31 ม.ค. 2022 เวลา 11:09 • ไลฟ์สไตล์
เรื่องเล่าผ่านกาลเวลา #188
ตอน : กระติกลายสก็อต
พยายามที่จะหาที่มาที่ไปของกระติกมือถือลายสก๊อต ที่ใช้เก็บความเย็นที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายเมื่อราว๕-๖0ปีที่แล้ว ว่าจริงแล้วมันมีประวัติความเป็นมาอย่างไร เพราะในสมัยนึงก็แอบข้องใจ ไทยผลิตน้ำแข็งได้ตั้งแต่มะไหร่ ไอสครีมมาไทยเขาทำกันมาในยุคสมัยใด จนได้คำตอบแล้วว่า ในรัชสมัยรัชกาลที่๔ต่อรัชกาลที่๕
เลยอุปมานไปว่า ถ้ามีการทำน้ำแข็งไงก็คงมีที่เก็บแหละ แต่เขาจะเก็บแบบไหนคงเป็นอีกเรื่อง แต่ด้วยสายตาที่มองเห็น น้ำแข็งในยุคสมัยห้าสิบปีที่แล้วเขาใช้ลังไม้ใส่น้ำแข็งฝังแกลบเอา ครั้นจะเอามาใช้ล้างแกลบออกซะหน่อยก็ใช้งานได้แล้ว
ส่วนไอ้เจ้ากระติกที่เกิดมาอยู่คู่ยุคสมัยคงไมีแคล้วกระติกน้ำร้อนกระจกเคลือบปรอท ที่มีขายหลากหลายยี่หัอที่จำได้เห็นจะมี ยี่ห้อไลออนส์และนกยูง ส่วนเจ้าอื่นๆก็คงมี ส่วนใหญ่ก็เป็นของที่ทำมาจากจีน เท่าที่ค้นเจอไลออนส์มีผลิตและโฆษณามาตั้งแต่ราวปี๒๕๐๔
ส่วนไอ้กระติกความเย็นก็คงเห็นตีคู่มากับกระติกน้ำร้อนคงจะเห็นแต่จะเป็นกระติกที่มีลาย ที่เขาเรียกว่าลายสก๊อต แต่เริ่มผลิตเมื่อใดยังไม่มีใครให้รายละเอียดที่แน่ชัด เพราะในยุคสมัยมันช่างดูเฟื่องฟูเสียจริง ขนาดเขาทิ้งเรายังเคยเอามาแกะดูข้างในด้วยความสงสัยว่าทำไมมันเก็บความเย็นได้
โดยเนื้อแท้มันเป็นพลาสติกสองชั้นบางยี่ห้อกั้นกลางด้วยโฟมเพื่อลดการคลายความเย็น แต่บางยี่ห้อก็ใช้พลาสติกหนาหน่อยเอาไว้ป้องกันความร้อนจากภายนอกสู่ภายใน แต่ที่น่าสนใจ คือเขาใช้สังกะสีพันรอบ สีสันสดใสน่าใช้งาน จนมีคนขนานนามเจ้ากระติกนี้ตามลวดลายบนสังกะสีว่า "กระติกลายสก๊อต"
ทั้งๆที่จริงแล้วลวดลาย ลายสก๊อต มีชื่อเรียกว่า “ตาร์ตัน” ฟังแล้วหลายคนอาจจะนึกไม่ออกว่าเป็นอย่างไร แต่ถ้าบอกว่า "ลายสก๊อต"แทบทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี
ตาร์ตัน (Tartan) หรือลายสก็อต เป็นลวดลายอย่างหนึ่งที่เกิดจากการตัดกันระหว่างแถบในแนวตั้งและแนวนอน ที่มีสีแตกต่างกันไป ทำให้เกิดลวดลายที่มีลักษณะคล้ายตารางจัตุรัสขนาดเล็กใหญ่สลับกันไป โดยทั่วไปแต่ละแถบจะประกอบด้วยเส้นกลาง มีแถบขนาดใหญ่ด้านข้างขนาบเส้นกลาง และก็จะมีเส้นขอบในแนวขนานกับเส้นกลางทั้งสองฝั่งอีกที (ตามรูป)
ลวดลายตาร์ตันมีความเป็นมายาวนานมาก อาจจะย้อนหลังไปได้ถึงยุคเหล็ก (Iron age) หลายพันปีก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว มีการค้นพบผ้าทอที่มีลวดลายคล้ายแบบตาร์ตันทั้งในยุโรปกลาง และบริเวณแอ่งทาริม (Tarim) ในมณฑลซินเจียงของจีน มีอายุประมาณ 5-6 ร้อยปี แสดงว่าในเวลานั้นการทอผ้าลวดลายตาร์ตันคงเป็นที่รู้จักกันทั้งในยุโรปและเอเชียดีแล้ว ในบันทึกของโรมันได้กล่าวว่า ชาวเคลต์ ซึ่งเป็นชนกลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ในฝรั่งเศสไปจนถึงเกาะอังกฤษ นิยมสวมเสื้อผ้าลายขวางที่มีสีสันสดใส
