3 ก.พ. 2022 เวลา 08:36 • ไลฟ์สไตล์
เทคนิคง่ายๆ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนคิดบวก
เธอลองเป็นคนคิดบวกดูสิ แล้วชีวิตจะดีขึ้น คำพูดนี้ทุกท่านคงเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง ว่าการคิดบวกนั้นเป็นสิ่งที่ดี ทำให้เรามองโลกในแง่ดี วันนี้อยากจะชวนทุกท่านมาลองเรียนรู้เทคนิคง่ายๆ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนคิดบวกที่ผู้เขียนได้ลองใช้แล้วอยากบอกต่อ
อยู่กับคนที่คิดบวก
“ถ้าอยากเป็นคนยังไงก็ให้เอาตัวเองไปอยู่กับสังคมแบบนั้น” ประโยคนี้หลายคนคงคุ้นหู ประโยคนี้สามารถใช้ได้กับทุกเรื่อง สำหรับผู้เขียนมองว่า เราอยากเป็นแบบไหนเราต้องเรียนรู้ ใกล้ชิดกับสิ่งนั้น ผู้เขียนอยากให้ตัวเองเป็นคนที่มองโลกในแง่บวก ก็พยายามพูดคุยกับคนที่มีความคิดที่หลากหลาย ทำให้เราเห็นมุมมองความคิด อีกมุมที่เราไม่เคยเห็น แล้วเราจะ เอ๊ะ แบบนี้ก็มีด้วยหรอ เราจะได้รู้ว่าปัญหาที่เขาเจอ กับเราเจอเขามีวิธีรับมือหรือแก้ปัญหาอย่างไร
1
ฝึกมองโลกทั้งด้านดีและด้านไม่ดี
 
เหรียญมีสองด้านเสมอ การที่เขาแสดงออกให้เราเห็น อาจเป็นเพียงด้านเดียวที่เรารับรู้ ทุกสิ่งบทโลกก็เช่นกัน ในดีมีเลวในเลวมีดี เหมือนคำสอนของจีนคือหยิงหยาง เราล้วนมีสิ่งที่ดีและไม่ดีผสมกันอยู่ สำหรับผู้เขียนจะมองความผิดพลาดหรือความล้มเหลวเป็นบทเรียนที่จะทำให้เราเก่งขึ้น รู้มากขึ้น เราควรมองเหรียญทั้งสองด้านเสมอ
ไม่ทำตัวโลกสวยเกินไป
 
การคิดบวกและการมองโลกในแง่ดี ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้เราทำตัวโลกสวย มองอะไรโรยด้วยกลีบกุหลาบไปทุกอย่าง แต่การคิดบวกเป็นการปรับมุมมองของเรา อะไรที่คิดติดลบมากเกินไปก็ปรับให้เป็นกลาง และอะไรที่คิดบวกมากเกินไปก็ปรับให้พอดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากเรามีคนเข้ามาจีบ เราก็อย่าเพิ่งมองโลกในแง่ดีว่าเขาเป็นคนดี จริงใจกับเรา ให้เผื่อใจเอาไว้บ้าง ควรจะเรียนรู้กันไป อย่าด่วนสรุปตัดสินใจเพราะความรักคือการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
1
อย่ากังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิด
อย่าทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูม สุภาษิตนี้ใช้ได้กับทุกสิ่งที่เรามักกังวล กับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เรามักจะจินตนาการ คาดการณ์ไปต่างๆ นานา ถึงความเป็นไปได้ แต่แท้ที่จริงเรื่องราวนั้นอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ความวิตกกังวล ความกลัวเป็นอุปสรรคที่ทำให้เรามองโลกในแง่ดีไม่ได้ เพราะสมองยังยึดติดอยู่กับความรู้สึกที่ว่า “กลัวว่าจะ…” ทั้งที่ความจริงอาจจะไม่เกิดตามที่เราคิดก็ได้ ดังนั้นเปลี่ยนความคิดของตัวเองให้ปล่อยวางกับเรื่องราวต่าง ๆ มากขึ้น อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ไม่ตัดสินอะไรง่ายๆ เพียงแค่ตาเห็น
 
การเริ่มต้นคิดบวกควรมาจากความคิดที่เป็นกลาง ดังนั้นเวลาที่เห็นอะไรไม่ถูกใจ ก็อย่าเพิ่งเหมารวมไปว่ามันไม่ดี ให้เข้าใจไปตามสิ่งที่เห็นอย่าใส่ความรู้สึกส่วนตัว ควรแยกความจริงกับความรู้สึกออกจากกัน ปัจจุบันปัญหาที่เกิดขึ้นมักเกิดจากความขัดแย้งทางด้านความคิดอุดมการณ์มากกว่าความถูกต้อง ดังนั้นผู้เขียนมองว่าควรมองทุกสิ่งตามความเป็นจริงโดยปราศจากความรู้สึกส่วนตัว
1
เขียนข้อดีของปัญหาที่พบเจอ
บางทีแค่นึกในใจมันยังเห็นภาพไม่ชัด และดึงข้อดีเหล่านั้นออกมาได้ไม่มากเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะว่าการจดลงไป จะกระตุ้นให้คุณได้ใช้สมองคิดและวิเคราะห์ถึงข้อดีของทุกปัญหาที่เจอ เหมือนที่กล่าวมาว่าทุกสิ่งที่ไม่ดีล้วนมีสิ่งดีๆ ซ่อนอยู่ วันไหนที่เจอปัญหาหนัก ๆ ลองนั่งคิดถึงข้อดีที่ได้จากมันแล้วจดบันทึกลงไป ผู้เขียนขอเล่าเรื่องราวของตนเองที่ตอนแรกมองว่าเป็นความซวยของตนเอง แต่พอมองหาข้อดีเราก็ได้ประโยชน์จากปัญหานั้น ทำให้เราเป็นคนที่เตรียมพร้อมกับปัญหา คือการที่ผู้เขียนไปทำงานสาย ครั้งต่อไปเราก็จะมีวิธีให้ไปเร็วกว่าเดิม ทำให้ได้เรียนรู้ถึงการบริหารจัดการเวลา
ฝึกตัวเองให้ยิ้มง่ายขึ้น
 
การยิ้มเป็นสิ่งพื้นฐานที่ช่วยให้ตัวเราเองรู้สึกมีความสุข ถึงแม้บางครั้งการยิ้มจะเป็นเรื่องเศร้าก็ตาม ลองฝึกยิ้ม ยอมรับ ยินดี กับสิ่งที่เราพบเจอ และมองอย่างที่มันเป็นโดยไม่ตัดสิน ยังไงก็ขอให้ยิ้มแย้มเอาไว้ก่อน แทนที่จะระบายด้วยการปล่อยคำพูดแย่ ๆ ออกมา วันนี้คุณยิ้มแล้วรึยัง ?
1
โฆษณา