Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
IVaginis : อีกมิติทางเพศที่อยากคุย
•
ติดตาม
31 ม.ค. 2022 เวลา 03:30 • การศึกษา
EP.1 ย้อนอดีตเท้าความ ทำไมสุขได้ไม่สุด
สึดดีย์จ์คุณผู้อ่านค่ะ บทความนี้เราจะมาย้อนอดีตกันสักนิดเพื่อปรับมุมมองของเราให้เข้าใจข้อมูลบางอย่างบนฐานความคิดเดียวกัน เช่น ทำไมเรื่องทางเพศต้องถูกทำให้เป็นเรื่องลับๆ ทำไมเซ็กส์จึงกลายเป็นเรื่องผิดบาป หรือการเกิดความละอายใจในคนบางกลุ่มเมื่อมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน วันนี้สิ่งที่ไอวาจะยกมาพูดคุยคือประเด็นของ ‘เพศวิถีกระแสหลัก’ และต่อจากนี้เชิญคุณผู้อ่านหยิบพาสปอร์ต ทำวีซ่าเชงเก้นและขึ้นเครื่องบินมโน ๆ ไปพร้อมกันค่ะ
แรกเริ่มเดิมทีเพศวิถีกระแสหลักเกิดขึ้นในยุโรปและแผ่ขยายแนวคิดผ่านความเป็นจักรวรรดินิยมหรือการล่าอาณานิคมปนไปกับสิ่งที่เรียกว่า ความศิวิไลซ์ (Civilization) ความเป็นมาของเพศวิถีกระแสหลักเกิดจากฐานความคิด 2 ฐาน ประกอบไปด้วย Classical Philosophy คือการมองว่าการที่มนุษย์สนใจแต่เรื่องทางกายภาพ หมกมุ่นแต่เรื่องความสุขทางกายจะนำไปสู่การละเลยการพัฒนาความรู้และจิตใจ ใช้เหตุผลน้อยลงและนำไปสู่ความเสื่อม แต่ชาวกรีกสมัยนั้นไม่ได้มองว่าการกินขี้ปี้นอนจะเป็นปัญหาในระดับปัจเจกเท่านั้น แต่ปัญหาดังกล่าวอาจนำไปสู่การล่มสลายของสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างจักรวรรดิและอารยธรรมของพวกเขาได้เลย เซ็กส์จึงเป็นเรื่องที่ทั้งอันตรายและมีอานุภาพการทำลายล้างสูงมาก(ในความคิดของคนสมัยนั้น)
อีกฐานความคิดหนึ่งคือฐานของศาสนาคริสต์(Christianity) ที่เชื่อว่าเซ็กส์เป็นองค์ประกอบหนึ่งของบาปกำเนิด(Original Sin) ซึ่งเกิดจากการที่อดัมและอีฟละเมิดคำสั่งของพระเจ้าโดยการกินผลไม้ต้องห้ามในสวนเอเดนและถูกขับออกจากสวรรค์ ส่วนหนึ่งของบทลงโทษนี้ทำให้มนุษย์เพศหญิงต้องเจ็บปวดทรมานจากการตั้งครรภ์และคลอดบุตร การมีเซ็กส์จึงไม่เพียงเกี่ยวพันกับแค่การตั้งครรภ์เท่านั้น แต่ยังโยงถึงการทำสิ่งผิดบาปของมนุษย์คู่แรกของโลกที่ทำให้พระเจ้าไม่ปลื้ม นอกจากนี้เซ็กส์หรือราคะยังเป็นหนึ่งในบาปเจ็ดประการของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกด้วย
แม้ว่าเซ็กส์จะเป็นเรื่องเลวร้ายจากทั้งสองฐานความคิดจนทำให้มนุษย์เริ่มไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับมัน แต่อย่าลืมว่าฟังก์ชั่นที่แท้จริงของเซ็กส์คือการดำรงเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต (แม้ว่าธรรมชาติจะสร้างมนุษย์มาให้สามารถมีเซ็กส์เพื่อความบันเทิงได้ก็ตาม) แล้วที่นี้จะทำอย่างไรถ้าความเชื่อและธรรมชาติไปด้วยกันไม่ได้ ก็สร้างสิ่งที่เรียกว่า ‘ความชอบธรรม’ ขึ้นมาเองเลยสิคะ
ความชอบธรรมดังกล่าวคือการที่มนุษย์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่แสนชาญฉลาดสร้างเงื่อนไขให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าเซ็กส์สามารถยอมรับได้ คือการมีเซ็กส์เพื่อการสืบพันธุ์เท่านั้น ห้ามจอย ห้ามมีความสุข ห้ามฟิน (ได้เหรอ?) เมื่อพูดมาถึงจุดนี้ ไอวาอยากให้ผู้อ่านลองจินตนาการความย้อนแย้งระหว่างความเชื่อที่ครอบงำมนุษย์และสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้มา คือมนุษย์เราเนี่ยมีหลักฐานการคุมกำเนิดตั้งแต่เกือบ 2,000 ปีก่อนคริสตศักราชแล้วด้วยซ้ำ แปลว่ามนุษย์มีเซ็กส์กันด้วยเหตุผลอื่นนอกเหนือจากการสืบพันธุ์ และเหตุผลนั้นคือความบันเทิงจริงหรือไม่ ลองถามใจตัวเองดูสิคะ
เมื่อเข้าสู่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 กรอบที่กำหนดเรื่องราวต่าง ๆ ในสังคมเริ่มเปลี่ยนไปเพราะโลกเสรีนิยมเริ่มปะทะเข้ากับกลุ่มอำนาจเก่าอย่างระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชที่คนคนเดียวเป็นผู้กำหนดทุกอย่าง และการกระจุกกันของอำนาจในสังคมผ่านระบบศักดินาได้ทยอยล่มสลายลง ทำให้แนวคิด ความเชื่อ ค่านิยมรวมถึงเพศวิถีเริ่มเปลี่ยนไป ส่งผลให้ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 เกิดแนวคิดใหม่อย่าง Middle Class Sexuality หรือเพศวิถีแบบชนชั้นกลางที่มองชนชั้นทางสังคมแบบพีระมิด ซึ่งยอดพีระมิดที่มีพื้นที่น้อยที่สุดเป็นของชนชั้นสูงหรือพวก Elite ที่ฟุ้งเฟ้อ ปรนเปรอตัวเองเก่งเพราะวันๆ ไม่มีอะไรต้องทำ ส่วนชั้นล่างสุดของพีระมิดเป็นของชนชั้นแรงงานหรือ Laboure ที่ชนชั้นกลางมองว่าเป็นพวกมีความต้องการสูง ถูกกระตุ้นเร้าได้ง่ายจึงมีลูกหลานออกมาแบบหัวปีท้ายปี
ส่วนกลางพีระมิดเป็นของชนชั้นกลางผู้แสนดีที่สามารถควบคุมตัวเองได้ ช่างวางแผนและมีเหตุผล จึงเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างกรอบให้กับเรื่องเพศและเซ็กส์ เช่น การกำหนดว่าใครแต่งงานกับใครได้/ไม่ได้อย่างพี่น้องหรือพ่อแม่ตัวเอง ยกเว้นในกลุ่มชนชั้นสูงหรือพวก Blue Blood หรือการจดทะเบียนสมรสภายใต้เงื่อนไข แต่คอนเซ็ปต์ที่สำคัญที่สุดในแนวคิดนี้คือ ‘การเป็นคู่รักแบบชายหญิงที่มีเซ็กส์เพื่อการเจริญพันธุ์ ภายใต้กรอบของการแต่งงานแบบผัวเดียวเมียเดียวเท่านั้น’ ซึ่งเซ็กส์เพื่อการเจริญพันธุ์ที่ว่า หมายความว่าห้าม Oral(การใช้ปาก), Anal(การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก), Masturbation(ช่วยตัวเอง), ซื้อกิน, มีเซ็กส์กับบุคคล(หรือสัตว์)ที่อยู่นอกสมรส, เซ็กส์ก่อนแต่งงาน หรือแม้กระทั่งการนอกใจ(นอกกาย) ถือเป็นสิ่งต้องห้ามทั้งหมด มนุษย์ต้องมีเซ็กส์เพื่อการเจริญพันธุ์เต้าอั้ล!
นี่แหละค่ะ เหตุผลว่าทำไมมนุษย์บางคนถึงมีฝันร้ายคอยหลอกหลอนอยู่เสมอเมื่อกระทำการใดๆ เกี่ยวกับเซ็กส์ ไม่ว่าจะแค่พูดถึงเรื่องเซ็กส์ อ่านหนังสือโป๊ ดูหนังอีโรติก ช่วยตัวเองหรือแม้กระทั่งการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน แม้ว่ากรอบความคิดดังกล่าวจะเกิดขึ้นมานานมากแล้ว แต่ก็ยังเป็นกรอบทางสังคมที่ดิ้นไม่หลุดหนีไม่พ้น โดยเฉพาะในสังคมที่เราอยู่
หากผู้อ่านได้เคยชมซีรี่ส์ Versailles ใน Netflix จะมีส่วนหนึ่งของตอนที่ฉายภาพสตรีท่านหนึ่งเฆี่ยนตีตัวเองต่อหน้าแท่นสวดมนต์เพื่อเป็นการไถ่บาปจากการมีเพศสัมพันธ์ นี่คือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นจริงในยุคที่ศาสนามีอิทธิพลอย่างเข้มข้นในสังคมของชาวยุโรป ซึ่งไม่ใช่แค่การลงโทษตัวเองหลังจากมีเซ็กส์เท่านั้น แต่บางคนก็เฆี่ยนตีหรือทำร้ายตัวเองในขณะมีเซ็กส์เพื่อเป็นการแสดงให้พระเจ้าได้เห็นว่าตนไม่ได้มีความสุขจากการมีเพศสัมพันธ์จึงไม่อาจนับว่าเป็นความผิดบาปได้(จริงไหมไม่รู้)
ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ขณะนี้เที่ยวบินของเราได้มาถึง ณ สนามบินหนองงูเห่า ประเทศไทยแล้ว ขอให้ทุกท่านปรับพนักเก้าอี้ให้ตั้งตรง เปิดม่านหน้าต่างและรัดเข็มขัดของท่านเพื่อเตรียมลงจอด สายการบินไอวาไจนิส มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พาท่านเที่ยวยุโรปทิพย์ไปกับเราในเที่ยวบินนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะใช้บริการเราอีกในบทความต่อไป
ด้วยรัก และหวังว่าจะไม่งงกับสิ่งที่เพิ่งอ่านจบไป
ไอวา ไกด์จากยุควิคตอเรียนของคุณ
ปล. หลังจากอ่านจบแล้ว ผู้อ่านอยากเสนอแนะ ติชมอะไรเพิ่มเติมเขียนคอมเมนท์มาได้เลยนะคะ ไอวารออ่านเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาในบทความถัดๆ ไปอยู่นะคะ
ปล.2 โปรดแสดงความเห็นอย่างสุภาพและให้เกียรติซึ่งกันและกันนะคะ ไม่ทำร้ายจิตใจกันเน้อ ;-;
เพศศึกษา
เพศวิถี
ประวัติศาสตร์
บันทึก
2
1
5
2
1
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย