11 เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ที่คุณอาจไม่เคยรู้
ระยะเวลาที่ใช้ในการอ่านโดยประมาณ : 5นาที
วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้เกิดเป็นนเทคโนโลยีใหม่ๆมากมาย และในวันนี้นายจอมโม้จะคุณมาพบกับ 11เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกในอนาคต ที่คุณอาจไม่เคยรู้
1. Solar Mountain
Solar Mountain คือการสร้างภูเขาขนาดมหึมาด้วยโซลาร์เซลล์ ถึงแม้จะยังไม่มีการสร้างจริงในตอนนี้ แต่ก็ได้มีการคำนวณไว้โดยวิศวกรแล้วว่าจะใช้พื้นที่ประมาณ 15.38 ตารางกิโลเมตร สามารถผลิตไปไฟฟ้าได้ 318,645 กิโลวัตต์ต่อปี ซึ่งเชื่อกันว่าเทคโนโลยีที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
2. Data Centers ใต้น้ำ
แน่นอนว่าเมื่อเทคโนโลยีความก้าวหน้ามากขึ้น จำนวน Data ที่ต้องเก็บและประมวลผลก็ต้องมีมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น Data Centers จึงถูกสร้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในหลายๆที่บนโลก และแน่นอนว่าเมื่ออุปกรณฺลิเล็กทรอนิส์ทำงาน มันก็ย่อมเกิดความร้อนขึ้น ดังนั้นระบบระบายความร้อนให้กับ Data Centers ขนาดใหญ่จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ทางบริษัท Microsoft จึงได้ทดลองสร้าง Data Centers ใต้น้ำที่มหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งอาศัยพลังงานหมุนเวียน และอณุหภูมิที่เย็นจัดของน้ำหล่อเลี้ยง โดยภายใน Data Centers แห่งนี้ประกอบไปด้วยเครื่อง Servers กว่า 864 เครื่อง ที่สามารถจุข้อมูลได้กว่า 27.6 Petabytes
3. พลังงานไฟฟ้าแบบไร้สาย
ในช่วงต้นปี 2020 บริษัทสตาร์ทอัพที่มีชื่อว่า Emrod จากประเทศ New Zealand ได้เปิดตัวโครงการพลังงานไฟฟ้าไร้สาย ซึ่งมันคือระบบที่สารถส่งพลังงานไฟฟ้าได้ในระยะไกล โดยไม่ต้องใช้สายไฟฟ้าอย่างในปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีการทดลองเครื่องต้นแบบไปบ้างแล้ว แต่ในตอนนี้มันยังสามารถส่งพลังงานไฟฟ้าได้เพียงไม่กี่กิโลวัตต์ แล่พวกเขาก็มั่นใจว่าในอนาคตมันจะสามารถส่งได้มากขึ้น เสถียรมากขึ้น และจะเข้ามาทดแทนการส่งไฟฟ้าแบบเดิมๆในที่สุด
4. อาวุธเลเซอร์
ในปี 2017 กองทัพเรือสหรัฐ ได้ประกาศว่าพวกเขาสามารถพัฒนาอาวุธเลเซอร์ได้สำเร็จ แต่ทว่าในตอนนั้นมันยังมีพลังงานอยู่ที่ 30,000W เท่านั้น ซึ่งยังไม่เพียงพอที่จะใช้ในสนามรบ และจากนั้นในปี 2020 พวกเขาก็ได้พัฒนาอาวุธเลเซอร์ไปจนถึงระดับ 150,000W ซึ่งเพียงพอที่จะทำลายโดรนหรือเครื่องบินรบได้ และในแผนขั้นต่อไป พวกเขาวางเป้าหมายที่จะผลิตอาวุธเลเซอร์ที่มีพลังงานสูงถึง 1TW หรือ 1 ล้านล้านวัตต์
5. ชิพคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่สามารถฉีดเข้าไปในตัวคนได้
