายสันติยังไม่ยอมบอกว่าเพชรอยู่ที่ใคร ถึงตรงนี้การเอาแม่ลูกมาขังไว้ที่โรงแรมเป็นเวลา 1 เดือนเต็มของตำรวจ เริ่มทำให้คนในพื้นที่สงสัยแล้ว ส่งผลให้ตำรวจต้องเลิกภารกิจนี้ แต่พวกเขาก็รู้เช่นกันว่า แม่ลูกศรีธนะขัณฑ์เห็นใบหน้าของตัวเองแล้ว เพื่อไม่ให้โดนซัดทอด จึงลงมือฆ่าทั้งคู่จนตาย ก่อนจะอำพรางศพไว้ในรถเบนซ์ แล้วสร้างสถานการณ์ว่าสองแม่ลูกโดนรถบรรทุกชนตายแทน
17
ตอนนี้มีตำรวจสองกลุ่มที่ทำงานขนานกันไป คือตำรวจกลุ่มชลอ เกิดเทศ ที่ทำทุกวิถีทางเพื่อล่าเพชรคืนมาให้ได้ กับอีกกลุ่มคือ กลุ่มของ พล.ต.ต.วรรณรัตน์ คชรักษ์ ผู้บังคับการกองปราบ ที่เห็นความผิดปกติมากมายในการตายของ 2 แม่ลูก จึงพยายามไล่จับคนร้ายตัวจริงให้ได้
4
และสุดท้ายกลุ่มของ พล.ต.ต.วรรณรัตน์ ก็เป็นฝ่ายชนะ เมื่อหาหลักฐานจนสาวตัวไปถึง พ.ต.ท.พันธ์ศักดิ์ มงคลศิลป์ ลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.ท.ชลอ ที่เป็นคนฆ่า 2 แม่ลูกได้สำเร็จ ก่อนที่ พ.ต.ท.พันธ์ศักดิ์จะยอมรับแล้วซัดทอดทั้งขบวนการ ว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง
6
พล.ต.ท.ชลอ ผู้สั่งการโดนศาลฎีกาลงโทษประหารชีวิต แต่ก็ไม่โดนประหารจริง สุดท้ายโดนจำคุก 18 ปี ก็โดนปล่อยตัวออกมา ขณะที่ตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยของเขา ก็ถูกส่งต่อให้วิจิตร เกตุแก้ว
7
ในยุคนั้นชลอ เกิดเทศ จะมีประโยคที่เขาพูดเสมอคือ "ทำงานนี้เพื่อชาติ" ในมุมของเขา การอุ้มคนไปสอบก็เพื่อเค้นความจริงมาให้ได้ เป็นวิธีดีที่สุดที่จะตามเพชรซาอุฯ ให้เจอ แต่แน่นอน โลกเราไม่สามารถรับได้กับการฆาตกรรมผู้อื่น ไม่ว่าคุณจะมีเจตนาอะไร จะบอกว่าทำเพื่อชาติแล้วยังไง มันฟังไม่ขึ้นทั้งนั้น
1
ส่วนฆาตกร คือ พ.ต.ท.พันธ์ศักดิ์ โดนโทษจำคุก 40 ปี สุดท้ายพอติดคุกแค่ 18 ปี ก็โดนปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำ และพอโดนปล่อยออกมา พ.ต.ท.พันธ์ศักดิ์ ก็ไปรับงานเป็นนักฆ่า เขาไปสังหารนั่งยางเสี่ยอ้วนแห่งตลาดโรงเกลือ ตามด้วยฆ่าเจ้าของปั๊มน้ำมันที่จังหวัดสระแก้ว ก่อนสุดท้ายจะโดนจับกุมในที่สุด
9
คดีสองแม่ลูกศรีธนะขัณฑ์จบลงแล้ว ตำรวจจึงเดินหน้าหาเพชรต่อ โดยคาดว่าตอนนี้เพชรคงกระจายไปทั่วประเทศแล้ว พวกเขาจึงใช้กลยุทธ์ "ไม่ตั้งข้อหาคนที่เก็บเพชรซาอุฯ ไว้" กล่าวคือคนที่ครอบครองไว้ สามารถเอาเพชรมาคืนได้เลย โดยฝั่งตำรวจอธิบายเหตุผลว่า ต่อให้เก็บเพชรซาอุฯ ไว้ ก็เอาไปขายต่อไม่ได้ ใส่ไปไหนก็ไม่ได้ นอกจากนั้นการส่งคืนยังเป็นการปลดเปลื้องตราบาปด้วย เพราะทรัพย์สินที่ได้จากการขโมยมา เก็บไว้กับตัว ไม่มีทางสบายใจได้หรอก
10
สุดท้ายตำรวจได้เพชรคืนมาส่วนหนึ่งและส่งคืนไปให้ราชวงศ์ซาอุฯ แต่ปัญหาอยู่ที่ เพชรชิ้นสำคัญที่พวกเขาต้องการมากที่สุดคือ Blue Diamond ยังคงหายสาบสูญอยู่
3
มูฮัมหมัด ซาอิค โคจา อุปทูตซาอุฯ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า เพชรอันอื่นไม่เป็นไร แต่ Blue Diamond มีความหมายต่อจิตใจของเจ้าชายไฟซาลอย่างแท้จริง ดังนั้นจึงอยากได้คืนเป็นอย่างมาก และถ้าไทยหามาคืนได้ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็จะกลับมาดีขึ้นอีกครั้งแน่นอน
3
แต่จนแล้วจนรอด ไทยก็ไม่สามารถหาเพชร Blue Diamond เจอ นั่นส่งผลให้ความสัมพันธ์ของไทยกับซาอุฯ จึงเคว้งคว้างอยู่แบบนั้น
1
มุมของซาอุฯ ก็มีสิทธิ์จะคิด ว่าเพชรเม็ดใหญ่ ที่เป็นเอกลักษณ์ขนาดนั้นมันหายไปไหนได้ ฝั่งไทยเองหรือเปล่าที่คิดจะออกตัวล้อฟรี ไม่ตั้งใจหาจริงๆ จังๆ
1
แต่ปัญหาของเรื่องนี้คือ Blue Diamond ไม่มีรูปถ่าย มีเพียงคำบอกเล่าของซาอุฯ เท่านั้น ว่ามีรูปร่างเป็นอย่างไร แต่ฝั่งทูตซาอุฯ ยืนยันชัดเจนว่า "มันมีจริง" ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีเรื่องมีราวจนต้องแบนไทยกันขนาดนี้
2
อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าการตามหาเพชร Blue Diamond ที่ไม่มีภาพถ่าย มันก็เป็นอะไรที่ยากแสนสาหัสสำหรับฝั่งไทยมากจริงๆ
 
เมื่อไม่สามารถหาเพชรได้เจอ และคลี่คลายเรื่องคดีฆาตกรรมชาวซาอุฯ ไม่ได้ ความสัมพันธ์ของสองประเทศก็แย่มาโดยตลอดนับจากนั้น ทุกอย่างอยู่ในระดับต่ำสุด โดยซาอุฯ ถึงขั้นให้อุปทูตกลับประเทศ แล้วใช้งานเลขานุการโท เป็นคนรับผิดชอบงานในไทยแทน
6
จากวันที่ซาอุฯ แบนไทย ในปี 2533 ผ่านมา 32 ปี เข้ามาสู่ปัจจุบัน ในปี 2565
 
เมื่อตัดภาพกลับมา เราได้เห็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ได้รับคำเชิญจากเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมาร และรองนายกฯ ซาอุดิอาระเบีย ให้ไปเยือนกรุงริยาดอย่างเป็นทางการ
16
ที่น่าสนใจคือ ไม่ใช่แค่นายกฯ ไปเยือนเฉยๆ ตามมารยาท แต่ตัวแทนทั้ง 2 ประเทศได้คุยกันถึงโปรเจ็กต์ต่างๆ และพร้อมที่จะทำธุรกิจกันอีกครั้งด้วย
2
คำถามคือ ท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้น และความบาดหมางมาตลอด 3 ทศวรรษ อะไรเป็นจุดเปลี่ยน ทำให้ซาอุฯ โอเคที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับไทย
4
คำอธิบายจาก ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยว่า ผู้นำรุ่นใหม่ของซาอุฯ ไม่ได้ติดใจเรื่องในอดีต นอกจากนั้นซาอุฯ ยังมีนโยบาย Saudi Vision 2030 ที่ต้องการสานสัมพันธ์กับทุกประเทศในโลก และไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น
8
ทางฝั่งผู้นำซาอุฯ เป็นกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ที่พร้อมจะ "เริ่มต้นใหม่" ไม่เก็บเรื่องของผู้ใหญ่ในยุคอดีตมาแค้นเคือง เพราะมันก็ผ่านมานานมากแล้ว เจ้าชายไฟซาลและพระชายา ก็สวรรคตแล้วทั้งคู่
6
ขณะที่ฝั่งของไทย ก็ต้องให้เครดิตที่ไม่ได้ตั้งรับอย่างเดียว กระทรวงต่างประเทศ พยายาม Take Action เช่นกัน เราจะเห็นจากตัวอย่าง เช่นในปี 2559 มีการหารือ 3 ฝ่าย ไทยกับซาอุดิอาระเบียได้มาคุยกัน โดยมีบาห์เรนเป็นตัวกลางคอยเชื่อมให้
7
การค่อยๆ สร้างความสนิทใจทีละนิด ทำให้ในปี 2563 รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของซาอุฯ ก็เชิญ ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว. ต่างประเทศของไทย ไปเยือนอย่างเป็นทางการ คือมีความขยับเขยื้อนในความสัมพันธ์ให้เห็น จนมาถึงการเชิญนายกฯ ไทย ไปในครั้งนี้ ก็ชัดเจนแล้วว่า เขาโอเคที่จะสร้างความสัมพันธ์ดีๆ กับประเทศเราขึ้นมาอีกรอบ
10
มุมบวกที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ ถ้าทั้ง 2 ประเทศสามารถจับมือกันได้ คือแรงงานไทยจะได้โอกาสทำงานที่ซาอุฯ อีกครั้ง คราวนี้อาจจะพุ่งไปถึงหลักแสนคนอีกก็เป็นได้ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวของไทยก็จะได้อานิสงส์ด้วย มีนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักบินมาเพิ่ม
7
ขณะที่ฝั่งซาอุฯ มีความตั้งใจชัดเจน ที่จะสร้าง "ความมั่นคงด้านอาหาร" กล่าวคือซาอุฯ อาจมีน้ำมันดิบมากมาย แต่ด้วยพื้นที่ของประเทศที่เป็นทะเลทราย ทำให้การเพาะปลูกพืชพันธุ์ทำได้ยาก ดังนั้นซาอุฯ จึงมีนโยบาย Contract Farming จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับไร่นาของประเทศอื่น เพื่อปลูกข้าว หรือพืชไร่ ป้อนให้ซาอุฯ โดยเฉพาะ ซึ่งประเทศไทยมีไร่นาอุดมสมบูรณ์ สามารถเข้ามาเติมเต็มในสิ่งที่ซาอุฯ ต้องการได้อย่างลงตัว
4
ในภาพรวม ถือเป็น Win-Win Situation การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันในยุคนี้ ย่อมดีกว่าขัดแย้งกันอย่างไม่ต้องสงสัย มีมิตรก็ย่อมดีกว่ามีศัตรูเป็นธรรมดา
6
บทสรุปของเรื่องนี้ คือทุกอย่างที่ติดล็อกกันมา 32 ปี ความสัมพันธ์ที่เคยแตกร้าวของไทยกับซาอุฯ อาจจะค่อยๆ เริ่มต่อติดกันในวันนี้ การที่ผู้นำไทย ได้รับคำเชิญอย่างเป็นทางการจากผู้นำซาอุฯ เชื่อว่าใครๆ ก็คงไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ
2
แต่แน่นอน เรื่องเก่าๆ ที่เคยเจ็บกันมา คงไม่สามารถลบเลือนได้ และฝั่งไทยเองก็รู้ดี ตอนไปเยือนริยาด พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวว่า "เสียใจอย่างยิ่งต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทยระหว่างปี 2532-2533 ยืนยันว่าไทยได้พยายามอย่างที่สุดแล้วในการสะสางกรณีต่างๆ และหากมีหลักฐานใหม่ ก็พร้อมที่จะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา" ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าทางซาอุฯ จะค่อยๆ ทำใจได้ กับเรื่องราวเลวร้ายในอดีต
6
ในขณะที่คำถาม 2 ข้อ ที่ถึงวันนี้ยังคงไม่มีใครรู้คำตอบ นั่นคือ
2
1- ใครฆ่าทูตซาอุฯ กับ โมฮัมเหม็ด อัล-รูไวลี่
2
และ 2- เพชรแห่งราชวงศ์ Blue Diamond มีจริงหรือไม่ และถ้ามีจริง สุดท้ายแล้วมันอยู่ที่ไหนกันแน่
3
แต่ในเมื่อซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้เสียหาย พร้อมที่จะ Move On แล้ว เราก็คงจะพอสรุปได้เลยว่า คำถามทั้ง 2 ข้อนี้ คงจะต้องเป็นปริศนาไปตลอดกาล
6
#forgetthepast
#startthenew
โฆษณา