5 ก.พ. 2022 เวลา 08:07 • ประวัติศาสตร์
“คำสั่งของนักบุญลาซารัส (Order of Saint Lazarus)” อัศวินผู้ดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อน
2
ในประวัติศาสตร์นั้น มีอัศวินมากมาย หลากหลายคำสั่ง กรมกองต่างๆ
แต่นอกเหนือจากคำสั่งของอัศวินดังอย่างอัศวินเทมพลาร์ (Knights Templar) ก็ยังมีอัศวินอื่นๆ อีก รวมทั้ง “คำสั่งของนักบุญลาซารัส (Order of Saint Lazarus)”
คำสั่งของนักบุญลาซารัส (Order of Saint Lazarus) เป็นกลุ่มอัศวินนักบุญที่อาจจะไม่รุนแรง บู๊เท่าอัศวินกลุ่มอื่นๆ โดยมีหน้าที่หลักคือการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อน
กลุ่มอัศวินนี้ได้รับการก่อตั้งโดยเหล่าอัศวินครูเสดเมื่อปีค.ศ.1119 (พ.ศ.1662) ที่โรงพยาบาลโรคเรื้อนในเยรูซาเลม โดยมีสัญลักษณ์คือกางเขนสีเขียว พื้นหลังสีขาว ซึ่งจะปักไว้บนเครื่องแบบของนักบุญลาซารัส
อัศวินใต้คำสั่งของนักบุญลาซารัสกลุ่มแรกๆ ก็เป็นอัศวินที่ป่วยด้วยโรคเรื้อน แม้แต่ระดับผู้บัญชาการระดับสูงก็ป่วยด้วยโรคเรื้อน
ตามกฎนั้น หากอัศวินครูเสดหรือขุนนางรายใดป่วยด้วยโรคเรื้อน ก็จะถูกบังคับให้เข้ามาอยู่ในสังกัดคำสั่งของนักบุญลาซารัสทันที
โรคเรื้อน
สำหรับโรคเรื้อนนั้น เป็นโรคติดต่อที่ทำให้เกิดอาการตาบอด พูดติดขัด เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อัมพาต รวมทั้งอาจทำให้นิ้วมือและนิ้วเท้าพิการ
โรคนี้เกิดจากแบคทีเรีย และติดต่อผ่านการหายใจ
โดยปกติ ภายหลังจากได้รับเชื้อ ผู้ป่วยจะมีอาการภายในระยะเวลาห้าปีหลังจากได้รับเชื้อ แต่มีเพียง 5% เท่านั้นที่ติดโรคเรื้อนและออกอาการ
คนส่วนมากมักจะคิดว่าโรคเรื้อนคงเป็นที่รังเกียจของผู้คน หากแต่ในยุคกลางนั้นตรงกันข้าม ผู้ป่วยโรคเรื้อนไม่ถูกรังเกียจ และโรคเรื้อนยังถูกนับว่าเป็นโรคศักดิ์สิทธิ์ซะด้วยซ้ำ
1
เชื่อกันว่าผู้ป่วยโรคเรื้อนคือผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกข์ทรมาน เป็นเหมือนตัวแทนความทรมานของพระเยซู (Jesus)
พระเยซู (Jesus)
สำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อนที่โด่งดังที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ก็คือ “พระเจ้าบอลด์วินที่ 4 แห่งเยรูซาเลม (Baldwin IV of Jerusalem)”
พระเจ้าบอลด์วินที่ 4 ทรงพระประชวรด้วยโรคเรื้อนมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ แต่เนื่องด้วยพระองค์เป็นรัชทายาทแห่งอาณาจักรเยรูซาเลม ทำให้คณะแพทย์ ต่างไม่รีบฟันธงว่าพระองค์เป็นโรคเรื้อน เพื่อที่พระองค์จะได้ไม่ถูกบังคับให้เข้าร่วมกับคำสั่งของนักบุญลาซารัส
พระเจ้าบอลด์วินที่ 4 หรือพระสมัญญานามว่า “กษัตริย์เรื้อน (Leper King)” ทรงพิชิตกองทัพของซาลาดินใน “ยุทธการที่มอนต์กิซาร์ด (Battle of Montgisard)” เมื่อปีค.ศ.1177 (พ.ศ.1720)
ยุทธการที่มอนต์กิซาร์ด (Battle of Montgisard)
สำหรับภารกิจหลักของคำสั่งของนักบุญลาซารัส ก็คือการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อน หากแต่เมื่อถึงคราวจำเป็นต้องรบ อัศวินกลุ่มนี้ก็สามารถรบได้อย่างบ้าเลือด
1
เหล่าอัศวินของคำสั่งของนักบุญลาซารัส ได้ต่อสู้กับกองทัพมุสลิมใน “ยุทธการที่ลาโฟบี (Battle of La Forbie)” เมื่อปีค.ศ.1244 (พ.ศ.1787) โดอัศวินกลุ่มนี้ ล้วนแต่พลีชีพในสนามรบ
นอกจากนั้น อัศวินกลุ่มนี้ยังปกป้องเมืองเอเคอร์ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์แห่งสุดท้ายของกองทัพครูเสดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ก่อนที่เมืองเอเคอร์จะตกเป็นของมุสลิมเมื่อปีค.ศ.1291 (พ.ศ.1834)
ยุทธการที่ลาโฟบี (Battle of La Forbie)
ภายหลังจากสูญเสียเมืองเอเคอร์ อัศวินกลุ่มนี้ก็ย้ายไปยังยุโรป และไม่ออกรบอีกเลย
กลุ่มคำสั่งของนักบุญลาซารัสได้ครอบครองที่ดินและปราสาทจำนวนมากในยุโรป โดยมีฐานที่มั่นหลักอยู่ในฝรั่งเศสและอิตาลี
ต่อมาในสมัยศตวรรษที่ 16 ทรัพย์สมบัติและอำนาจของกลุ่มก็ค่อยๆ เสื่อมลง
ในปีค.ศ.1572 (พ.ศ.2115) ฐานที่มั่นที่อิตาลีของกลุ่มคำสั่งของนักบุญลาซารัส ได้ผนวกเข้ากับกลุ่มคำสั่งอีกกลุ่ม และกลุ่มนี้ก็ยังคงดำรงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ โดยมีสมาชิก 2,000 คน
ส่วนฐานที่มั่นที่ฝรั่งเศส ก็ได้สูญสิ้นไปในปีค.ศ.1830 (พ.ศ.2373)
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเกร็ดความรู้ในประวัติศาสตร์
โฆษณา