3 ก.พ. 2022 เวลา 12:38 • หนังสือ
ตามหาความหมายของการมีชีวิตเพื่อทำตามฝันกับขุมทรัพย์สุดปลายฝัน (The Alchemist)
ซานติอาโก เด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่งที่ออกเดินทางไปเรื่อยๆ เพื่อนำขนแกะไปขายยังที่ต่างๆ
#1 เด็กหนุ่มมีฝันประหลาดซ้ำๆกันในทุกคืน จึงเดินทางไปหายายหมอดู เป็นพวกยิปซี ด้วยการดูลายมือเบื้องต้น และบอกให้เขาเดินทางไปพีระมิดที่อียิปต์ แล้วจะพบขุมทรัพย์
ประโยคหนึ่งที่หมอดูบอกกับเขาคือ "ฉันแค่ทำนายฝัน ฉันไม่รู้วิธีทำให้ฝันเป็นจริงหรอก"...
#2 ต่อมาเขานั่งอ่านหนงสืออยู่ที่จตุรัสแห่งหนึ่ง แล้วได้พบกะชายชรา ผู้อ้างตัวเองว่าเป็นกษัตริย์แห่งซาเร็ม ชายผู้นั้นหยิบหนังสือจากเด็กชายมาดู แล้วกล่าวว่า...
เป็นหนังสือที่พูดถึงสิ่งที่หนังสืออื่นๆ ในโลกพูดถึง..."เรื่องที่คนไม่อาจเลือกชะตาชีวิตของตนเอง และจบลงด้วยการทำให้ทุกคนเชื่อเรื่องโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกนี้"...
เด็กชายจึงถามต่อว่า เรื่องโกหกทีี่ว่าคือเรื่องไร ชายชราผู้นั้นจึงตอบว่า...
"ก็ที่ว่าในบางช่วงชีวิตคนเราจะสูญเสียการควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองและชีวิตเริ่มถูกกำหนดโดยโชคชะตา นี่เป็นเรื่องโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก"
#3 ก่อนเด็กเลี้ยงแกะจะเดินทางออกไปตามหาขุมทรัพย์ ชายชราได้เล่านิทานให้เขาฟังเรื่องหนึ่ง
มีพ่อค้าคนหนึ่งส่งบุตรชายไปศึกษาเคล็ดลับแห่งความสุขกับผู้ปราดเปรื่องท่านหนึ่ง เมื่อเขาไปถึง ผู้ปราดเปรื่องให้เขาเดินไปทั่วปราสาทของเขาก่อน แล้วค่อยกลับมาใหม่ โดยต้องถือช้อนชาที่มีหยดน้ำมันอยู่ แล้วห้ามให้หกระหว่างเดิน...
เมื่อเด็กชายเดินไปทั่วปราสาทโดยที่สายตาจดจ่ออยู่แค่ที่ช้อน ผู้ปราดเปรื่องถึงถามเค้าว่า สิ่งของงดงามต่างๆรอบๆปราสาท หรือไม่...เด็กชายคนนั้นรู้สึกอับอายที่ตนไม่เห็นอะไรเลย
จากนั้นเดินใหม่อีกรอบ โดยเพลิดเพลินกับการชมปราสาท จนหลงลืมหยดน้ำมันที่อยู่ในช้อน จนหกหมดเมื่อกลับไปพบผู้ปราดเปรื่องอีกครั้ง
ชายผู้ปราดเปรื่องจึงกล่าวว่า "เคล็ดลับแห่งความสุขอยู่ที่การมองดูความมหัศจรรย์ของโลกโดยไม่ลืมหยดน้ำมันในช้อน"
#4 เมื่อเด็กเลี้ยงแกะออกเดินทางเพื่อข้ามทะเลทรายไปตามหาปิระมิดกับกองคาราวาน เขาก็ได้พบกับคนขี่อูฐ ซึ่งเขานับถือเหมือนครูคนหนึ่ง คนขี่อูฐเคยเป็นเจ้าของสวนผัก จนอยู่มาวันหนึ่งประสบกับภัยพิบัติแผ่นดินไหว จนทำให้เขาต้องมาเป็นคนขี่อูฐ
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขานึกถึงคำสอนของพระอัลลอฮ์ "คนเราไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งที่ไม่รู้ถ้ายังหาสิ่งที่ต้องการอยู่"
#6 ระหว่างที่กองคาราวานเดินทางได้มีข่าวเกี่ยวกับการสู้รบเกิดขึ้น เด็กหนุ่มซึ่งตอนนั้นรู้สึกกังวลจึงได้ไปคุยกับคนขี่อูฐ คนขี่อูฐจึงบอกกับเขาว่า...
"เพราะผมไม่ได้อยู่ในอดีตหรือในอนาคต ผมมีเพียงปัจจุบันเท่านั้นแหละที่ผมสนใจ หากคุณอยู่ในปัจจุบันได้ตลอดเวลา คุณจะเป็นคนที่มีความสุข คุณจะรู้ว่าในทะเลทรายมีชีวิต และบนท้องฟ้ามีดวงดาว และเหตุที่นักรบต่อสู้กันนั้นก็เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธ์มนุษย์ ชีวิตจะเป็นงานเลี้ยง เป็นเทศกาลใหญ่ เพราะชีวิตคือช่วงเวลาขณะที่เราอยู่เดี๋ยวนี้เท่านั้น"
#7 คนขี่อูฐยังเคยเล่าเรื่องที่เขาไปหาหมอดูให้เด็กหนุ่มฟังเกี่ยวกับการทำนายอนาคต หมอดูจึงบอกกับคนขี่อูฐว่า..
"เมื่อมีคนมาหาเรา เราไม่ได้กำลังอ่านอนาคตของเขา เรากำลังเดาอนาคตต่างหาก...แล้วเราเดาอนาคตได้อย่างไร ก็เดาได้โดยสัณญาณปัจจุบันนั่นเอง ความลับอยู่ที่ปัจจุบันนั่นแหละ หากท่านใส่ใจกับปัจจุบัน ท่านจะทำให้มันดีขึ้นได้ เมื่อท่านทำให้ปัจจุบันดีขึ้น สิ่งที่ตามมาย่อมดีขึ้นเช่นกัน ขอให้ลืมอนาคตและใช้ชีวิตในแต่ละวันของท่าน..."
#8 หลังจากที่เด็กหนุ่มพบนักเล่นแร่แปรธาตุ แล้วเดินทางไปปิระมิดกับเขา อยู่มาวันหนึ่ง เด็กหนุ่มรู้สึกกลัวที่จะไม่พบขุมทรัพย์ นักเล่นแร่แปรธาตุจึงบอกกับเขาว่า...
"การมีความกลัวที่จะแลกความฝันกับสิ่งที่ได้มาแล้วทั้งหมดเป็นเรื่องธรรมดา...เพราะว่าเจ้าไม่มีวันทำให้มันเงียบเสียงนะสิ แม้เจ้าแสร้งไม่ฟังสิ่งที่มันพูด มันก็ยังอยู่ในตัวเจ้าอย่างนั้น และจะพูดอยู่ตลอดเวลาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ามันคิดอย่างไรเกี่ยวกับชีวิตและโลกนี้...ไม่มีใครหนีใจคนเองพ้น ฉะนั้นจงฟังสิ่งที่มันพูด เพื่อจะได้ไม่ถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว"
โฆษณา