31 ม.ค. 2022 เวลา 00:46 • ความคิดเห็น
ความเก่ง 3 อย่างที่เราต้องมีเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จอีกขั้นหนึ่ง คือ เก่งงาน เก่งคน และ เก่งเงิน
1
🌟ความเก่งงาน เป็นสิ่งแรกที่ทุกคนให้ความสำคัญ เพราะความรู้ ความเชี่ยวชาญในการงานอาชีพ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนคนนั้นสามารถยืนหยัดอยู่ได้ เกณฑ์วัดตัวแรกสำหรับการรับคนเข้าทำงาน จึงเป็น วุฒิการศึกษาในสาขาวิชาที่องค์กรต้องการ หรือ เป็นประสบการณ์ทำงานที่เขามีความชำนาญ สามารถนำมาปรับใช้กับตำแหน่งงานได้
ความเก่งงานถึงแม้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการนำพาคนไปสู่ความสำเร็จ เพราะเขาจะเป็นที่ต้องการของคนอื่น เนื่องจากมีความเป็น specialist รู้ลึกในงานที่คนอื่นไม่รู้ แต่ความเก่งงาน ก็อาจจะเป็นกับดัก สกัดกั้นโอกาสเติบโตก้าวหน้าได้เช่นกัน
หากความเก่งงานไปทำให้คนคนนั้นกลายเป็นคนที่ปิดกั้น การรับฟัง หรือ การปรับตัวเข้าหาคนอื่น โดยเข้าใจผิด คิดว่าตัวเองเก่งแล้ว ดีพอแล้ว จึงไม่สนใจพัฒนาด้านความเก่งคน เพราะคิดว่าใครๆ ก็ต้องมาพึ่งพาเขา อีโก้ภายในใจ ทำให้เขาปิดกั้นการพัฒนาตัวเองในส่วนความเก่งคนได้
คนที่ทำงานเก่ง แต่คุยกับคนอื่นไม่เข้าใจ คงทำงานได้ดีแค่เพียงบางตำแหน่งงานเท่านั้น
แต่หากเป็นคนทำงานเก่ง แล้วยังสื่อสารเก่ง สามารถถ่ายทอดความคิด มุมมองของตนเองให้ผู้อื่นเข้าใจได้ สามารถโน้มน้าวให้คนเห็นด้วยคล้อยตามได้ มีความเข้าใจ เรียนรู้เท่าทัน อารมณ์ความรู้สึก เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เหมือนกับไปยืนอยู่บนรองเท้าของเขา (Stand in their shoes) ก็เป็นที่ต้องการของทุกตำแหน่งงานมากกว่า
1
🌟 การเก่งคนนั้น ไม่ได้อาศัยเพียงแค่การอ่านคนออก บอกคนได้ แต่ต้องเป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจจากคนรอบข้างด้วย ต้องเป็นคนมีน้ำใจ มีความจริงใจ มีความน่าเชื่อถือ จึงจะสามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีในสังคมที่ตัวเองอยู่ได้ในระยะยาว
คนเก่งคน สามารถทำงานท่ามกลางความเห็นต่าง และดึงศักยภาพของผู้ร่วมงานมาเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อองค์กรได้
คนแบบนี้ถ้าอยู่ในองค์กร ก็จะเติบโตก้าวหน้าเป็นผู้นำอย่างแน่นอน และถ้าเป็นเจ้าของกิจการ ก็จะนำพากิจการให้ขยายใหญ่โตได้ แบบไม่มีขีดจำกัด เพราะฉลาดในการใช้ความสามารถของผู้อื่นมาหนุนนำองค์กรร่วมด้วยนั่นเอง
