31 ม.ค. 2022 เวลา 05:32 • ความงาม
รวมข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ !!!
ฟิลเลอร์ (Filler) คือการฉีดสารเติมเต็ม ที่เรียกว่า เอชเอ (HA) หรือ ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เพื่อเข้าไปทดแทนและเติมเต็มเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวที่เสื่อมสลาย ช่วยพยุงโครงหน้าให้เกิดการยกกระชับหน้าให้กลับมาดูอิ่มเอิบ เพิ่มความยืดหยุ่น เติมร่องริ้วรอยลึกให้ตื้นขึ้นให้แลดูอ่อนกว่าวัย
ซึ่งฟิลเลอร์มีอยู่หลายชนิดเพื่อช่วยแก้ปัญหาในจุดที่แตกต่างกันไปบนใบหน้า การฉีดฟิลเลอร์ไม่เหมือนการเป่าลมเข้าลูกโป่งที่ตรงไหนบุบ ตรงไหนบุ๋มหรือมีร่องแล้วจะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเดี๋ยวก็พองเอง แต่คุณหมอใช้ฟิลเลอร์ฉีดเข้าไปเพื่อทดแทนไขมันที่ฝ่อตัวลงและมวลกระดูกที่กร่อน บางลงไปตามอายุ เมื่อฉีดแล้วนอกจากจะช่วยเติมเต็ม ยังทำให้ใบหน้าดูยกกระชับขึ้น เปรียบเสมือนการเสริมโครงสร้างปักเสาเข็มให้ใบหน้า
จะฉีดฟิลเลอร์ชนิดไหนดี
ฟิลเลอร์ แบ่งหลักๆ ออกเป็น 3 ประเภท ตามระยะการคงตัว คือ สารเติมเต็มแบบชั่วคราว (Temporary Filler), สารเติมเต็มแบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) และสารเติมเต็มแบบถาวร (Permanent Filler)
ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler) เช่น สารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) และสารคอลลาเจน (Collagen) แต่การฉีดคอลลาเจนไม่เป็นที่นิยม เพราะจากการรวบรวมรายงานผู้ที่เคยฉีด ฟิลเลอร์ ด้วยสารคอลลาเจน พบว่ามีร้อยละ 3 เลยทีเดียวที่ฉีดสารนี้เข้าไปแล้วเกิดอาการแพ้ และสำหรับสารไฮย่าถือเป็นสารที่นิยมใช้ทั่วโลก อยู่ได้นานประมาณ 12-24 เดือน จัดว่ามีความปลอดภัยสูงและสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) เช่น สารโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyakylimide) และสาร PMMA (Polymethyl-methacrylate) จะมีอายุยาวกว่าการใช้ฟิลเลอร์แบบชั่วคราวอยู่ได้นาน 2-5 ปี ปลอดภัยในระดับปานกลางและสารที่ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าและไม่สลาย 100% มีแนวโน้มที่จะเกิดผลข้างเคียงมากกว่า เพราะร่างการถือว่าฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวรนี้เป็นสารแปลกปลอมอาจเกิดอาการแพ้ได้
ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler) เช่น ซิลิโคนเหลวและน้ำมันพาราฟิน จะให้ผลลัพธ์แบบถาวร ไม่สามารถสลายได้เอง ทำให้ระบุผลข้างเคียงในระยะยาวไม่ได้ หากอยู่ในร่างกายนานเกินไปอาจจะทำให้เกิดการอักเสบรุนแรง ซึ่งข่าวที่เราได้ยินกันว่าฟิลเลอร์ไหลหรือฉีดฟิลเลอร์ ไปแล้วผิดรูปหน้าเบี้ยว เป็นก้อน ส่วนมากมักจะเกิดจากฟิลเลอร์ชนิดถาวรที่กล่าวถึง
สารเติมเต็มแบบชั่วคราว ที่เป็นสารไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) ได้รับความนิยมสูงสุดในการนำมาฉีดเติมเต็ม เพราะปลอดภัยสูง มีความใกล้เคียงกับสารในร่างกายมนุษย์ สลายได้เองตามธรรมชาติ ได้รับการรับรองจาก อย. ทั้งในไทยและต่างประเทศและยังแบ่ง ฟิลเลอร์ ออกได้อีก 2 แบบ ตามลักษณะของเนื้อผลิตภัณฑ์ ดังนี้
HA Filler เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีลักษณะคงตัว ใช้สำหรับฉีดปรับโครงสร้างใบหน้าและเติมเต็มในส่วนที่ขยับเขยื้อนบ่อยๆ จนเป็นร่องรอยลึก เช่น ร่องแก้ม เป็นต้น
HA Skin Booster เป็นฟิลเลอร์เนื้อบางเบากว่าแบบแรก มีลักษณะเป็นเจลนิ่มๆ ใช้สำหรับฉีดในบริเวณชั้นผิวที่ตื้นกว่า HA Filler เพื่อช่วยเกลี่ยให้ผิวดูเป็นธรรมชาติ ฉ่ำน้ำ ดูสุขภาพดี กระจ่างใสขึ้นจนดูอ่อนกว่าวัย
ทำไมฟิลเลอร์ที่ผลิตจาก Hyaluronic Acid จึงได้รับความนิยมสูดที่สุด
ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ถูกเรียกในหลายๆ ชื่อทั้งเอชเอ, ไฮยาลูรอนหรือไฮย่า เป็นกรดที่ร่างกายสร้างขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของน้ำไขข้อที่ช่วยหล่อลื่นตามบริเวณส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงช่วยลดการเสียดสีและเพิ่มความยืดหยุ่นของอวัยวะกับเซลล์อีกด้วย กรดไฮยาลูโรนิคถูกสร้างขึ้นระหว่างบริเวณผิวชั้นล่าง หรือชั้นหนังแท้และผิวชั้นบน หรือชั้นหนังกำพร้าที่เชื่อมต่อกัน โดยจะกระจายตัวอยู่ทั่ว เป็นตัวช่วยที่ทำให้คอลลาเจนและอิลาสตินทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลต่อความสดใสเปล่งปลั่งของผิว คุณสมบัติสำคัญของไฮยาลูโรนิค แอซิด ในฟิลเลอร์ช่วยในการกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
คนในช่วงอายุก่อน 30 ปี จะยังไม่ให้ความสำคัญกับกรดไฮยาลูโรนิคนัก แต่พออายุเริ่มขยับผ่านเลข 30 ขึ้นไปเรื่อยๆ จะรู้สึกว่าร่างกายผลิตไฮยาลูโรนิค คอลลาเจนและอิลาสตินได้น้อยลง สังเกตเห็นชัดที่สุดคงเป็นริ้วรอย ร่องลึก ความหย่อนคล้อยบนใบหน้า เพราะใต้ผิวเริ่มสูญเสียความชุ่มชื้นไป แห้งเหี่ยวขาดความยืดหยุ่นและด้วยเหตุนี้กรดไฮยาลูโรนิคสังเคราะห์จึงถูกคิดค้นขึ้นจนกลายมาเป็นฟิลเลอร์ในที่สุดโดยมีสภาพใกล้เคียงกับร่างกายคนมากที่สุด เพื่อทดแทนส่วนที่ผลิตได้น้อยลงและคงคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดีไว้ อีกทั้งยังสามารถละลายน้ำได้ดีอีกด้วย จึงสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
ด้วยการคงคุณสมบัติสำคัญ อย่างการกักเก็บความชุ่มชื้นในกรดไฮยาลูโรนิคสังเคราะห์ จึงเป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่าสารนี้สามารถช่วยเรื่องริ้วรอยและเติมปริมาตรใต้ผิวได้จริงอย่างเห็นผล จัดอยู่ในประเภทของสารที่มีความปลอดภัยสูงมาก วงการเสริมความงามเลยนิยมนำไฮยาลูโรนิก แอซิด มาใช้อย่างแพร่หลาย ซึ่งแบ่งได้ 2 ประเภทหลักๆ ที่สามารถพบบ่อยในชีวิตประจำวัน
1) การนำมาผสมในครีมบำรุงและเซรั่มต่างๆ
2) การฉีดสู่ใต้ผิวโดยตรงด้วยฟิลเลอร์
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
ก่อนมาเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง ควรงดยา/วิตามิน/อาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอี ยาแอสไพริน สารสกัดจากใบแปะก๊วย เป็นต้น รวมถึงพวกอาหารหมักดอง เพราะจะไปกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดแข็งตัวช้า ในระหว่างฉีดฟิลเลอร์ คนไข้อาจจะเลือดไหลไม่หยุดได้และเสี่ยงต่ออาการช้ำหลังฉีดอีกด้วย
ผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละครั้งจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและปัญหาของคนไข้แต่ละคน หลังจากฉีดเสร็จแล้วสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น เพื่อให้ฟิลเลอร์เซตตัว ระยะของผลลัพธ์จะอยู่ที่ 6 เดือน – 2 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์ที่ฉีด อีกทั้งใน 2 สัปดาห์แรกหลังจากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วควรทำตามคำแนะนำจากคุณหมออย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
ซึ่งก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ คนไข้จะต้องเข้ารับคำปรึกษากับคุณหมอก่อน เพื่อให้คุณหมอประเมินใบหน้าและพูดคุยถึงผลลัพธ์ที่ต้องการให้ชัดเจน เพราะปัญหาและความต้องการของคนไข้แต่ละคนไม่เหมือนกัน
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็สำคัญ
หลังจากฉีดเสร็จใหม่ๆ คุณหมอจะให้คำแนะนำว่า ภายใน 2 สัปดาห์คุณควรจะ
1.งดนวด ถู สัมผัสใบหน้าแรงๆ
2.งดเท้าคางในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์คาง
3.หลังฉีดจะรู้สึกว่าฟิลเลอร์เป็นก้อน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการฉีดฟิลเลอร์ ห้ามปั้น นวด คลึงเอง เพราะอาจจะทำให้ผลลัพธ์ที่คุณหมอวางไว้ไม่เป็นตามที่แพลนไว้
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ยกกระชับที่ฉีดเข้าไปได้มีเวลาเซตตัวเสียก่อน แต่หลังจากนั้นคุณควรดูแลตัวเองในทุกๆ วัน เพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้ตามระยะเวลาและการดูแลตัวเองไม่ได้ส่งผลดีแค่เพียงตรงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เข้าไป แต่ยังส่งผลดีถึงสุขภาพโดยรวมของคุณด้วย
✨ ให้ EDEn Clinic เปลี่ยนแปลงคุณ สู่เวอร์ชั่นที่ดีกว่า ✨
.
📌ติดตามอัปเดตโปรโมชั่นของอีเดนคลินิกก่อนใครได้ที่
⚡️เข้าไปดูข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคลินิกเราได้ที่
.
สอบถาม จองคิว ขอดูรีวิJ หรือปรึกษา ฟรี
📍 สาขาเชียงใหม่ (เซนทรัลแอร์พอต)
☎️ Tel. 053-216-468 / 097-962-8288
.
🕚-🕗 เวลาเปิดทำการ 11.00-20.00 น. (ทุกวัน)
โฆษณา