29 ม.ค. 2022 เวลา 02:17 • ความคิดเห็น
คนเรา ควรเรียนรู้ ความสุข ความทุกข์ รู้ว่าทำไมเราถึงสุข รู้ว่าอะไรที่ทำให้เราทุกข์ และทุกข์จากสาเหตุใด เรายังเป็นปถุชนคนกินข้าว ย่อมมีสุข มีทุกข์ ปะปนกันไป เมื่อรู้เหตุแล้วพิจารณาต่อว่า เราได้ทำอะไรไปแล้วหรือยัง ได้ทำเต็มที่ด้วยความอุตสาหพยายามแล้วหรือไม่ ถ้ายังขาดก็ปรับปรุง ถ้าทำเต็มที่แล้ว ก็พอแล้ว ปล่อยวาง เลือกที่จะสุขกับคนและสิ่งของที่เราพอใจ และพิจารณาละวางถอยออกจากความทุกข์ ที่ทำให้เราไม่สบายใจ หรือเรียกว่าหัดตัดใจ เพราะเราได้ทำเต็มที่ด้วยความปรารถนาที่ดีแล้วหมดหน้าที่เราแล้ว เขาหรือคนอื่นจะเป็นหรือคิดเห็นอย่างไร เป็นเรื่องของเขา ถ้ายังดีเราก็พอใจ ถ้าไม่ดี ก็เป็นทางเลือกของเขา ปล่อยไปจากเรา เพราะคงไม่มีโชควาสนาต่อกัน มีลาบ ทิ้งไว้นานลาบก็บูด (มีลาภเสื่อมลาภ) มียศตำแหน่ง ก็มีวันเกษียณ มีรักก็มีความสุข เสียของรักก็ปล่อยเขาไปอย่าไปทุกข์
ค่อยๆปฏิบัติ ค่อยทำไป แต่ทำอย่าให้หยุด มุ่งทำแต่กรรมดี เพราะเป็นสิ่งเดียวที่จะติดตัวเราไปตลอด ไม่ใช่เงิน ทอง ยศศักดิ์ คนรัก เพื่อนฝูง ซึ่งถ้าเรามุ่งดีประกอบกรรมดี ก็จะเกิดบุญ สะสมบุญมากๆไปก็ก่อเกิดบารมี สิ่งของต่างๆ เพื่อนฝูงคนรัก ที่มีวาสนาต่อกันก็จะมีตามมาเอง คนเสมอกัน จะมาร่วมสร้างกรรมดีร่วมกัน
ศาสนา โดยเอกลักษณ์เฉพาะของศาสนาพุทธ คือการเรียนรู้ และการมุ่งมั่นปฏิบัติ ไม่ได้สอนให้หลงไหล ไม่ได้สอนให้เชื่อ โดยไม่พิจารณา แต่สอนให้มีสติ สอนให้ปฏิบัติกรรมดี สอนให้ฝึกใจ ฝึกตน เพื่อมีสมาธิ ก่อเกิดปัญญา ในเหตุและผล แห่งอารมย์ ทั้งสุขและทุกข์ แล้วจึงพิจารณาหาทางดับทุกข์ พร้อมทั้งไม่หลงระเริงในความสุขอันเป็นกิเลส เพื่อพัฒนาตนต่อไป
โฆษณา