"ค่าเงินสวิซฟรัง (CHF)" ถือเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพมากที่สุดในโลก (เรียกได้ว่าเป็น Untouchable land หรือเป็นดินแดนที่มีความปลอดภัยสูง)
ในตลาดหุ้นสหรัฐ ยังมีหุ้นกลุ่ม Big Tech ที่ค้ำยัน index ไม่ให้ล้ม แต่หุ้นเทคใหม่ๆ เล็กๆ ลงมาเยอะมากแล้ว (จากเดิมคนให้ premium เยอะ ทำให้ตอนลงก็มี discount ลงมาเยอะมาก) พอลงถึงจุดหนึ่งที่ value เหมาะสม กลุ่ม Big player ก็จะเขามาเพิ่มทุน หรือซื้อหุ้นคืน ในราคาต่ำๆ ส่วนรายย่อยก็ทยอยขายเปลี่ยนมือ
"ทางรอดของธุรกิจยุคนี้" คือต้อง "synergy" และ "Leverage" value ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมยุคถัดไป (การเติบโตแบบเดี่ยวๆ จะไม่มีอีกต่อไป) อย่างเช่น AIS จับมือ Gulf สร้างธุรกิจ Data center ซึ่งเป็น "New Business" บนโครงสร้าง Infrastructure ของตัวเอง (เป็นโอกาสที่จะใช้ New business แก้ปัญหา Pain point บางเรื่องของธุรกิจเดิม)
จีนไม่สนใจ GDP แล้ว แต่จะหันไปโฟกัสแก้ปัญหาหนี้เสียแทน โดยการเปลี่ยนผ่านไปสู่ New Technology และ New Economy โดยใช้ Digital Yuan เป็นตัวนำ ซึ่งจะทำให้รายได้ของคนจีนเพิ่มขึ้น เมื่อรายได้คนจีนเพิ่มขึ้น หนี้ที่มีอยู่ก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ขณะที่ตลาดหุ้นจีนก็จะเติบโตจากภายใน ด้วยเม็ดเงินของคนในประเทศเอง