31 ม.ค. 2022 เวลา 02:55 • ยานยนต์
☢☢☢ 1963 Vespa 150 Gran Luxe ☢☢☢
2
🛵🛵 2 ล้อ “นอกกรอบ”…ศิลปะขั้น “มาสเตอร์พีช” ของทีมออกแบบ 🛵🛵
1
⚜⚜ เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วย “พัดลม” ขนาด 150 ซี.ซี. แบบ “โรตารี่วาล์ว” นั้นประสบความสำเร็จอย่างกว้างขวางตั้งแต่ปี 1954 จนถือเป็นตราสินค้าของ Piaggio ไปโดยปริยาย ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องประสิทธิภาพการใช้งาน ทว่า กลับไม่เน้นในเรื่องของการดูแลรักษา อีกทั้งสามารถใช้สอยเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ยอดการผลิตรวมเกือบ 400,000 เครื่อง นั้นสามารถสร้างกำแพง “การเงิน” ของโรงงานให้แข็งแกร่งได้ในอันดับต้นๆ โรงงานหนึ่งของอิตาลี...ปลายปี 1962 หลังจากที่รูปทรง “รถหัวกลม” ของไลน์ผลิต Vespa เริ่มจะชินตา อีกทั้งโรงงานคู่แข่งอย่าง Lambretta ก็เสอนแนวทางที่แตกต่าง รถโมเดลใหม่รูปทรงสปอร์ต เพียวลม ที่ออกมาแชร์ตลาดถึง 3 รุ่น...Piaggio…ต้องทำอะไรสักอย่าง!!! สำหรับโครงการรถรุ่นใหม่นี้
1
มุมมองที่เผยให้เห็นงานออกแบบโครงสร้างบอดี้สุดเท่ห์ที่เป็นความภาคภูมิใจขของทางโรงงาน มันเป็นส่วนผสมของเครื่องยนต์ 150 ปี 1961 เข้ากับรูปร่างของ GS ปี 1963 ทว่า ก็ปรับเส้นสายที่โค้งมนให้โฉบเฉี่ยว และเน้นความเป็นรถสปอร์ตมากขึ้น
⚜⚜ 1963 หลังจาก “ทีมออกแบบ” ระดมสมองเลือกสรรค์ แบบพิมพ์เพื่อการขัดเกลาเดิมๆ คงยังคงไม่เพียงพอ “การตัดสินใจ” ครั้งสำคัญ...จึงเกิดขึ้น!!! รถโมเดลใหม่ของ Vespa มีภาพลักษณ์ที่ผิดหูผิดตาจากที่เคยเห็น ทว่า ทีมสร้างสรรค์กลับลงมติว่า “มันคือรถที่เท่ห์ที่สุดเท่าที่ทีมออกแบบเคยทำมา” (one of the best-looking Vespas produce by Piaggio Designer) แถมเจ้าตัวยังหมายมั่น ปั้นมือ ในชื่อใหม่ว่า GL (Grand Luxe/ รถชั้นหรู) อย่างภาคภูมิใจ
3
เครื่องยนต์ความจุ 145.4 ซี.ซี. บล๊อกนี้ได้รับความเชื่อถือและนิยมมาอย่างยาวนาน สำหรับ GL นั้นอัพเกรดให้จัดจ้านขึ้นอีกเล็กน้อย โดยขยับ “ม้า” จากเดิมที่ 5.5 เป็น 6.25 แรงม้า
⚜⚜ รถรูปทรงใหม่ที่ปรับเน้นความเป็นรถสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ภาพลักษณ์ที่โดดเด่นที่ชุดกระโหลกไฟหน้าทรงเหลี่ยม (คางหมู) นั้นได้รับการปรับใช้เป็นครั้งแรก ความแปลกตาในครั้งนั้นยังไม่ได้รับการตอบรับดีนักในตอนแรก ทว่า ก็กลับเพิ่มกระแสความต้องการอย่างกว้างขวางได้ในเวลาต่อมา งานสร้างสรรค์บอดี้นั้นเป็นการผสมผสานระหว่างแบบการผลิตของรถรุ่น 150 ปี 1961 และ 160GS ปี 1962 ที่ถูกบีบเค้นให้ทันสมัย โฉบเฉี่ยว เน้นความเป็นรถสปอร์ตมากยิ่งขึ้น มัน “แคบ” และ “สั้น” กว่า GS
บั้นท้ายอ้วนกลมจากรถรุ่น GS ถูกบีบอัดให้แคบลงและเป็นเส้นสันอย่างเห็นได้ชัด และสับตำแหน่งการจัดวางเกะมาไว้ทางด้านข้าง แบบรุ่น 150
