3 ก.พ. 2022 เวลา 05:52 • ดนตรี เพลง
ธรรมะของดนตรี และความเป็นอมตะ ตอน1
มันไม่มีรูปธรรมที่ตีความด้วยดวงตา และมันก็ใช้เสียง
แตกต่างจากคำพูดทั่วไป
มันเกิดขึ้นแล้วก็หายไป แต่มันถูกบันทึกในความทรงจำ
ของมนุษย์ ในระบบข้อมูลในสมองที่ไร้ตัวตนแต่มีตัวตน
แต่ลอยอยู่ในอากาศแม้ไม่รวมกับคำร้อง
เพราะมันมีส่วนประกอบหลายอย่าง
เข้าด้วยกันในความเป็นดนตรี
มันผสมธรรมชาติเข้าด้วยกัน4 อย่างเป็นพื้นฐาน
ก่อนที่มันจะเรียกว่าดนตรี ดำเนินไปในกาลเวลาที่นับได้
ที่ถูกบรรเลง ให้มันฟื้นชีวิตอีกครั้ง มีตัวตนให้คนสัมผัสราวกับ
มันเป็นอมตะ
1 ระดับเสียงสูงต่ำมาปนกัน
2 ระดับความสั้นยาวของเสียง
3 การเน้นและดังค่อย
4เครื่องมือที่ใช้สื่อสารกับผู้คน
หากมีรูปแบบมากขึ้นกว่านี้ หลังจากสิ่งที่กล่าวมานี้
ได้รวมตัวเป็นดนตรีแล้ว มันก็จะกลายเป็นบทเพลง
หรือแบบฝึกหัด ดนตรีประกอบลิเกหนังลุงฯลฯ อีกมากมาย
ธรรมมะในที่นี้ คือธรรมชาตินะ คำนามกลางๆ
ที่เอาเข้าจริงก็ไม่รู้ว่ามันมีตัวตนอย่างไร แม้เราจะรู้จักมัน
ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง5 ก็ตาม รวม6 เผื่ออื่นๆด้วยก็ได้
แยกย่อยแต่ละส่วนของดนตรีมาว่ากันในธรรมชาติของมัน
เสียงเกิดจากการสั่นสะเทือน หูได้ยินเกิดอารมณ์ การตีความ
และการคาดเดาในระดับแรก ที่เกิด สัญชาตญาณ ถ้าไม่เอา
มันไปรวมกับอะไร อาจเป็นเรื่องร้ายหรือดีก็เป็นได้ ที่มันถูกตีความ
ด้วยปัญญาขั้นพื้นฐาน
แต่ธรรมชาติของเสียงที่ก่อให้เกิดปัญญาทางดนตรี
ของมนุษย์ละเอียดอ่อนกว่า ระดับสัญชาตญาณ พื้นฐาน
คือ เสียงเหนือเสียง ที่เกิดขึ้นเมื่อต่อเนื่องยาวนาน
และเกิดการเปลี่ยนระดับความถี่ไปสู่รูปแบบใหม่แต่อยู่
ในกฎเกณฑ์ ที่โครงสร้างแห่งการเกิดให้สัมผัสแสดงไว้
ในครั้งแรก เช่นมันเป็นเสียง C ในการสั่นสะเทือนเกิดเสียงครั้งแรก
โครงสร้างของมันก็จะไปในกรอบของมัน ในความเป็น C
ในละดับที่จะผันแปรไป
คิดง่ายๆ เวลาขึงราวตากผ้า เราดีดหรือเหนี่ยวมันและปล่อย
ในครั้งแรกมันจะเด้งแรงสุด แต่ความสั่นถี่จะน้อย แต่เมื่อปล่อยให้มันสั่นไปเรื่อยๆแรงสั่นมันจะน้อยลง แต่ความถี่ในการสั่นจะเกิดเร็วขึ้นนั่นแหละเป็นที่มาของความเปลี่ยนของระดับเสียง กับเครื่องมือสร้างเสียง เราเรียกสิ่งนี้ว่า Overtone seriesสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องใช้เครื่องมือ (Timbre)ประกอบ อาจเป็นเครื่องดีดสีตีเป่า ให้เกิดระดับเสียงแรกที่ชัดเจนก้องกังวาลยาวนาน เป็นพื้นให้ตั้งฐานเสียงนึงก่อน
เสียงเหล่านี้ ในการสืบทอดความนิ่งและก้องกังวาลในกาลเวลาหนึ่ง
ของมัน มันจะสร้างจักรวาลของมันให้มนุษย์ติดตามทางประสาทส่วนหนึ่ง ไม่ว่าจะสนใจมันหรือไม่ หากยังได้ยิน มันก็จัดลำดับข้อมูลไว้ในสมอง รอให้เกิดความสนใจจริงจังกับมันก็จะเกิดปัญญา เป็นรางวัลที่มนุษย์ได้รับในความบากบั่นต่อเสียงดนตรีในธรรมชาติ
สิ่งนี้เป็นฐานให้เกิดสเกล ที่คล้ายๆกันทั่วโลกที่มนุษย์
เรียกว่าไพเราะ และ ละเอียดจนเข้าใจแนวประสานที่เกิดขึ้น
พร้อมกัน ว่าเข้ากันได้ไพเราะหรือไม่เข้ากันแค่ไหนพอได้ตื่นเต้น
จนถึงรับไม่ได้ ในเวลาเกิดดับผิดที่ผิดทางในความรู้สึก
ในห้วงอารมณ์แห่งนามธรรมนั้น
สิ่งนี้คือที่มาของวิชาการ ที่เอามาต่อยอดเรียนกันได้
อย่างมีรากฐานของมนุษย์ ในคำนามว่า สเกล คอร์ด
การผสมเสียง ความเหมาะสมฯลฯ ที่ธรรมชาติของเสียง
ถูกสร้างเอาไว้ให้ปัญญาได้สัมผัส และมันมีอยู่แล้ว
ไม่ว่าจะสนใจมันหรือไม่ก็ตาม
โฆษณา