6 ก.พ. 2022 เวลา 14:07 • หนังสือ
คุณเชื่อหรือไม่ว่า...โอกาสในการประสบความสำเร็จ แปนผันตรงกับ “ความศรัทธาของคุณที่มีต่อตัวเอง” คำถามคือ ตอนนี้คุณศรัทธาในตัวเองมากน้อยแค่ไหน?
2
สรุปหนังสือ Think & Grow Rich ตอนที่ 2
2
ในสัปดาห์ที่แล้วแอดได้เล่าถึงขั้นตอนแรกสู่ความร่ำรวยไปแล้ว นั่นก็คือ “การมีปณิธานอันแรงกล้า” วันนี้แอดก็จะมานำเสนอขั้นตอนที่ 2 ว่ากันต่อด้วยเรื่องของ “ศรัทธาในตัวเอง”
พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อคุณมีปณิธานอันแรงกล้าที่จะทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จแล้วนั้น ลำดับถัดไป คุณต้องมีศรัทธาในตัวเองด้วย ว่าตัวคุณนั้นสามารถเปลี่ยนปณิธานซึ่งเป็นความคิดให้กลายเป็นผลลัพธ์จริงๆ ขึ้นมาได้ผ่านการกระทำนั่นเอง
คุณเชื่อหรือไม่คะว่า “ศรัทธา” นี้สามารถสร้างขึ้นได้ โดยการหมั่นฝึกฝนตามสูตร 5 ข้อ ที่จะกล่าวต่อไปค่ะ
1
ถ้าพร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลยค่ะ!!!
ในความหมายของฮิลล์...
ศรัทธา หมายถึง สภาวะจิตใจที่จะถูกชักนำและสร้างสรรค์ด้วยการยืนยันหรือออกคำสั่งซ้ำๆ ไปยังจิตใต้สำนึก ผ่านหลักการของการเสนอแนะตัวเอง
การยืนยันกับตัวเองซ้ำๆ นี้ เหมือนกับการออกคำสั่งกับจิตใต้สำนึกของคุณและมันเป็นวิธีการเดียวในการเสริมสร้างอารมณ์แห่งศรัทธา (ความเชื่อมั่นอย่างแท้จริงว่าคุณสามารถทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้)
2
อารมณ์หรือความรู้สึกแห่งห้วงความคิดเป็นสิ่งที่ทำให้ความคิดของคุณมีชีวิตชีวาและจะส่งผลต่อกิจกรรมที่จะทำต่อไป อารมณ์แห่งศรัทธาเมื่อผสมผสานเข้ากับพลังความคิดจะนำไปสู่การปฏิบัติที่สัมฤทธิผล
1
ฮิลล์บอกว่า...
ศรัทธา ให้ชีวิต ให้พลัง และให้ผลในทางปฏิบัติแก่พลังความคิด
2
ศรัทธา เป็นจุดเริ่มต้นของความมั่งคั่งร่ำรวย
ศรัทธา เป็นพื้นฐานของความมหัศจรรย์ และความลึกลับที่ไม่สามารถอธิบายด้วยกฎทางวิทยาศาสตร์
1
ศรัทธา เป็นภูมิต้านทางความล้มเหลวเพียงอย่างเดียวที่เรารู้จัก
2
ศรัทธา เป็นสิ่งสำคัญในการผสมผสานกับปณิธาน
1
ศรัทธา เป็นสิ่งสำคัญในการแปรเปลี่ยนคลื่นความคิดที่สร้างสรรค์จากจิตใจให้เข้าไปสู่จิตวิญญาณ
1
ศรัทธา เป็นวิถีทางเดียวที่จะควบคุมอัจฉริยภาพแห่งจักรวาล และนำไปใช้ประโยชน์
1
ดังนั้น ความเชื่อหรือศรัทธาของคุณเป็นรากฐานที่จะกำหนดการทำงานของจิตใต้สำนึก เราจะได้ประโยชน์จากการส่งปณิธานที่เราปรารถนาลงไปสู่จิตใต้สำนึก เพื่อแปรเปลี่ยนให้เกิดผลในทางปฏิบัติหรือเป็นเงินทอง จิตใต้สำนึกจะแปรเปลี่ยนให้เกิดผลในทางปฏิบัติด้วยวิถีทางที่สะดวกและตรงที่สุด คำสั่งใดก็ตามที่ลงไปสู่จิตใต้สำนึกด้วยความเชื่อและศรัทธาย่อมจะบังเกิดผล
2
วิธีการในการสร้างศรัทธาในตัวเอง ก็คือ “การเสนอแนะตัวเอง”
1
เนื่องจากมันเป็นหนทางที่จะทำให้จิตใต้สำนึกทำงาน เมื่อคุณให้คำแนะนำจิตใต้สำนึกด้วยการเสนอแนะตัวเองแล้ว คุณจะสามารถหลอกล่อจิตใต้สำนึกได้โดยไม่มีสิ่งใดจะมาหยุดยั้งคุณ
1
เมื่อคุณจะเรียกใช้จิตใต้สำนึกโดยการหลอกล่ออย่างแนบเนียนนั้น คุณจะต้องทำตัวเองให้เสมือนว่าได้ครอบครองสิ่งที่ต้องการไว้เรียบร้อยแล้ว
1
ฮิลล์เน้นย้ำว่า...
คุณจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นอารมณ์เชิงบวกให้เป็นกำลังหลักของจิตใจ อย่างไรก็ตาม ศรัทธาในตัวคุณไม่ได้มาจากการอ่านเพียงแค่คำแนะนำ คุณจะต้องเข้าใจทฤษฎีอย่างถ่องแท้และเริ่มนำไปปฏิบัติ ด้วยประสบการณ์และการลงมือปฏิบัติ จะทำให้คุณสามารถพัฒนาศักยภาพในการผสมผสานศรัทธาเข้ากับคำสั่งที่ส่งลงไปในจิตใต้สำนึก
1
เมื่อคุณมีศรัทธาในความสามารถของตัวเองแล้ว คุณจะสามารถออกคำสั่งต่อจิตใต้สำนึกได้ ซึ่งจิตใต้สำนึกจะยอมรับและตอบสนองในทางปฏิบัติทันที การที่จิตใจของคุณมีอารมณ์เชิงบวกเป็นหลัก จะช่วยสนับสนุนให้เกิดศรัทธาขึ้นในจิตใจ
1
เป็นความจริงที่ว่า คุณจะเชื่ออะไรก็ตามที่คุณย้ำซ้ำๆ กับตัวเอง ไม่ว่าข้อความนั้นจะจริงหรือไม่ ถ้าคุณโกหกซ้ำไปซ้ำมา ในที่สุดคุณจะยอมรับคำโกหกนั้นว่าเป็นเรื่องจริง ยิ่งกว่านั้น คุณจะ “เชื่อ” ว่ามันเป็นความจริง คุณเป็นในสิ่งที่คุณเป็น เพราะว่าความคิดหลักได้เข้าไปครอบงำจิตใจของคุณ
ความคิดที่คุณเจตนาใส่เข้าไปในจิตใจนั้น เมื่อได้ผสมผสานกับอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง ย่อมจะสามารถสร้างแรงจูงใจอันจะชี้นำ ควบคุมทุกๆ กิจกรรม และการกระทำของคุณ
ฮิลล์ยังบอกอีกว่า...ข้อความต่อไปนี้เป็นข้อเท็จจริงที่สำคัญมาก:
“ความคิดที่ถูกผสมผสานด้วยอารมณ์และความรู้สึก จะกลายเป็นพลังดึงดูดความคิดอื่นๆ ที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกันเข้ามา”
1
ความคิดที่มี “พลังดึงดูด” อารมณ์อื่นๆ เข้ามาอาจเปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์พืช เมื่อถูกปลูกฝังเข้าไปในดินอันอุดมสมบูรณ์ มันจะเจริญเติบโต งอกงาม และแบ่งตัวขยายออกไปเรื่อยๆ จากเดิมที่เป็นเพียงหนึ่งเมล็ดพันธุ์ จนกลายเป็นเมล็ดพันธุ์แบบเดียวกันนับล้าน
3
จิตใจคนเรานั้นจะดึงดูดคลื่นที่มีความสัมพันธ์กับสิ่งที่อยู่ในจิตใจ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นความคิด ไอเดีย แผนการ หรือเป้าหมายที่อยู่ในจิตใจของคุณ จะดึงดูดสิ่งซึ่งสัมพันธ์กัน มันอาจเข้าไปอยู่ในจิตใจ และเจริญเติบโต จนกระทั่งกลายเป็นแรงจูงใจหลักในจิตใจของคุณ
1
คำตอบก็คือ...