หัวไฟทรงเหลี่ยมคือของใหม่สุดๆ ที่ Piaggio เลือกใส่ไว้ให้รถรุ่น GL ซึ่งมั่นช่วยให้ภาพลักษณ์ของรถรุ่นใหม่นี้ผิดแผกจนเกือบรับไม่ได้ ทว่า หลังจากออกจำหน่ายไปสักพัก มันกลับได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
⚜⚜ มิติที่ผิดแผกนี้ช่วยให้ GL นั้นให้เสถียรภาพที่ดีกว่า แถมยังขับขี่ได้ฟิลล์ลิ่งที่คล่องตัวกว่ารถรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน เส้นสายของเฟนบังโคลนและฝากระโปรงด้านข้าง ก็เป็นอีกจุดที่แปลกตา เชฟของบังโคลนหน้าที่แคบลง แต่เพิ่มความยาวของชายหาง ส่วนกระโปรงข้างก็ถูกปรับให้แคบลง เป็นเส้นสัน แถมย้ายตำแหน่งของเก๊ะจากด้านหลังมาไว้ทาง “ด้านซ้าย” ของตัวรถ ทว่า ก็ยังคงหลงเหลือ “ล่องสัน” ที่ฝากระโปรงข้างธรรมเนียมจากรุ่น GS เอาไว้บ้าง
1
มุมมองจากผู้ขับขี่ เผยให้เห็นภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของกระโหลกไฟทรงเหลี่ยม และการจัดวางเรือนไมล์ “รูปพัด” รุ่นที่เป็นมาตรฐาน
ออปชั่นเสริมเน้นการใช้งาน ซึ่งเจ้าของติดตั้งเกะหน้าของ GS Mark II เข้าไปเสริม ซึ่งมองผ่านแว๊บๆ อาจนึกว่าเป็น SS
⚜⚜...แต่...ก็ไม่ลืมปรับมุมองศาที่ผิดแผกไปจากต้นฉบับอีกเล็กน้อย...ล้อหน้า/ หลัง ขนาด 10 นิ้วคือสัดส่วนที่ลงตัวและได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น อีกทั้งสามารถรองรับการทำงานของเบรกได้อย่างเต็มสมรรถนะ ซึ่งยังคงหมายรวมถึงความสัมพันกับชุดซับแรงหน้าแบบคานสวิง ที่รับแรงกดด้วยสปริงขดที่แยกการทำงานกับกระบอกน้ำไฮดรอลิกไว้คนละตัว ก็ถือเป็นฟอร์แมทจากรุ่น 150 ที่ยังคงไว้
จะสั้น จะยาว ก็เลือกได้ตามถนัด เพิ่มออปชั่นโครงเบาะแต่งก็ดูดีไปอีกแบบ ทว่า ตัวจริงเสียงจริงออกห้าง ต้องเบาะเดี่ยว ตะแกรง A-Style
คิ้วบังโคลนหน้า (สระ-อา) ใครๆ ก็ว่าใช้พาร์ทเดียวกับ GS แท้ที่จริงนั้น GL ยาวกว่าเล็กน้อย (ประมาณ 1 ซม.) ส่วนความโค้งนั้นเท่ากัน
⚜⚜ ในปี 1963 ขุมพลังของโรงงาน Piaggio มีให้เลือกสรรค์ถึง 2 ขนาด ทว่า กลับมีระบบการทำงานที่ผิดแผกแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด เครื่องยนต์แบบ “โรตารี่” ขนาด 150 ซี.ซี. (จากรุ่น 150/ ‘61) และ “ลูกสูบวิดน้ำมัน” ขนาด 160 ซี.ซี. (จากรุ่น GS/ ‘62) บล๊อกหลังนั้นกำลังวางจำหน่ายเป็นทางเลือกในท้องตลาด สำหรับรถจักรยานยนต์ในแนวทางอนุรักษ์นิยม เหตุนี้ GL จึงได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์บล๊อกเก่าแก่เป็นขุมกำลัง กระนั้น โรงงานยังอุตส่าห์แกะเกามันจนได้แรงอัดใหม่ที่เพิ่มขึ้น (1:6.8 เป็น 1:7.2) ซึ่งก็ส่งผลให้เครื่องยนต์สามารถ “เค้นม้า” ได้เพิ่มจาก 5.5 แรงม้าเป็น 6.25 แรงม้า...