คำว่า “ตาร์ตัน” ที่ใช้เรียกลวดลายแบบนี้นั้น มีบางแห่งกล่าวว่ามาจากคำภาษาฝรั่งเศสว่า Tartarin ซึ่งหมายถึงเสื้อผ้าของชาวเผ่าตาร์ตาร์ หรือชาวมองโกลที่เข้ามารุกรานยุโรปในช่วงปลายยุคกลาง แต่บางแห่งก็ว่าคำนี้มาจากภาษาแกลิกสก็อต (Scottish Gaelic) tarsainn ซึ่งแปลว่า ลายขวาง (across) สำหรับในอเมริกามักจะเรียกว่า plaid
ผ้าลายตาร์ตันจะเป็นที่นิยมในสก็อตแลนด์มาตั้งแต่เมื่อใดนั้นไม่ปรากฏแน่ชัด แต่อย่างน้อยก็น่าจะตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 มาแล้ว เพราะปรากฏว่าในปลายศตวรรษนั้นได้มีการออกแบบผ้าลวดลายตาร์ตันออกมาเป็นจำนวนหลายแบบ นักเขียนชาวสก็อตแลนด์ชื่อ มาร์ติน มาร์ตินได้เขียนหนังสือชื่อ A Description of the Western Islands of Scotland ในปี 1703 โดยอาศัยลวดลายบนผ้าในการแยกแยะว่ามาจากภาคใดของสก็อตแลนด์ และเมื่อพระเจ้าจอร์จที่ 4 ได้เป็นกษัตริย์อังกฤษพระองค์แรกที่เสด็จเยือนนครเอดินเบรอะในปี 1822 ก็ทำให้ความนิยมในผ้าลวดลายตาร์ตันแพร่หลายเข้ามาในอังกฤษ และกระจายต่อไปยังส่วนอื่นของโลก
ทุกวันนี้มีผู้นำลวดลายตาร์ตันมาประยุกต์เป็นรูปแบบที่แตกต่างกันไปมากมาย เฉพาะที่มีการรวบรวมและขึ้นทะเบียนเอาไว้ก็มีประมาณ 3500-7000 แบบ ในอดีตลายตาร์ตันจะนิยมใช้ในการทอผ้าสำหรับทำผ้าผืนใหญ่เช่นคิลต์ (หรือผ้านุ่งแบบสก็อต) แต่ปัจจุบันมีการพิมพ์ลายบนพื้นผ้าแทนการทอ มีการนำมาใช้เป็นลวดลายของผ้าเช็ดหน้า เน็คไท ผ้าห่ม รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ อีกมากมาย
ในยุคสมัยนั้นกระติกลายสก๊อตมีการผลิตกระติกออกมาหลากหลายขนาดเพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน โดยมีขนาดใหญ่สุดน่าจะมีความสูงราวสองฟุต และมีขนาดเล็กจิ๋วที่นำมาใส่ผงขนม(โกโก้)ขนาดประมาณหนึ่งนิ้ว/ฟุต
แม้นว่าวันนี้โลกจะเปลี่ยนไป เครื่องทำความเย็นจะเข้ามาแทนที่ แต่กระติกเก็บความเย็นก็ถูกพัฒนาไปในส่วนของดีไซน์รูปแบบที่หลากหลายขึ้น บ้างก็ถูกพัฒนาเป็นแก้วน้ำขนาดเล็ก เหมาะสำหรับพกพาไปไหนได้สะดวกกว่าพกกระติกใบใหญ่ๆไป คงเว้นไว้แต่การไปปิคนิกที่ยังคงต้องใช้กระติกใบใหญ่ใบเขื่อง
กระติกลายสก๊อตจึงกลายเป็นตำนานผ่านกาลเวลาที่ทรงคุณค่า ที่มีค่าพอต่อการเล่าขานหรือเก็บเป็นตำนานของไทยในยุคสมัยนึง
อะโตย อัมโบย มะ
๓๐มกราคม๒๕๖๕
โฆษณา