ไอเดีย แผนการ หรือเป้าหมายนั้นจะเข้าไปอยู่ในจิตใจผ่านการคิดที่ซ้ำๆ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณจึงต้องเขียนข้อความของเป้าหมายและวัตถุประสงค์หลักออกมาแล้วจดจำไว้ แล้วพูดออกมาดังๆ วันแล้ววันเล่าจนกระทั่งเสียงนั้นดังเข้าไปในจิตใจของคุณ คุณจะเป็นในสิ่งที่คุณคิดเนื่องจากความคิดหลักที่คุณได้ยินยอมให้เข้ามาครอบงำจิตใจ
2
ถ้าคุณขว้างสิ่งเลวร้ายจากอดีตที่อยู่ในจิตใจทิ้งไป คุณก็จะสามารถสร้างวิถีชีวิตใหม่ที่คุณต้องการ ในการที่จะสร้างสรรค์สินทรัพย์ในจิตใจ คุณจะค้นพบว่าจุดอ่อนที่สำคัญก็คือ “ขาดความมั่นใจในตัวเอง”
2
คุณสามารถจะเอาชนะสิ่งนี้ได้และแปรเปลี่ยนไปเป็นความกล้าหาญ ผ่านหลักการเสนอแนะตัวเอง คุณสามารถทำได้โดยการเขียนข้อความง่ายๆ ที่เป็นความคิดในแง่ดีออกมา จำข้อความนั้นไว้ แล้วคิดซ้ำๆ จนกระทั่งมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของจิตใต้สำนึก
1
“พลังความคิดทุกอย่างมีแนวโน้มที่จะแปรเปลี่ยนเป็นไปสู่ความเป็นจริง”
1
1.ฉันรู้ว่าตัวเองมีความสามารถที่จะบรรลุเป้าหมายในชีวิต ดังนั้นฉันต้องแน่วแน่ และพากเพียรพยายามเพื่อให้ได้สิ่งนั้น ขอสัญญาว่าจะทำให้ได้
1
2.ฉันตระหนักในความคิดหลักของจิตใจที่จะแสดงพลังออกมา โดยการแปรเปลี่ยนตัวมันเองไปสู่ความเป็นจริง ดังนั้นฉันจะจดจ่ออยู่กับความคิดของตัวเองวันละ 30 นาที เพื่อสร้างมโนภาพถึงคนที่ฉันตั้งใจจะเป็น ฉันจะใช้วิธีนี้เพื่อสร้างภาพในใจขึ้นมา
1
3.ด้วยหลักการแห่งการเสนอแนะตัวเอง ฉันรู้ดีว่า ปณิธานที่แน่วแน่ในจิตใจจะบรรลุผลตามที่ตั้งใจไว้ ดังนั้นฉันจะอุทิศเวลาวันละ 10 นาทีพัฒนาความเชื่อมันในตัวเอง
1
4.ฉันได้เขียนรายละเอียดของเป้าหมายหลักในชีวิต และจะพยายามอย่างไม่ลดละจนกว่าฉันจะพัฒนาความเชื่อมั่นในตัวเองเพื่อบรรลุเป้าหมาย
2
5.ฉันตระหนักดีว่า ไม่มีความมั่งคั่งหรือตำแหน่งหน้าที่ใดจะคงอยู่ได้นานหากเราไม่สร้างมันขึ้นมาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ดังนั้นฉันจะไม่ทำธุรกิจที่ขัดผลประโยขน์ของผู้อื่น ฉันจะต้องประสบความสำเร็จด้วยพลังของตัวเอง และอาศัยความร่วมมือของผู้อื่น ฉันจะชักชวนให้ผู้อื่นช่วยเหลือ เนื่องจากฉันก็เต็มใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ฉันจะขจัดความเกลียดชัง อิจฉา ริษยา เห็นแก่ตัว และการเยาะเย้ยผู้อื่น ด้วยการสร้างสรรค์ความรักต่อมวลมนุษย์โลก เพราะฉันรู้ดีว่าทัศนคติที่ไม่ดีต่อผู้อื่นจะทำให้ฉันไม่ประสบความสำเร็จ ฉันจะสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้อื่นเพราะฉันเชื่อมั่นในตัวเองและผู้อื่น
3
ฉันจะเซ็นต์ชื่อไว้ในสูตรสำเร็จนี้ ผูกมัดด้วยการจดจำ และพูดออกมาซ้ำๆ ทุกวันด้วยศรัทธาที่เต็มเปี่ยมในใจ เพื่อนำพาความคิด และการกระทำให้ฉันกลายเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเอง และประสบความสำเร็จในที่สุด
2
ฮิลล์บอกว่า...
3
เบื้องหลังสูตรสำเร็จนี้ก็คือ กฎธรรมชาติที่นักจิตวิทยาเรียกว่า “การเสนอแนะตัวเองหรือการแนะนำตัวเอง” มันเป็นเทคนิคที่ได้พิสูจน์แล้วว่า ถ้าใช้อย่างสร้างสรรค์จะสร้างความสำเร็จให้เราได้
2
จิตสำนึกไม่แยกแยะระหว่างความคิดที่สร้างสรรค์และทำลายล้าง มันจะทำงานตามสิ่งที่เราใส่ให้มัน ซึ่งก็คือความคิดนั่นเอง จิตใต้สำนึกจะแปรเปลี่ยนความคิดที่เจือปนด้วยความกลัวไปสู่ความเป็นจริง และจะแปรเปลี่ยนความคิดที่แฝงไว้ด้วยกล้าหาญหรือศรัทธาไปสู่ความเป็นจริงด้วยเช่นกัน
ถ้าจิตใจของคุณเต็มไปด้วยความหวาดกลัว สงสัย และไม่เชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองในการนำเอาพลังอัจฉริยภาพแห่งจักรวาลมาใช้ คุณก็จะไม่สามารถใช้พลังนั้นได้ กฎของการนำเสนอแนะตัวเองจะนำความไม่เชื่อและความสงสัยนั้นให้จิตใต้สำนึกแปรเปลี่ยนมันให้กลายเป็นจริง
3
สำหรับคุณแล้วจะได้ผลหรือไม่? คุณไม่มีวันรู้ เว้นแต่ว่าจะผ่อนคลายการต่อต้าน แล้วสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นเท่านั้น
เหมือนกระแสลมที่พัดพาเรือลำหนึ่งไปทางตะวันออก แต่พัดพาเรืออีกลำไปตะวันตก กฎแห่งการเสนอแนะตัวเองนั้นจะยกระดับคุณขึ้นหรือลงก็ได้ ซึ่งเป็นไปตามวิถีความคิดของคุณเอง
กฎแห่งการเสนอแนะตัวเอง ทำให้บางคนยกระดับตัวเองไปสู่ความสำเร็จได้เหมือนอย่างที่บทกวีนี้ได้พรรณนาไว้ โปรดสังเกตการใช้ถ้อยคำแล้วคุณจะเข้าใจความหมายลึกซึ้ง
ถ้าคุณ คิด ว่าคุณล้มเหลว คุณก็จะเป็นตามนั้น
ถ้าคุณ คิด ว่าคุณไม่กล้า คุณก็จะไม่กล้า
ถ้าคุณอยากจะชนะ แต่กลับ คิด ว่าตัวเองไม่สามารถชนะได้
ก็ค่อนข้างแน่นอนว่าคุณจะไม่ชนะ
ถ้าคุณ คิด ว่าคุณจะพ่ายแพ้ คุณก็แพ้
เหนือสิ่งอื่นใดที่เราค้นพบ
และทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ ในใจของเรานี่เอง
ถ้าคุณ คิด ว่าตัวเองเหนือชั้น คุณก็เป็นเช่นนั้น
คุณต้อง คิด ให้ไกลและไปให้ถึง
คุณต้อง มั่นใจในตัวเอง ก่อน จึงจะได้รับรางวัลแห่งความสำเร็จ
สงครามชีวิตไม่ได้มุ่งสู่ผู้ที่เข็มแข็งกว่า และรวดเร็วกว่าเสมอไป
เพราะไม่ช้าก็เร็วผู้ชนะที่แท้จริงก็คือ คนที่ คิด ว่าเขาทำได้
5
อ่านจบแล้วเป็นยังไงกันบ้างคะ?
ถึงตอนนี้ลูกเพจของแอดทุกท่าน ตอบตัวเองได้หรือยังว่า...
1
ณ ตอนนี้คุณเชื่อในศักยภาพของตัวเองแล้วหรือยัง? ว่าคุณจะทำเป้าหมายที่ตั้งไว้สำเร็จได้แน่นอน
โฆษณา