ในแต่ละปีเทคโนโลยีการผลิต Semiconductor หรือชิปคอมพิวเตอร์นั้นมีการพัฒนาไปอย่างมาก โดยในปัจจุบันปี 2022 กระบวนการผลิตตรงนี้สามารถทำได้ที่ขนาด 3-5nm (นาโนมเตร) แล้ว ทำให้ในอนาคตเชื่อกันว่าในอนาคตมนุษย์อาจฉีดชิปเหล่านี้ หรืออาจเป็น nanobots เข้าไปในร่างกายจนเป็นเรื่องปรกติ โดยเทคโนโลยีเหล่านี้อาจช่วยให้มนุษย์มีอายุไขที่ยืนยาวขึ้น มีสติปัญญาดีขึ้น ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้เร็วขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วในปัจจุบันก็เริ่มมีการพัฒนาชิปแบบฉีดแล้ว โดยวิศวกรจากมหาวิทยาลัยโคลอมเบีย โดยมันมีปริมาตรเพียง 0.1 ลูกบาศก์มิลลิเมตร และมันสามารถสื่อสารกับอุปกรณ์ภายนอกได้ด้วยคลื่นอัลตร้าซาวด์ โดยในตอนนี้มันสามารถทำได้เพียงงานพื้นฐานเช่น การวัดอุณหภูมิ หรือวัดการเปลี่ยนแปลงของระบบต่างๆภายในร่างกาย
6. โลกเสมือน
เทคโนโลยีโลกเสมือนที่ผู้คนสามารถเข้ามาทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันได้ และเชื่อกันว่าเมื่อเทคโนโลยีนี้พัฒนาจำสำเร็จ มันจะเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนเป็นอย่างชิ้นเชิง หลายๆคนถึงกับบอกว่า มนุษย์ในอนาคตจะใช้เวลาเกือบทั้งหมดในโลกจริงไปกับคอมพิวเตอร์ และอาศัยอยู่ในโลกเสมือนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แต่อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีโลกเสมือน ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา ซึ่งกว่าที่ทั้งตัวระบบและผู้ใช้งานเองจะพร้อมถึงจุดนั้น ก็คงจะต้องใช้เวลาอีกนานหลายปี
7. Quantum Computer
ในปัจจุบันชาติมหาอำนาจหลายชาติเช่นสหรัฐอเมริกา และจีน ต่างให้ความสนใจกับเทคโนโลยีนี้ โดยในทางทฤษฏี Quantum Computer จะประมวลผลได้เร็วกว่า Super Cpmputer ที่มีใช้กันในปัจจุบันหลายล้านเท่า และมันก็จะเป็นเทคโนโลยีที่เบิกทางในกับมนุษยชาติ ได้ค้นพบเทคโนเลยีและองค์ความรู้ใหม่ๆได้อีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น เราอาจสามมารถสร้างสูตรยาใหม่ๆ เพื่อรักษาโรคร้ายที่ปัจจุบันไม่สามารถทำได้ รวมถึงสร้างสินค้าและบริการใหม่ๆโดยอาศัยความสามารถในการประมวลผลที่เร็วยิ่งยวดของ Quantum Computer
8. เชื้อเพลิงสังเคราะห์
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศเยอรมันได้เคยทอลองใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่ผลิตด้วยก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ผสมกับ ไฮโตรเจน ที่อุณหภูมิสูงจัด ซึ่งจะได้ออกมาเป็นไอโดรคาร์บอนเหลว และเมื่อนำสิ่งนี้ไปผสมกับตัวเร่งปฏิกิริยาก็จะได้เป็นเชื้อเพลิงสังเคราะห์ แต่ในตอนนั้นประสิทธิภาพของเชื้อเพลิงสังเคราะห์นั้นยังไม่สูงมากนัก แต่ในปี 2021 นี้ กองทัพอากาศของสหรัฐอเมริกา ได้พฒันาเชื้อเพลิงสังเคราะห์จนมีประสิทธิภาพสูงพอ และเริ่มทดลองใช้กับเครื่องบินรบของพวกเขาแล้ว และเมื่อใดที่เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาโดยสมบูรณ์ เชื้อเพลิงสังเคราะห์ก็จะเข้ามาแทนที่เชื้อเพลิงแบบดั้งเดิมทั้งหมด โดยว่ากันว่ามันอาจไปถึงขั้นที่ยาพาหนะจะสามารถสังเคราะห์เชื้อเพลิงด้วยตัวมันเองด้วย
