31 ม.ค. 2022 เวลา 02:20 • ประวัติศาสตร์
“การระบาดของโรคชอบเต้น ค.ศ. 1518 (Dancing plague of 1518)” เมื่อผู้คน “เต้น” จนตาย
ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ได้เกิดโรคระบาดหลายครั้งหลายครา
แต่เชื่อแน่ว่าไม่มีการระบาดของโรคครั้งไหนจะแปลกประหลาดเท่ากับ “การระบาดของโรคชอบเต้น ค.ศ. 1518 (Dancing plague of 1518)”
เรื่อวราวเป็นอย่างไร ลองไปดูกันครับ
ในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ.1518 (พ.ศ.2061) ได้มีหญิงผู้หนึ่ง นามว่า “Frau Troffea” ได้ออกมาเต้นรำกลางถนนของเมืองสตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส โดยขณะนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
Troffea ได้เต้นไปเรื่อยๆ อย่างไม่สามารถควบคุมตนเองได้ สร้างความพิศวงให้ผู้พบเห็น
Troffea ได้เต้นไปเรื่อยๆ จนรู้สึกเหนื่อย และก็จะพัก ก่อนจะกลับไปเต้นต่อ และเต้นต่อเนื่องยาวไปเป็นวันๆ ตามมาด้วยผู้คนอีกกว่า 30 คนที่เข้ามาร่วมเต้นกับเธอ
เหล่าคนที่เข้ามาร่วมเต้นจะเต้นต่อเนื่องเป็นชั่วโมงๆ จนเหนื่อย และจำนวนคนที่เข้ามาร่วมเต้นก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ วัน ทำให้ทางการเริ่มจับตามอง
ทางการได้ตัดสินใจที่จะเข้ามาดูแลเรื่องนี้ และวิธีการแก้ปัญหาของทางการ ก็คือการทำให้ผู้คนเต้นให้มากขึ้น
ทางการจึงจัดศาลากลางเมือง สร้างเวที และจ้างให้นักดนตรีและนักเต้นมืออาชีพเข้ามาช่วยเหล่าผู้คนที่เต้นอย่างไม่ยอมหยุด
ปรากฎว่าการแก้ปัญหาของทางการ กลับไม่ได้ผลอะไร อาจจะแย่กว่าเดิมซะอีก ซึ่งหากใครมาเห็น ก็คงจะคิดว่านี่เป็นงานเลี้ยงอะไรซักอย่าง แต่เมื่อมาดูใกล้ๆ ก็จะเห็นว่าตามเสื้อผ้าของเหล่าผู้คนที่เข้ามาเต้น เต็มไปด้วยเลือด เหงื่อ บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด อีกทั้งแขนขาก็อ่อนล้า
ผู้คนที่ร่วมเต้นต่างล้มตายลงเป็นจำนวนมาก โดยสาเหตุการตายก็มาจากความเหนื่อยล้า หัวใจวาย และอากาศในฤดูร้อนที่ร้อนจัด ก็ทำให้หลายคนทนไม่ไหวจนช็อกและเสียชีวิตในที่สุด
ส่วนคนที่ยังไม่ตาย เมื่อเหนื่อย ก็จะพักซักครู่ ก่อนจะกลับไปเต้นอีกราวกับต้องมนต์
ทางการเริ่มรับรู้ว่าการแก้ปัญหาของตนนั้นผิดพลาด ก่อนที่จะมีการแบนการเต้นรำในฝรั่งเศสในเวลาต่อมา
ทางด้านผู้นำทางศาสนา ก็ได้แสดงความเห็นว่าสาเหตุของเหตุการณ์นี้ก็มาจากการที่ผู้คนถูกปีศาจสิงสู่ หรืออาจจะเป็นคำสาปของนักบุญรายหนึ่งที่ถูกเผาทั้งเป็น โดยก่อนตาย นักบุญได้สาปแช่งให้เกิดโรคระบาดในหมู่บ้าน
ส่วนแพทย์ก็ให้ความเห็นว่าเหตุการณ์นี้อาจจะมาจากโรคที่เกิดจากอุณหภูมิในเลือดที่สูงเกินไป
ส่วนทฤษฎีที่ดูจะมีเหตุผลที่สุด ก็คือทฤษฎีที่ว่าเหล่าผู้คนที่ออกมาเต้น น่าจะกินขนมปังที่ทำมาจากแป้งไรย์ ซึ่งทำให้เกิดโรคเชื้อรา
1
โรคเหล่านี้ ก็รวมถึงทำให้ผู้ที่เป็นโรค เกิดอาการกระชักกระตุกและเห็นภาพหลอน แต่ถึงอย่างนั้น หลายคนก็บอกว่าโรคนี้ไม่สามารถทำให้คนเต้นได้เป็นวันๆ
นักประวัติศาสตร์บางรายก็คิดว่าอาจจะเกิดจากภาวะอุปาทานหมู่ โดยมีสาเหตุมาจากความเครียด
ในเวลานั้น มีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งโรคต่างๆ เช่น ไข้ทรพิษและซิฟิลิสที่ส่งผลกระทบต่อผู้คน ทั้งความไม่มั่นคงทางการเมือง ความยากจน ความอดอยาก สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้ผู้คนเครียด
เมื่อเครียดมากๆ ก็อาจจะทำให้ผู้คนเกิดอุปาทานหมู่และทำอะไรแปลกๆ
สำหรับจุดจบของเหตุการณ์หรือโรคระบาดที่ทำให้ผู้คนออกมาเต้น ก็มาจากการไปแสดงความเคารพแท่นบูชา “St. Vitus” นักบุญผู้เชื่อว่าได้สาปแช่งเมืองไว้
Frau Troffea ซึ่งเป็นเหยื่อรายแรกของเหตุการณ์นี้ ได้ไปทำพิธีที่แท่นบูชา และอาการก็ดีขึ้น
จากนั้น ผู้คนก็ทยอยมาทำพิธียังแท่นบูชา และก็มีอาการดีขึ้น ทำให้เหตุการณ์นี้จบลงในที่สุด
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1518 (พ.ศ.2061) และจบลงในต้นเดือนกันยายน ค.ศ.1518 (พ.ศ.2061) เท่ากับเหตุการณ์นี้กินเวลาต่อเนื่องราวๆ หนึ่งเดือนครึ่ง
1
สำหรับสาเหตุของเหตุการณ์นี้ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด มีเพียงการคาดเดา
และจนถึงทุกวันนี้ เหตุการณ์ประหลาดนี้ก็ยังคงติดอยู่ในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสและประวัติศาสตร์โลก
โฆษณา