ทำอย่างไรจึงจะเรียนจบปริญาเอกได้
หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่มีความใฝฝันอยากจะเรียนต่อในระดับปริญญาเอกละก็บทความนี้ใช่เลย...
...ก่อนอื่นขอถามก่อนว่า คุณอยากเรียนปริญญาเอกเพราะอะไร ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อน เพราะเป็นวัตถุประสงค์ของการศึกษาในระดับปริญาเอกเลยทีเดียว....
...แต่ละคนก็จะมีเหตุผลแตกต่างกันไปไม่ซ้ำกันควรบันทึกไว้ว่ามีกี่ข้อนะครับทุกความคิดเมื้อจบแล้วจะได้มาประเมินกันว่าเราได้ทำตามวัตถุประสงค์หรือไม่.
....เหตุที่จำเป็นต้องมีวัตถุประสงค์เพราะการศึกษาในระดับปริญาเอกนั้นเป็นเรื่องสำคัญต้องทุ่มเททุกสรรพกำลังเพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งคุณวุฒิปริญญาเอกเรียกว่าด็อกเตอร์ได้หากยังเรียนอยู่ยังเรียกไม่ได้เพราะยังไม่สำเร็จการศึกษา..
....เฉพาะการศึกษาในไทยมีสถาบันการศึกษาหลายแห่งที่เปิดการเรียนการสอนถึงระดับปริญญาเอกซึ่งเราสามารถค้นหาได้ทางอินเทอร์เน็ต..
...จะต้องเตรียมตัวอย่างไรในการเข้าไปเรียนได้...
...แน่นอนคุณจะต้องฝ่าด่านปัญหาและอุปสรรคต่างๆมากมายนับไม่ถ้วนเพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมแต่เนิ่นๆ พอจะหยิบยกมาเป็นตัวอย่างดังต่อไปนี้...
....ด้านร่างกาย แน่นอนคุณต้องแกร่งต้องมีความอึดมีความอดทนทางด้านนี้มากพอๆกับกับการเข็นครกขึ้นภูเขาเลยทีเดียว การนั่งในชั้นเรียนบางรายวิชา การศึกษาต้องเดินทางไปต่างสถาบันทั้งในและต่างประเทศต้องเดินทางนั่งรถนั่งเรือนั่งเครื่องบินสิ่งที่ไม่เคยทำก็ต้องทำสิ่งที่ไม่เคยเห็นก็ต้องเห็นกลับสถาบันแล้วต้องมาสรุปวิเคราะห์วิพากวิจารย์ร่วมกันในห้องเรียน ต้องนั่งทนเวลาส่วนใหญ่เป็นการนั่งและเดินเรานั่งเรียนในแต่ละวิชาและเดินหาชั้นเรียนต้องมีทักษะการพิมพ์งานและต้องใข้ความอดทนในการนั่งทั้งพิมพ์และอ่าน ผู้เรียนจะต้องค้นคว้าหาข้อมูลโดยการอ่านให้มากที่สุดในแต่ละประเด็นเพื่อนำหัวข้อมาเสริมในประเด็นที่ตนศึกษา
..ความอดทนทางกายจึงเป็นเสาหลักของการศึกษา เราจึงควรหมั่นฟิตร่างกายไว้สม่ำเสมอข้อนี้สำคัญมากจะขาดเสียมิได้เลยตั้งแต่วันแรกจนถึงวันรับพระราชทานปริญญาบัตร..
....ประการที่สองต้องเตรียมตัวด้านภาษาอังกฤษ ถึงแม้จะเป็นการศึกษาภายในประเทศก็ตาม แต่ตำรับตำราที่ค้นคว้าล้วนมาจากต้นฉบับที่ใหม่ที่เรียบเรียงจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อใข้อ้างอิงประกอบในการทำรายงานและวิทยานิพนธ์อีกทั้งสถาบันการศึกษาของไทยเราจะตั้งกำแพงด้านภาษาไว้ว่าจะต้องผ่านเกณฑ์การสอบวัดความสามารถด้านภาษาอังกฤษไว้สูงทีเดียวหากด่านนี้ไม่ถึงเกณฑ์ระดับความรู้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษในการวัดผลการสอบเข้าทางสถาบันก็จัดให้มีคอร์สเรียนซึ่งสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่จะมีศูนย์ภาษาผู้ศึกษาจะต้องลงคอร์สเรียนและสอบวัดระดับควบคู่กันไปกับการศึกษาในรายวิชาของหลักสูตร ซึ่งยุ่งยากมากแต่ถ้าใครเก่งภาษาก็ไม่ต้องเรียนไปสอบให้ผ่านแล้วผลที่ได้มามอบให้กับทางสถาบันก็ถือว่าหินมากสำหรับคนไทยเลยทีเดียวซึ่งมีเพื่อนหลายคนเรียนวิชาเอกหมดแล้วแต่ภาษาก็ยังไม่ผ่านก็ถือว่าไม่จบปริญญาเอกนะครับเป็นที่เรื่องน่าเสียดาย
...เตรียมหัวข้อวิทยานิพนธ์ที่คาดว่าจะทำการวิจัยเพื่อจบการศึกษาในระดับปริญญาเอก แน่นอนทีเดียวผู้ศึกษาจะต้อวทำทุกคนคือวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาเอกนั่นหมายถึงไฮไลท์สำคัญของการเรียนและจบการศึกษาผู้เข้าศึกษาจะต้องผ่านการศึกษาและทำการวิจัยทำวิทยานิพนธ์ในการศึกษาระดับปริญญาโทมาแล้วควรคิดหัวข้อไว้แต่เนิ่นๆว่าเมื่อเข้าศึกษาปริญญาเอกเราสนใจทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับอะไรและเรื่องที่จะศึกษาอะไรต้องเตรียมเค้าโครงงานวิจัยส่งภาควิชาในเอกสารการสมัครเรียน
...ประการที่สามสิ่งที่จะต้องเตรียมคือสอบข้อเขียนในรายวิชาสาขาวิขาเอกที่เราจะต้องเรียนแน่นอนเมื่อเราจบปริญญาโทสาขาใดส่วนใหญ่ก็จะเข้าศึกษาในสาขานั้นต่อยอดก็จะมีพื้นความรู้เดิมมาทำการสอบเพื่อเรียนต่อก็มีความยากน้อยกว่าผู้ผู้ที่มีสาขาไม่สัมพันธ์กันกับพื้นความรู้เดิม
...ข้อสอบส่วนใหญ่จะเป็นอัตนัยตอบบรรยายตามโจทย์ที่ให้มาเพื่อแสดงกื๋นของเราว่าเรามีความเหมาะสมที่จะเข้าใปนั่งเรียนหรือไม่
....ประการที่สี่การสอบส้มภาษณ์ ด่านนี้จัดว่าหินอีกด่านสำหรับหลายคนที่เดียวเพราะแต่ละคนก็อาศัยเทคนิควิธีไม่ซ้ำกับใครขึ้นอยู่กับใครมีปฏิพานไหวพริบดีกว่าใครอัตราส่วนผู้สมัครสอบสัมภาษณ์กับผู้ผ่านเข้าเรียนเป็นตัวกดดันดังนั้นทักษะการพูดผู้ประสงค์เข้าเรียนในระดับนี้ต้องฝึกฝนไว้ให้มากพอกับประการอื่นๆ และที่สำคัณจะต้องตอบตรงประเด็นผู้สัมภาษณ์เราให้ได้ส่วนใหญ่บทสัมภาษณ์จะเป็นแนวความคิดเห็นตรรกะการวิเคราะห์วิจารย์และวิสัยทัศน์..
...ประการที่ห้าเสบียงสำคัญที่สุดก็คือเงิน ถือเป็นยุทธปัจจัยทีเดียวเงินช่วยให้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก ค่าเทอมการศึกษา ค่าเอกสารตำรา ค่าสอบวัดเทียบภาษา ค่าเรียนพิเศษรายคอร์ส ค่ากินค่าเดินทางค่าวัสดุอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พริ้นเตอร์ฯลฯ การทำวิจัยต่างสถานที่มีค่าใข้จ่ายมากมากคำณวนยากเพราะขึ้นอยู่กับเรื่องที่สนใจสถานที่เวลาและปริมาณตั้งแต่ต้นจนจบการดำรงชีวิตขณะศึกษาต้องมีเสบียงมากพอบางท่านมีทุนการศึกษาก็ถือเป็นโชคส่วนใหญ่ใช้ทุนเอง ปัจจัยนี้สำคัญชี้เป็นชี้ตายเลยทีเดียวครับบางคนกู้มาเรียนจบไปจนเกษียณแล้วก็ยังใช้หนี้ไม่หมดเลยก็มี
...ปัจจัยประการสุดท้ายซึ่งสำคัญสุดคือมีใจสู้อย่างไม่ท้อถอย คุณจะต้องมีใจอดทนมีความอึดพอที่จะต้องต่อสู้ให้ฝ่าด่านต่างๆ ตั้งแต่เริ่มเตรียมตัวก่อนเรียน การหาข้อมูลด้านสถานที่หรือสถาบันที่สนใจสาขาที่จะเรียนความยากง่ายของหลักสูตร การจะนำมาใข้เมื่อสำเร็จการศึกษา...การเตรียมตัวสอบวัดความรู้ทั้งเนื้อหาวิชาและภาษาควบคู่กันไปขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้เตรียมหัวข้อวิจัยทำเพื่อจบการศึกษา ระหว่างเรียนต้องกินต้องอยู่ค่าครองชีพค่าเดินทางที่พักอบรมสัมมนาต่างสถาบันต่างจังหวัดต่างประเทศ ต้องค้นคว้าค่าหนังสือค่าตำราค่าคอมพิวเตอร์พริ้นเตอร์รายงานค่าถ่ายเอกสารจิปาถะการเรียนในแต่ละรายวิชาต้องอึดทั้งกายและใจทนเรียนทนทนงานส่งทนการกระทบกระทั่งทนเรื่องราวต่างๆมากมายต้องเข้าร่วมกิจกรรมส่วนรวมและกิจกรรมสถาบัน อึดต่อการแก้ไขวิทยานิพนธ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าๆๆๆๆ
..อึดต่อการนำเสนอวิทยานิพนธ์ทนต่อการสอบวิทยานิพนธ์ อึดต่อการนำเสนองานเพื่อตีพิมพ์ในวารสารวิจัยทั้งในและต่างประเทศซึ่งเรื่องราวต่างๆดังกล่าวมานี้ไม่เคยร่ำเรียนมาจากที่ไหนมาก่อนเลยท่านต้องมาเผชิญชีวิตด้วยตนเอง ที่เพื่อนๆหลายคนบอกกันในหมู่เพื่อนด้วยกันเองว่า"หากอยากจะรู้ว่านรกมีจริงต้องลองมาศึกษาปริญญาเอกดู"
...ที่ผู้เรียบเรียงต้องใช้คำว่าอึดเพราะมีเหตุอันควรแก่การใข้จริงๆเพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้ต้องการศึกษาในระดับปริญญาเอกภายในประเทศว่าจะต้องเตรียมตัวและปฎิบัติตนอย่างไรจึงจะคู่ควรกับใบปริญญาบัตรที่เราควรภาคภูมิใจในเกียรติยศและศักดิ์ศรีที่ได้มา
...การสอบเข้าเรียนว่ายากแล้วการเรียนและการรักษาสภาพนิสิตยิ่งยากกว่าดังหัวข้อหลายประการที่กล่าวมาทั้งหมดและยังมีที่ไม่ได้กล่าวคือยังกล่าวไม่หมดรอผู้สนใจใฝ่รู้ใคร่เรียนมาเผชิญด้วยตนเองบ้างเผื่อจะได้มีข้อคิดใหม่ๆมาเพิ่มเติม
สำคัญที่สุดก็คือเมื่อเรียนสำเร็จการศึกษามาแล้วจะนำมาใช้ประโยชน์อย่างไรกับประเทศชาติและบ้านเมืองท่านใดอ่านมาถึงจุดนี้แล้วอยากท้าทายความสามารถของตนเองก็"เตรียมตัว เข้าที่ ไป" ได้เลย
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