🌟 เก่งตัวสุดท้ายที่สำคัญที่สุด คือ เก่งเงิน การที่คนเรามี mind set ทางการเงินที่ถูกต้อง ก็จะรู้จักคุณค่าของเงิน ไม่ประมาทเมื่อได้เงินมา รู้จักใช้ น้อยกว่าที่หามาได้ และรู้จักหาวิธีเพิ่มมูลค่าของเงิน
ดังคำที่ว่า หาเก่ง ไม่สู้เก็บเก่ง เก็บเก่ง ไม่สู้บริหารเก่ง
ถ้าเห็นเรื่องเงิน เป็นเรื่องสำคัญ ก็จะโฟกัสกับการขยันหาเงิน ใช้ชีวิตไม่ประมาท ไม่พลาดพลั้งเข้าสู่ความผิดพลาด สร้างความเสี่ยงทางการเงิน จนเกิดเป็นภาระหนี้สินไม่จบไม่สิ้น
คนบางคนหาเงินเก่ง มีโอกาสดีๆเข้ามาในชีวิตหลายช่วงจังหวะ ได้จับเงินก้อนใหญ่อยู่หลายรอบ แต่เขาไม่เก่งเงิน ไม่รู้วิธีจัดการกับเงิน เงินก็หมดไปแล้ว หมดไปอีกเช่นกัน ไม่สามารถตั้งหลักได้สักที
คนที่มีฐานะการเงินมั่นคง คือ คนเก่งเงิน ไม่ได้หมายถึงคนมีเงินจำนวนมาก แต่หมายถึงคนที่มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน มีสภาพคล่องทางการเงินสูง มีใช้เท่าที่ต้องการ ไม่ตกอยู่ในสภาวะรายจ่ายมากกว่ารายได้ และ สามารถสร้างรายได้จากทรัพย์สินที่มีอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานในวันหนึ่ง
คนเก่งเงิน จะมีความสงบสุขทางใจ ทำให้มีความพร้อมที่จะเก่งงาน และ มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นแบบเก่งคนได้ เพราะตัวเองไม่มีความกังวลใจส่วนตัว ก็จะสามารถใส่ใจคนอื่นได้ดี เพราะตัวเองมีความอิ่มเพียงพอในตัวเองแล้ว
คนเก่งเงิน มักเป็นคนที่มีวินัยในตัวเอง มีเหตุผลสูง มีความหนักแน่นทางจิตใจ พื้นฐานนิสัยนี้ก็จะนำไปสู่การเก่งงาน และ เก่งคนได้ดีอีกด้วย
ความเก่งข้อแรก เก่งงาน สามารถพัฒนาได้ไม่ยาก จากการเรียนรู้และฝึกฝน แต่เก่งอีก 2 ข้อ คือ เก่งคน และ เก่งเงิน เป็นเรื่องที่ยากกว่า เพราะไม่ใช่เพียงแค่การเรียนรู้จากภายนอก ที่เป็นการเรียนการสอน แต่รวมถึงการเรียนรู้จากภายใน ที่เป็นการเรียนรู้ จิตใจของตัวเอง เรียนรู้อีโก้ ความโลภ และอัตตาของตัวเอง แม้ครูบาอาจารย์บอกว่าทำสิ่งนี้ผิด หรือ ไม่ได้ผล แต่ความเชื่อมั่นในตัวเอง ก็อาจทำให้ประเมินผิด เห็นผิด ตัดสินใจผิด ทำผิดพลาดได้
1
ดังนั้น ใครเตือนตัวเรา ก็ไม่ดีเท่ากับการรู้จักตัวตน รู้จักทบทวนและเตือนใจตัวเอง ฝึกเรียนรู้ใจตัวเองด้วยว่า ช่วงเวลาไหนอัตตาทำให้เราหลงผิด คิดผิด สำคัญผิด ความหนักแน่นของจิตใจของเราจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องฝึกฝนและพัฒนาอยู่เสมอ
เก่งงานอาจจะเรียนแล้วมีวันจบสิ้นได้ แต่เก่งคนและเก่งเงินเราคงต้องเรียนรู้อย่างเท่าทัน กันไปตลอดชีวิต
พิชญาภัฐฐ์ ทองศรีเกตุ
ที่ปรึกษาทางการเงิน AFPT

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา