Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Play Now Thailand
•
ติดตาม
6 ก.พ. 2022 เวลา 11:12 • กีฬา
#สูญเสียแต่ไม่เสียศูนย์
โดย #มิสมาต้า
เครื่องบินแอร์สปีด แอมบาสซาเดอร์2 เที่ยวบินที่ 609 ของสายการบินบริติช ยูโรเปียน แอร์เวย์ส หยุดพักเพื่อเติมน้ำมันที่สนามบินมิวนิก เนื่องจากในยุคนั้นยังไม่มีเครื่องบินที่มีขนาดความจุของเชื้อเพลิงมากพอสำหรับการบินระยะทางไกล
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการเติมเชื้อเพลิง เครื่องบินลำนี้ก็พร้อมแล้วสำหรับการพา 44 ชีวิตกลับประเทศอังกฤษ
ผู้โดยสารทุกคน พร้อมลูกเรือที่ได้พักผ่อนระหว่างรออยู่ภายในอาคารผู้โดยสารก็กลับขึ้นมาบนเครื่องอีกครั้ง
กัปตัน เจทส์ เธน นักบินคนที่หนึ่ง และ กัปตัน เคนเน็ธ เรย์เมนต์ นักบินคนที่สอง คือผู้นำพาทั้ง 44 ชีวิตกลับขึ้นท้องฟ้าอีกครั้ง
02.20 PM หอควบคุมการบินของสนามบินมิวนิกแจ้งให้เครื่องบินได้ทราบว่า สามารถทำการขึ้นบินได้เลย ภายหลังจากรันเวย์มีความพร้อมแล้ว
กัปตันเจมส์ ผู้เคยเป็นอดีตนักบินของกองทัพอากาศของสหราชอาณาจักร ยุคสู้ศึกสงครามโลกครั้งที่สอง สั่งให้ กัปตันเคน อดีตนักบินขับไล่ผู้ยิงเครื่องบินข้าศึก 6 ลำร่วงจากฟ้าในสงครามโลกครั้งที่สอง ทำการบู๊ตเครื่อง แล้วจนพบความผิดปกติจากเสียงเครื่องยนต์จากอาการเครื่องกระตุก รวมทั้งเกจ์วัดอุณหภูมิของเครื่องก็ไม่ปกติยามเร่งเครื่องเพื่อทะยานขึ้นท้องฟ้า
2
ความพยายามครั้งที่หนึ่ง ยกเลิก
02.30 PM สองนักบินพยายามนำเครื่องขึ้นอีกครั้ง แล้วก็พบกับความผิดปกติแบบเดิม ซึ่งเรียกอาการดังกล่าวว่า มีอัตราส่วนของน้ำมันในห้องเครื่องมากกว่าอากาศ ซึ่งนั่นแปลได้ว่าเครื่องยนต์จะเกิดความรัอนเกินกว่าที่ผนังห้องเครื่องจะทานทนได้
เพราะว่าเกิดการเผาผลาญเชื้อเพลิงที่มากเกินไป จนสามารถทำให้เครื่องยนต์พังได้ และ หากยังฝืนต่อไปจะเกิดเพลิงไหม้ขึ้นตามมา ซึ่งเป็นปัญหาที่ทราบกันดีของเครื่องยนต์รุ่นนี้
ความพยายามครั้งที่สอง ยกเลิก
ผู้โดยสารทุกคนต้องกลับลงไปยังอาคารผู้โดยสารอีกครั้ง และ มีโอกาสที่จะยกเลิกเที่ยวบินนี้ไปเป็นวันรุ่งขึ้น
ทีมวิศกรของสนามบิน และ วิศวกรของสายการบินแนะนำว่า เครื่องยนต์มีปัญหาสมควรยกเลิกเที่ยวบินนี้ไปก่อน
ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ ส่งโทรเลขไปหาภรรยาที่เมืองแมนเชสเตอร์ว่า "เที่ยวบินยกเลิก จะกลับวันพรุ่งนี้ ดันแคน"
1
แต่ กัปตันเจมส์ ตัดสินใจนำเครื่องขึ้นในวันนี้ เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อตารางการบินของสายการบิน ทางภาคพื้นดินจึงแนะนำไปว่า นักบินควรทยอยเพิ่มความเร็วทีละนิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เครื่องยนต์เกิดการกระตุกเหมือนเดิม
1
จึงทำให้นักบินต้องใช้ระยะทางในการเทคออฟเครื่องบนรันเวย์เพิ่มมากขึ้นด้วย เนื่องจากไม่สามารถดันคันเร่งได้แบบเดิมอีกแล้ว
มีการประกาศเรียกให้ผู้โดยสารทุกคนขึ้นเครื่องอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่แน่ใจจนเกิดความกังวลในหมู่ผู้โดยสารทุกคน หลายคนบ่นว่าไม่อยากกลับขึ้นไปบนเครื่องเมื่อมองเห็นสภาพอากาศ รวมทั้งความล้มเหลวในสองครั้งแรก
ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมกับคนอื่นๆ อาจจะคิดอยู่ในใจ แต่ เลียม วีแลน หนึ่งในผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลั้งปากออกมาว่า "เราไม่น่าจะรอด แต่ฉันพร้อมแล้ว" แต่ทุกคนก็ตัดสินใจกลับขึ้นไปบนเครื่องอีกครั้ง
1
นี่คือการขึ้นเครื่องครั้งสุดท้ายของหลายคน และ เป็นความพยายามครั้งสุดท้ายของเครื่องบินลำนี้
02.56 PM เครื่องบินเริ่มเคลื่อนที่เพื่อตั้งลำ สองนักบินสลับที่นั่งกัน
03.03 PM กัปตันเคน แจ้งให้หอบังคับการบินได้ทราบว่าพร้อมนำเครื่องขึ้นแล้ว
ทุกอย่างดูจะเป็นไปด้วยดี เมื่อความเร็วเป็นปกติ จนกระทั่งความเร็วเชิดหัวที่ความเร็ว 114 นอต (211 กม./ชั่วโมง) กัปตันเคนจึงเริ่มกระบวนการนำเครื่องขึ้น
เมื่อล้อหน้าเริ่มยกจากพื้นที่ความเร็วมาถึง 117 นอต (216 กม./ชั่วโมง) จนเกิดความผิดปกติขึ้นแบบเดิมอีกครั้ง เมื่อความเร็วลดลงมาเหลือ 112 นอต และ เหลือเพียงแค่ 105 นอต (194.4 กม./ชั่วโมง) จนทำให้เครื่องเสียการทรงตัว
1
"พระเจ้า เราทำไม่ได้" นั่นคือเสียงตะโกนของกัปตันเคน ก่อนที่ความสูญเสียจะเริ่มเกิดขึ้นตามมา
1
เครื่องไถลออกไปนอกรันเวย์ จนพุ่งเข้าชนบ้านเรือนทำให้เกิดไฟลุกท่วม หลังจากนั้นชีวิต และ ความตายจึงเกิดขึ้นท่ามกลางความสับสนอลหม่าน
1
เคนเน็ธ เรย์เมนต์ ที่ยังมีสติแต่ขาติดอยู่กับชิ้นส่วนที่ยุบลงมา ตะโกนสั่งให้ เจมส์ เธน ทิ้งเขาเอาไว้ที่นี่ แล้วให้หนีออกไปก่อนที่ไฟจะลุกท่วม
1
แฮร์รี เกร็กก์ ผู้รักษาประตูของทีมได้สติแบบเลือดท่วมหน้า และ มีความรู้สึกว่าศีรษะของเขาน่าจะเละเหมือนไข่ลวก แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งมากพอที่จะช่วยเซฟชีวิตสองแม่ลูกชาวยูโกสลาเวียให้รอดออกมาสมกับความเป็นสุดยอดผู้รักษาประตู รวมทั้งร่วมกันช่วยเหลือคนอื่นๆ ร่วมกับ บิล โฟกส์ เพื่อนร่วมทีมที่รอด และ มีสติมากพอ
1
เจฟฟ์ เบนท์ , โรเจอร์ เบิร์น , เอ็ดดี โคลแมน , มาร์ค โจนส์ , เดวิด เพ็กก์ , ทอมมี เทย์เลอร์ และ ดอนนี วีแลน ผู้ที่พูดเหมือนร่ำลาขณะขึ้นเครื่องรอบสุดท้าย คือ นักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ 7 คน พร้อมกับ สต๊าฟฟ์โค้ช 3 คน , ผู้โดยสารอื่นๆ 10 คน , ลูกเรือ 1 คน ส่วน กัปตัน เคนเน็ธ เรย์เมนต์ เสียชีวิตในอีก 3 สัปดาห์ต่อมา
1
ดันแคน เฟอร์กูสัน หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของโลกในเวลานั้น ต่อสู้กับอาการบาดเจ็บอย่างแสนสาหัสที่ไตอยู่นาน 15 วัน จนเสียชีวิตลงอย่างแข็งแกร่งที่เตียงพยาบาล
1
จอห์นนี เบอร์รี กับ แจ็คกี บลันช์ฟลาวเวอร์ แม้จะรอดชีวิตแต่ก็ไม่สามารถกลับไปเล่นฟุตบอลได้อีกเลย
1
ส่วนตำนานผู้ยิ่งใหญ่อย่าง แมตต์ บัสบี บาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถกลับไปคุมทีมในช่วงซีซั่นที่เหลือได้ ก่อนที่จะกลับมาปลุกให้คนที่อยู่รอดกลับมาสู้ และ สร้างบัสบีเบ๊บส์ขึ้นใหม่อีกครั้ง
1
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงพบกับความเปลี่ยนแปลงทั้งโครงสร้างของทีม และ เปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ที่กำลังจะเข้าสู่ยุคทองไปสู่ยุคมืดมนของสโมสรหลังควันไฟ และ ความตายในวันนั้น
1
ความสูญเสีย ชีวิตหลังความตาย ชีวิตหลังการรอด และ ชีวิตของคนข้างหลังที่ยังต้องอยู่ คือสิ่งที่คนทั้งโลกรู้สึกร่วมในความสูญเสียไปกับพวกเขาด้วย
1
แม้กระทั่งคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง วูลฟ์แฮมป์ตัน กับ ลิเวอร์พูล รวมทั้ง เรอัล มาดริด ที่เสนอตัวขอส่งนักเตะมาให้ใช้งานในขณะที่ยังตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งเป็นหนึ่งในความสวยงามของโลกของฟุตบอลที่หลายครั้งมิตรภาพอยู่เหนือความขัดแย้ง
1
ท่ามกลางความโหดร้ายที่พวกเขาประสบ กำลังใจ กับ กำลังเงินที่มาจากการบริจาคของแฟนบอล ที่แม้อาจจะไม่ใช่เงินจำนวนมาก แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้ชีวิตชีวาหลังความตายของสโมสรแห่งนี้กลับมาอีกครั้ง
ปัจจุบัน เซอร์ บ็อบบี ชาร์ลตัน คือหนึ่งในผู้อยู่รอดจากมัจจุราชในวันนั้น แต่เชื่อได้ว่าเพื่อนร่วมรุ่นของเขาทุกคนคงไปตั้งทีมท้าแข่งกับเทวดาผู้มีใจรักทางฟุตบอลอยู่บนสวรรค์ คงจะอวยพร และ รอให้ตำนานแห่งยูไนเต็ดหวนกลับคืนสู่เหย้าร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
1
ขอให้ทุกท่านสุข และ สงบ
#PlayNowThailand #khelnow #football
3 บันทึก
12
2
2
3
12
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย