ล่องน่านกันเต๊อะ!
- ★หลงไปในเมืองน่าน (Part 5)
ทิ้งช่วงไปนานกลับมาแล้วค่ะ หลงเที่ยวสไตล์ part นี้จะพาไปเที่ยวในตัวเมืองน่านและรอบๆกันค่ะ
ช่วงที่เราไปนั้น คณะสถาปัตย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับเทศบาลเมืองน่านจัดกิจกรรม "ล่องน่านยามแลง" พอดี เป็นการนั่งรถรางเที่ยวชมวัดวาอาราม และบรรยากาศเมืองเก่ายามค่ำคืน ปกติเคยเที่ยวแต่กลางวัน ครั้งนี้มีโอกาสได้เข้าชมวัดตอนกลางคืนเราเลยสมัครไปค่ะ
เส้นทางรถราง เริ่มตั้งแต่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ผ่านศาลพระหลักเมืองน่าน
วัดมิ่งเมือง วัดศรีพันต้น กำแพงเมืองเก่าน่าน วัดสวนตาล (ถ่ายด้วยมือถือจากบนรถราง ภาพอาจจะไม่สวยเท่าไรนะคะ)
ระหว่างนั่งรถรางชมสถานที่ต่างๆ ก็จะได้รับฟังบรรยายประวัติความเป็นมาของสถานที่จากอาจารย์วิทยากรด้วยค่ะ
จากนั้นรถรางจะพาเราข้าม สะพานพัฒนาภาคเหนือไปยังวัดพระธาตุแช่แห้ง และจอดให้เราเข้าไปไหว้พระ เดินชมสถานที่ค่ะ
ภายในวัดพระธาตุแช่แห้งยามค่ำคืน เสียดายที่กำลังบูรณะพระธาตุพอดี เลยถ่ายติดโครงเลย
เดินไปฟังบรรยายไป ซึ่งอาจารย์บรรยายดีมากๆ เล่าความเป็นมา ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ปะติมากรรมต่างๆ ฟังแล้วรู้สึกได้ถึงความรักและ passion ในการทำงานด้านนี้เลย
สถานที่สุดท้าย คือ ซุ้มลีลาวดี ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านค่ะ เราอยากถ่ายรูปไลท์อัพซุ้มลีลาวดีมาก แต่เอาเข้าจริงดูหลอนๆมากกว่า ^^" ถ่ายแค่วิวแหละค่ะดีแล้ว
จริงๆแล้วบริเวณนั้นมีวัดเยอะมากๆ และวันศุกร์-อาทิตย์ ยังมีถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน บริเวณหน้าวัดภูมินทร์ด้วยนะคะ สามารถเดินซื้อของกินมานั่งทานขันโตกบริเวณลานข่วงเมืองน่านพร้อมรับฟังดนตรีได้
ซึ่งช่วงที่เราไป เขามีการตรวจใบฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และให้สวมหน้ากากอนามัยด้วยระหว่างเดินในตลาดด้วย
ใกล้ๆยังมีวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ซึ่งประดับไฟสวยงามเลย ว่าแล้วก็เดินเข้าไปทำบุญ ถ่ายรูปเก็บไว้ซะหน่อย
ชมบรรยากาศกลางคืนไปแล้ว มาชมบรรยากาศตอนกลางวันบ้างดีกว่าค่ะ ^^
มาน่านทั้งทีจะขาดสถานที่นี้ไม่ได้ เป็นเป้าหมายที่เพื่อนเราอยากมาเลย นั้นคือวัดภูมินทร์ กับภาพกระซิบรักบรรลือโลกค่ะ
วัดภูมินทร์ เป็นวัดที่พระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เจ้าผู้ครอง เมืองน่านได้สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2139 โดยพระอุโบสถเป็นทรงจตุรมุข (พระอุโบสถที่ประกอบด้วยมุขสี่ด้าน) ข้างในประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ออก ด้านประตูทั้งสี่ทิศ
ด้านในเป็นภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังหลายภาพ ซึ่งภาพที่โด่งดัง คือภาพ "ปู่ม่านย่าม่าน" หรือ "กระซิบรักบรรลือโลก" ซึ่งเขากระซิบกันว่า
คำฮักน้อง กูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว
จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาคะลุม
จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป
ก็เลยเอาไว้ในอกในใจตัวชายปี้นี้ จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้
ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา…
(ความรักของน้องนั้น พี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว
จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาว ก็กลัวเมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย
หากเอาไว้ในวังในคุ้ม เจ้าเมืองมาเจอก็จะแย่งความรักของพี่ไป
เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง
ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น)
กระซิบซะหวานเหลือเกิน ^^
ส่วนรูปทางขวา เราเรียกกับเพื่อนเล่นๆว่า โมนาลิซ่าเมืองน่านค่ะ แอบไปเนียนฟังไกด์บรรยายให้นักท่องเที่ยวคนอื่นฟัง แต่เสียดายที่จำเรื่องราวไม่ได้แล้ว
สถานที่ถัดไปอยู่ใกล้ๆเลยค่ะ นั้นคือ.....
📍 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน / ซุ้มลีลาวดี
เวลาเปิด-ปิด : พ. - อา. 9.00-16.00
ค่าเข้าชม 20 บาท
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ น่าน จัดแสดงวัตถุโบราณและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ไฮไลท์อยู่ที่ชั้น 2 คือห้องจัดแสดงงาช้างดำ สมบัติคู่เมืองน่านค่ะ ใครสนใจมาเดินดูได้นะคะ ค่าเข้าไม่แพง 20 บาทค่ะ
ถ่ายกับซุ้มลีลาวดีบริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์บ้าง มากี่ทีก็เจอแต่กิ่งก้านตลอดเลย ไม่เจอใบซะที
📍 หอศิลป์ริมน่าน
เวลาเปิด-ปิด : จ-อา 8.30-17.00 น. หยุดวันพุธ
ค่าเข้าชม 20 บาท
หอศิลป์ริมน่าน หรือ หอศิลป์น่านริเวอร์ไซด์ ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำน่าน ขับรถไปไม่ไกลจากตัวเมือง เป็นสถานที่สุดท้ายที่เราแวะก่อนกลับ กทม. เป็นสถานที่จัดแสดงภาพวาดต่างๆ มี 2 ชั้นค่ะ
มาชมบริเวณรอบๆด้านนอกกันก่อน
ด้านใน มีรูปภาพเยอะมาก บริเวณที่จัดแสดงกว้างขวาง
ปู่ม่านไปกระซิบรักสาวญี่ปุ่นซะแล้ว ><"
ถัดไปเป็นอีกอาคารค่ะ ชื่อ เฮือนหนานบัวผัน อาคารนี้รวมภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยจัดแสดงอยู่ชั้นใต้ดิน
จบแล้ว เป็นยังไงบ้างคะกับจังหวัดพะเยาและน่าน เป็นที่เที่ยวที่น่าสนใจมากเลยเนอะ ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และกลิ่นอายความเป็นเมืองเก่า ทำให้เมืองนี้ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลทีเดียว
ปีนี้เราจะไปหลงที่ไหนต่อนั้นติดตามได้นะคะ ^^ (เที่ยวปีนึง โพสต์จบอีกปีนึง 55) สำหรับใครที่ตามอ่านจนถึงตอนนี้ ขอบคุณมากๆ นะคะ
บ๊าย บาย ^^
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
