5 ก.พ. 2022 เวลา 10:36 • หุ้น & เศรษฐกิจ
…เล่าสู่กันฟัง…
คุณจะให้เด็ก 5 ขวบ ยกของหนัก 10 กิโลมั้ย???
เป็นคำถามที่ก่อนเริ่มผมอยากให้คุณผู้อ่านลองจินตนาการตาม…
ผมเขียนซีรี่ส์เล่าสู่กันฟังขึ้นมาเพื่อ อยากจะมอบความรู้ที่เป็นสาระเกี่ยวกับการลงทุนในทุกๆมิติรอบด้านเพื่อที่จะสนับการลงทุนของแต่ละบุคคลในภาพรวม
เรื่องที่อยากจะเริ่มเล่าวันนี้เป็นเรื่องแรกของซีรี่ส์นี้คือเรื่องของตุ้มเหล็กกับเด็ก
แต่เพื่อไม่ให้พวกเราหลงทาง ผมจะขอเน้นย้ำเป้าหมายของบล๊อคนี้อีกครั้งคือ เราจะลงทุนในหุ้นอย่างไรให้ไม่เจ๊ง โดยที่คอนเซปนั้นง่ายมาก คือ หาหุ้นดี ซื้อแล้วถือไว้ ทำวนไปเรื่อยๆ และมีชีวิตอยู่ให้นานพอ ง่ายๆแบบนี้เลย อย่างไรก็ดีสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการลงทุนในตัวเราเอง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมเขียนขึ้นมาทั้งหมดก็เพื่อให้ผมเองรวมถึงคุณผู้อ่านทุกคน “เล่นหุ้นยังไงให้ไม่เจ๊ง”
มาเข้าเรื่องบทความนี้ของเรากันดีกว่าครับ ลองนึกภาพตามผมดูนะครับว่า เราจะให้เด็ก 5 ขวบ ยกหรือขนของหนัก 10 กิโลกรัมหรือไม่ ?
ผมเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยที่ได้อ่านคำถามนี้คงจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่”
แล้วถ้าผมถามต่ออีกว่า”ทำไมหล่ะ?”
ผมก็เชื่ออีกว่าทุกคนจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า
เพราะว่ามัน”หนัก”เกินไป เด็กมันยกไม่ไหวหรอก
ครับ!!!
ใช่!!! และ จริง!!!
ซึ่งในโลกการเงิน และ การลงทุนก็เหมือนกัน เราจะมีเงิน เท่าที่เรามีความสามารถในการดูและมัน
ผมจะยกตัวอย่างการทดลองนึงให้ดูกัน ถ้าเรามีคน 100 คนในการทดลองนี้ แล้วให้เงินไปคนละ 1 ล้านบาท เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี คิดว่า ทั้ง 100 คน จะเหลือเงิน 1 ล้านบาทเท่ากันหรือไม่
คำตอบคือ”ไม่”ครับ
แต่เพราะอะไร???
ก็เพราะว่าทั้ง 100 คนนั้นมีความสามารถในการดูแลเงินไม่เท่ากัน
บางคนอาจจะทำเงินเพิ่มได้เป็น 10 ล้าน บางคนอาจจะเก็บเงินไว้เฉยๆไม่ได้ทำอะไรก็จะเหลือเงิน 1 ล้าน แต่ก็จะมีอีกฝั่งที่ใช้ไปจนเหลือน้อยและไม่พ้น จะต้องมีคนที่ต้องตกเป็นหนี้เป็นสิน
กรณีศึกษาที่เราเห็นชัดมากๆ ก็หนีไม่พ้น”คนถูกหวย” คนที่ถูกแล้วได้ดีก็มี แต่ส่วนมาก 3ปี 5ปี เงินก็หมด ไม่ว่า 10 ล้าน หรือ 100 ล้าน อย่างที่เราได้เห็นข่าวกันตามหนังสือพิมพ์ และทีวี
เพราะอะไรกัน???
ก็เพราะว่าเจ้าของเงินไม่มีความสามารถในการดูแลเงินเหล่านั้น เงินมันจะไหลไปอยู่กับคนที่สามารถดูแลมันได้
ผมขอขยายเพิ่มเติมให้เห็นชัดกันสุดๆไปเลยนะครับ ถ้าคนคนหนึ่งมีความรู้ทางการเงินแค่นำเงินไปฝาก ธนาคารที่อัตราดอกเบี้ย 0.5% เขาก็จะมีความสามารถในการดูแลเงินเท่านั้น การที่คนๆนี้จะนำเงินไปขยายในด้านอื่น ไม่ว่าจะเป็น ทำร้านอาหาร ปล่อยกู้ ลงทุน หรืออะไรอื่นๆที่ได้เงิน เขาก็มีโอกาสที่จะสูญเงินลงทุนไป เพราะเขามีความสามารถในการดูแลเงินแค่ 0.5% เท่านั้น
แล้วต้องทำยังไง???
คำตอบนั้นง่ายมาก คุณต้องพัฒนาตัวเองให้มีความสามารถที่จะดูแลเงินได้เท่ากับจำนวนเงินที่คุณต้องการ ผ่านการอ่าน(รวมถึงฟัง) และการฝึกฝน แต่ถ้าคุณต้องการแนวทางที่เป็นรูปธรรมมากกว่านั้น ก็ลองสังเกตดูสิว่า คนที่มีเงิน 10 ล้านเขาทำอะไรกันและเขามีความสามารถอะไร คนที่มีเงิน 100 ล้าน และ 1,000 ล้าน เขาทำอะไรกันหรือเขามีความเก่งตรงจุดไหนที่เราไม่มี เราก็เลียนแบบแค่นั้นเอง
สรุปง่ายๆให้ได้ใจความ
คุณจะมีเงินเท่าที่คุณมีความสามารถในการดูแลมัน ถ้าคุณมีเงินเกินกว่านั้นมันจะค่อยๆลดลง
ในทางตรงกันข้ามถ้าคุณมีความรู้นำจำนวนเงินที่มี เงินมันก็จะงอกเงยมาจนเท่ากับความรู้ที่คุณมี
ดังนั้นถ้าคุณยังไม่ได้อยู่ในจุดที่คุณต้องการ อย่าหยุดพัฒนาตนเอง และลงทุนให้มีความสุขนะครับ
โฆษณา