1
จัดสังเกตุของดุมล้อ GL ทั้งหน้า/ หลัง ตรงกึ่งกลางที่ยึดน๊อต จะเห็นว่าหล่อขึ้นรูปโดยยกเส้นสันถึง 2 ชั้น (เพ่งมองกันหน่อย)
เส้นสันของกระโปรงท้าย เผินๆ อาจเหมือน GS ทว่า มุมที่หักนั้นจะไม่โค้งเท่า GS ซึ่งเมื่อใส่คิ้วเข้าไปแล้ว จะสังเกตุความแตกต่างได้ชัดเจนขึ้นมาก
⚜⚜ ภาพลักษณ์ของ Vespa 150GL นั้นเกิดขึ้น...และ...ถือเป็น “จุดเปลี่ยน” ของโรงงาน Piaggio ที่กล้าออกมาคิด “นอกกรอบ” งานสร้างสรรค์ศิลปะระดับ “มาสเตอร์พีซ” ชิ้นนี้เริ่มเป็นที่ “นิยม” แทนคำ “ปรามาตร” ค่อนแคะในตอนต้น...และ...ด้วยหน้าตาของรถ “หัวเหลี่ยม” คันสุดเจ๊ง...ง...ที่กำลังเป็นเทรนติดตลาด Piaggio เอง ก็ไม่ยอมเปิดช่องทำกำไร ปลายปี 1964 ทำเนียมของ GL ได้รับการสานต่อ บล๊อกเครื่องยนต์ขนาด 160 ซี.ซี. จากรุ่น GS ได้รับการอัพเกรดเป็นขนาด 180 ซี.ซี. “รถหัวเหลี่ยม-เครื่องแรง” คันใหม่ เปิดตัวอีกครั้งในนาม Vespa 180SS (Super Sport) พร้อมกับเพิ่มออปชั่นอีกเล็กน้อย...ทว่า มองยังไงมันก็คือตัวโคลนจาก...GL นั่นเอง!!!
“หอย” ล๊อกเก๊ะ (เค้าเรียกงั้น) GL เส้นกันลื่นพาดยาวจรดขอบ ความแตกต่างอีกจุดเมื่อเทียบเคียงกับรุ่น 150 ก่อนหน้าที่มีขอบรอบอีกชั้น
ถังน้ำมัน GL เรียบๆ เป็นแนวเดียวกับบอดี้ ไม่มีเว้า ไม่มียก จึงสามารถเลือกสรรค์เบาะใส่ได้หลายหลายแบบ
ระบบออฟซอฟหน้า เป็นคานสวิงติดตั้งสปริงขด กับแกนไฮดรอกลิกไว้แยกกัน ส่วนฝาครอบโช้คนั้นพิมพ์นี้แหละ ของ GL เค้า
☢☢☢ Vespa 150 Grand Luxe☢☢☢
รถ VESPA (VLA1T)
รุ่น / ปี GL / 1963
เครื่องยนต์ 1 สูบ 2 จังหวะ 145.4 ซี.ซี. ระบายความร้อนด้วย พัดลม 6.25 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ / นาที
กระยอกสูบ/ ช่วงชัก 57/ 57 มม.
กำลังอัด 1: 7.2
ระบบไฟ ทองขาว / คอยล์ (6 โวลต์)
ระบบเกียร์ 4 เกียร์
ระบบคลัตช์ เปียก (หลายแผ่น)
ระบบขับเคลื่อน เฟือง
ระบบโช้คอัพ (หน้า / หลัง) คอยย์สปริงแขนเดี่ยว / โช้คน้ำมันไฮดรอลิก
ระบบเบรก (หน้า /หลัง) ดรัมเบรก (ดุมหน้าหน้า 150 มม. / หลัง 150 มม.)
ล้อ / ยาง (หน้า / หลัง) 3.50 X 10 นิ้ว
ความจุเชื้อเพลิง 7.7 ลิตร
กว้าง / ยาว / สูง 675 / 1,770 / 1,045 มม.
ฐานล้อ 1,200 มม.
น้ำหนัก 100 กก.
ความเร็วสูงสุด 90.4 กม. / ชม.
จำนวนผลิต 79,854 คัน
สวิชต์ที่แฮนเดิ้ลแบบฉบับของตัวเอง (จากบน) สวิชต์ดับเครื่อง ไฟสูง/ ต่ำ เปิดไฟหน้า และ แตรปุ่มเหลี่ยม
ใต้กระโหลกไฟหน้า มีแผ่นเหล็กปิดแป๊บเร่งเพื่อความเรียบร้อย นี่ขนาดมองไม่เห็น เจ้าของยังเอาไปชุบโครม...ซะเลี่ยม!!!
โฆษณา