9. แบตเตอร์รี่หมื่นปี
บริษัท Nano Diamond Battery หรือ NDB พวกเขาทำกลังมีโครงการพัฒนาแบตเตอรี่เพชรพลังงานิวเคลียร์ ซึ่งสามารถจ่ายพลังงานได้ยาวนาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเทคโนโลยีนี้เป็นการนำกากกัมมันตภาพรังสี มาใช้งานร่วมกันกับเพขรสังเคราะห์ เพื่อเป็นการนำความร้อนออกจากไอโซโทปของกากนิวเคลียร์ จากนั้นก็นำพลังงานความร้อนที่ได้มาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าอีกที โดยทาง NDB บอกว่าถ้าหากมันเสร็จสมบูรณ์ แบตเตอรี่ชนิดนี้จะมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 28,000 ปี
10. ดวงอาทิตย์เทียม
ในปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกต่างให้ความสนใจกับภาวะโลกร้อนมากขึ้น ทำให้มีความพยายามที่จะลดการใช้ทรัพหยากรที่ก่อให้เกิดมลพิษอย่างถ่านหินหรือน้ำมันลง และหันไปใช้พลังงานไฟฟ้าแทน แต่ไฟฟ้าที่เราใช้กันอยู่โดยมากแล้วก็มาจากโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ก่อให้เกิดมลพิษอยู่ดี และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในปัจจุบันที่ใช้ปฏิกิริยาฟิชชั่นก็ยังสามารถสร้างไฟฟ้าได้จำกัด อีกทั้งยังปล่อยกัมมันตภาพรังสีอันตรายจำนวนมากออกมา ประเทศมหาอำนาจหลายประเทศจึงได้พยายามแสวงหาแหล่งพลังงานใหม่ ที่สามารถสร้างพลังงานได้มากขึ้น สะอาดขึ้น และเป็นมิตรกับโลกมากขึ้น นั้นก็คือการจำลองการทำงานของดวงอาทิตย์ ซึ่งอาศัยปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน ซึ่งหากทำได้สำเร็จโลกก็จะสามารถผลิตพลังงานสะอาดมหาศาล และปล่อยกัมมันตรังสีเพียงน้อยนิด สามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพลังานและปัญหาโลกร้อนได้อย่างยั่งยืน
11. Jupiter Brain
แนวคิดนี้มีมาตั้งแต่ยุค 90 ซึ่งมันคือคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเทียบเท่ากับดาวพฤหัส ซึ่งภายใต้แนวคิดนี้จะเป็นการสร้างหุ่นยนต์จิ๋วหรือ Nanobots ที่สามารถ copy ตัวเองได้ ซึ่งจะเพิ่มจำนวนแบบควีคูณ หลังจากนั้น Nanobots จำนวนมหาศาลก็จะก่อตัวกันรอบๆแกนพลังงานนิวเคลียร์ จนกลายเป็นทรงกลมขนาดใหญ่ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 18,000 กิโลเมตร และยังสามารถขยายไปได้อีกเรื่อยๆจนมีขนาดเทียบเท่าดาวพฤหัส และกลายเป็นโครงข่ายประมวลผล ที่มีความสามารถในการประมวลผลเกินกว่าจะจิตนาการ โดยมันอาจสแกนและวิเคราะห์ทางช้างเผือกได้ทั้งหมดในเวลเพียงไม่กี่วินาที แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ยังเป็นเพียงแนวคิดที่เทคโนโลยีของมนุษย์ในปัจจุบันยังไม่เข้าใกล้ความหวังที่จะทำมันให้เป็นจริงได้
เรียบเรียงโดย
นายจอมโม้
11 กุมภาพันธ์ 2022
- 38
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
