Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Media Horizon
•
ติดตาม
7 ก.พ. 2022 เวลา 04:42 • การศึกษา
หลักวินิจฉัยจริยธรรมสื่อ
หากจะดูว่าสื่อใดไร้จริยธรรมต้องพิจารณาให้รอบด้วย หลักบทบาทหน้าที่แต่ละสื่อกับประโยชน์ต่อสังคมที่เค้าพึงทำให้ผู้คน ไม่ใช่ด่าอย่างเดียวว่าไร้จริยธรรม เพราะสังคมยิ่งจิตตกไร้ความหวังยิ่งขึ้น
9
หลักจริยธรรมคือหลักแห่งพฤติกรรมที่ดีงามหลักจริยธรรมเป็นการส่งเสริมให้ท าสิ่งดีงามจริยธรรม
จึงไม่ใช่ข้อห้ามถ้าเป็นข้อห้ามคือกฎหมายจริยธรรมประกอบไปด้วยหลักจริยธรรมที่ต้องยึดถือและหลัก
จริยธรรมที่ต้องปฏิบัติ สื่อมวลชนทุกแขนงจึงต้องยึดถือและปฏิบัติตามหลักจริยธรรม
1
หลักจริยธรรมที่ต้องยึดถือได้แก่
1. หลักการมีเหตุผลมุ่งสร้างสังคมที่มีเหตุผลสื่อมวลชนต้องน าเสนอข่าวภาพหรือข้อมูลต่างๆที่เป็น
เหตุเป็นผลกันก่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง
2. ศรัทธาต่อเสรีภาพและความรับผิดชอบ สื่อมวลชนต้องมีเสรีภาพในตัวเองการน าเสนอข้อมูลต่างๆต้องมาจากการใคร่ครวญก่อนน าเสนอ
3.การยึดหลักอดทนต่อความยากล าบากหรือความไม่ถูกต้องเป็นสื่อมวลชนต้องแสวงหาข้อมูลเพื่อ
น ามาเสนอไม่ใช้วิธีนั่งเทียนเขียนข่าวหรือมุ่งท าอยู่แต่รายการง่ายๆรวมทั้งไม่อยู่ภายใต้การบังคับของใคร
4. ต้องเคารพศักดิศ์ รีความเป็นมนษุ ย์น าเสนอเรื่องราวต่างๆโดยค านึงถึงศกัดศิ์ รีของผคู้ นท่ีมา
น าเสนอว่าทุกคนสูงต ่าด าขาวล้วนมีความเท่าเทียมกันไม่น าเสนอให้เกิดการดูถูกเหยียดหยามกัน
1
หลักจริยธรรมที่ต้องปฏิบัติ เมื่อมีหลักที่ยึดถือแล้วการแสดงออกของสื่อมวลชนในทางปฏิบัติการ
ประกอบด้วย
1. การยึดทางสายกลางอาจจะเขียนข่าวหรือน าเสนอรายการต่างๆสื่อมวลชนไม่ควรโน้มเอียงจิตใจ
เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ ายใดควรด ารงความเป็นกลางเป็นเหมือนพื้นที่สาธารณะที่ให้ทุกฝ่ ายเข้ามามีส่วนร่วม
2.การค านึงถึงประโยชน์สูงสุดของสังคมทุกครั้งที่น าเสนอข่าวข้อมูลหรือเรื่องราวต่างๆต้องระลึก
เสมอว่าประชาชนและผู้คนในสังคมจะได้ประโยชน์สูงสุดอย่างไร
4
3. การยึดหลักความเป็นสากลหมายความว่าเรื่องราวข่าวสารหรือแม้กระทั่งความบันเทิงที่น าเสนอ
ต้องเป็นเรื่องที่ยกระดับมาตรฐานไม่ยึดติดกับความเป็นชาตินิยมหรือแต่ล าพังวัฒนธรรมท้องถิ่นนิยมของ
กลุ่มชนใดกลุ่มชนหนึ่งหากแต่ยึดมั่นความเป็นสากลถ้าผลิตข่าวรายการสารคดีภาพยนตร์ก็ต้องสามารถ
เผยแพร่ไปให้กับคนทั่วไปต่างๆได้เป็นอย่างดี
4. ยึดมั่นในหลักยุติธรรม หรือหลักถ้วนทั่วคือเป็นการน าเสนอเรื่องราวจากทุกแง่ทุกมุมของผู้คนชน
ชั้นต่างๆในสังคมรวมถึงการให้ความส าคัญต่อการน าเสนอเรื่องราวข้อมูลข่าวสารภายใต้หลักที่มีความ
ถูกต้องเป็นธรรมหากเกิดข้อขัดแย้งต่างๆต้องมุ่งมั่นส่งเสริมให้เกิดการยุติได้โดยธรรมรวมถึงเรื่องราวที่นำ เสนอจ าเป็นต้องมีความชอบธรรมไม่ใช่เรื่องที่น าไปสู่ความเสื่อมในสังคมหลีกเลี่ยงจากการน าเสนอ
เรื่องราวที่มันเป็นอบายมุขแห่งสังคมเพื่อประโยชน์ของตน
5, การยึดหลักเสมือนหนึ่งพี่น้องกันมวลชนต้องคัดเลือกเนื้อหารูปแบบวิธีการน าเสนอให้กับผู้คน
เรียงความร าลึกนึกถึงเมื่อผู้รับสารเป็นเสมือนพี่น้องของเรารวมถึงผู้ที่เป็นคนต้นเรื่องหรือผู้ที่ตกเป็นข่าวหรือ
ผู้ร่วมรายการก็เป็นเสมือนหนึ่งพี่น้องของเราเช่นเดียวกัน
ภายใต้หลักการนี้เมื่อลองมองย้อนกลับไปดูการท างานของสื่อมวลชนไทยต้องบอกว่าสื่อมวลชน
ไทยบกพร่องในเรื่องจริยธรรมทั้งการยึดมั่นในหลักการและแนวปฏิบัติ
ปัญหาการละเมิดหลักการและแนวปฏิบัตเิชิงจริยธรรมของสื่อมวลชนไทย
หนึ่ง).สื่อมวลชนทางด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ส่วนใหญ่มีการน าเสนอเนื้อหาเรื่องราว
หรือข้อความที่เป็นการโฆษณาเกินความจริงจนท าให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิดในตัวผลิตภัณฑ์หรือ
ชิ้นงานนั้นๆและในปัจจุบันนักโฆษณาประชาสัมพันธ์ส่วนใหญ่มุ่งพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ให้กับเจ้าของ
ผลิตภัณฑ์มากกว่าจะค านึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภค
ดังนั้นนักโฆษณาประชาสัมพันธ์ควรต้อง
ยึดมั่นในหลักจรรยาบรรณของสาขาวิชาชีพของตน
ทั้งนี้การโฆษณามีหัวใจส าคัญที่เป็นการสื่อสารเพื่อให้ผู้บริโภครับรู้และเข้าใจในสรรพคุณและ
ประโยชน์รายการอุปโภคบริโภคสินค้าเหล่านั้นอันน าไปสู่ความต้องการเลือกซื้อสินค้าการโฆษณาจึงพึงยึด
มั่นในหลักจรรยาบรรณส าคัญส าคัญที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเป้าหมายในการโฆษณา มีการก าหนดเป็น
2
จรรยาบรรณหรือแนวปฏิบัติให้เกิดความดีงามดังนี้
1.การสื่อสารโฆษณาประชาสัมพันธ์ต้องเคารพความเป็นส่วนตัว(privacy)ของผู้บริโภค นัก
โฆษณาประชาสัมพันธ์ต้องรู้จักโน้มน้าวใจผ่านการสื่อสารที่เหมาะสมต่อผู้บริโภคกลุ่มต่างๆไม่ใช่ลักษณะ
ของการยัดเยียดเสแสร้งหลอกลวงโดยต้องเคารพความสุขส่วนตัวของผู้คนในสังคม
2
2.การสื่อสารการโฆษณาประชาสัมพันธ์ต้องมุ่งน าเสนอเนื้อหาที่ไม่อนาจารไม่มีต่อศีลธรรมอันดี
งามในสังคมเพิ่งน าเสนอเนื้อหาต่างๆด้วยความสุภาพโดยคิดค านึงถึงผู้รับสารส่วนใหญ่ในสังคมที่มีทั้ง
ผู้ใหญ่และเด็กเยาวชนที่สามารถเข้าถึงและเปิดรับสารโฆษณาจากช่องทางการสื่อสารมวลชนได้แม้นว่าจะ
ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายก็ตามลักษณะเช่นนี้จึงเป็นความรับผิดชอบของนักโฆษณาที่พึงมีต่อสังคม
iv
1
3. การสื่อสารโฆษณาต้องเป็นไปด้วยความยุติธรรมไม่ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นรวมถึงผู้ค้าแข่งขันเพราะ
หัวใจส าคัญของนักโฆษณาที่ดีจ าเป็นต้องมุ่งสร้างสรรค์เนื้อหาที่อยู่บนพื้นฐานของลักษณะสินค้าที่ท า
โฆษณาเป็นหลัก
1
4. การสื่อสารโฆษณาประชาสัมพันธ์ต้องไม่กระท าการในลักษณะของการรุกราน ยัดเหยียดผ่าน
ช่องทางต่างๆเพื่อกระตุ้นลุกล ้าผู้รับสารหรือท้าทายฉันคู่แข่งขันเพราะนั่นไม่ใช่วิถีของการสื่อสารโน้มน้าวใจ
ให้ผู้คนหันมาสนใจด้วยตัวของเขาเอง
สอง)การสื่อสารของสื่อบันเทิงไทย ส่วนใหญ่มีแต่สื่อบันเทิงที่ไม่มีคุณภาพเพื่อประโยชน์ของ
สังคมมีเป็นเพียงส่วนน้อยทั้งนี้เพราะสื่อบันเทิงจ านวนมากมุ่งเน้นไปที่เรื่องของเซ็กกีฬายาเสพติดความโป๊
เปลือย ละครน ้าเน่าเรื่องราวที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของความมีเหตุมีผลหรือการน าเสนอเรื่องราวความบันเทิง
เพื่อการยกระดับจิตใจของผู้คนในสังคมทั้งๆที่สื่อบันเทิงมีบทบาทส าคัญอย่างยิ่งที่สามารถยกระดับจิตใจ
และสร้างประโยชน์ไปกับมวลชนคนส่วนใหญ่ใจทุกชนชั้นทุกเพศทุกวัยเป็นส าคัญ
แนวปฏิบัติที่ส าคัญส าหรับการสร้างสรรค์ให้สื่อมวลชนเข้าถึงหลักจริยธรรมการสื่อสารมวลชนคือการยึดมั่น
ในหลัก 3 ประการที่ส าคัญได้แก่
1.การยึดมั่นในหลักความจริง คนท าสื่อเพื่อรายการบันเทิงต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของความจริงและ
สภาพการณ์ที่เป็นจริงในสังคมควรหลีกเลี่ยงการน าเสนอเรื่องราวหรือรายการที่ท าให้ผู้ชมผู้ฟังเกิดความที่
เข้าใจคลาดเคลื่อนหรือหลงเชื่อไปในทิศทางแห่งความไร้เหตุไร้ผล แหวนจะน าเสนอรายการบันเทิงละคร
หรือภาพยนตร์ก็ต้องค านึงถึงพื้นฐานความเป็นจริงของสังคมต้องแยกแยะบอกกล่าวกลัวสิ่งใดเป็นเรื่องแต่ง
สิ่งใดเป็นเรื่องจริงหรือให้ข้อมูลให้เกิดความกระจ่างชัดรอบด้านไม่ใช่น าเสนออย่างขาดความรับผิดชอบ
3
อย่างเช่นกรณีการปล่อยตัววิ่งในรายการที่ขายความพิศวงหรือสิ่งเหลือเชื่อโดยระบุแต่เพียงว่า"โปรดใช้
วิจารณญาณเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล"การน าเสนอเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าไม่ได้ค านึงถึงว่าเป็นสื่อ
บันเทิงที่เข้ามาใช้ช่องทางการสื่อสารมวลชนที่ผู้คนต่างระดับสติปัญญาและวุฒิภาวะสามารถเข้าถึงได้และ
อาจน าไปสู่ความเข้าใจผิดหรือหลงเชื่อ
2.การยึดหลักความงาม รายการบันเทิงร าวงสร้างสรรค์ในการเพื่อยกระดับจิตใจของผู้คนในสังคม
ต่อการท ารายการบันเทิงสามารถสร้างสรรค์ใช้จินตนาการและเทคนิคทักษะในกระบวนการผลิตรายการ
ลักษณะต่างๆได้เป็นอย่างมากจึงใช้ความสามารถเหล่านี้เพื่อช่วยน าเสนอรายการที่ท าให้ผู้ชมนั้นเกิด
ความสุขไปพร้อมๆกับการมีจิตใจที่ดีงามร่วมไปในรายการอันจะท าให้สังคมนั้นเกิดความสุขโดยมวลรวม
ร่วมกันสมกับเป็นช่องทางการสื่อสารมวลชน
v
3.การยึดมั่นในหลักความดี ผู้ผลิตรายการบันเทิงในช่องทางต่างๆจ าเป็นอย่างยิ่งต้องค านึงถึง
ผลกระทบของสื่อจะติดตามมาต้องมีความระมัดระวัง awareness ไม่ให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิดเห็นผิด
เป็นชอบรวมถึงการยึดหลักความดีที่มีความเป็นสากลมิใช่ความดีของชาติ หนึ่งหรือชนชั้นหนึ่ง แต่ไป
เหยียบย ่าเยาะหยันชนชั้นอื่นหรือชาติอื่น
2
สาม)สื่อมวลชนทางด้านการสื่อข่าวของไทย เป็นที่ทราบและประจักษ์กันดีว่าส านักข่าวต่างๆ
ของสื่อไทยมีการระเบิดหลักจริยธรรมการสื่อสารมวลชนหลักจรรยาบรรณสมาคมวิชาชีพและหลักกฎหมาย
อย่างกว้างขวางมากมายตลอดเวลายังพบด้วยว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องที่การน าเสนอข่าวนัดเรานั้นมัก
ไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้ตกเป็นข่าว การน าเสนอข่าวที่บิดเบือนไปจากความเป็นจริงอันเนื่องมาจาก
การไม่น าเสนอข่าวอย่างรอบด้านหรือถ้วนทั่วรวมไปถึงการมีผลประโยชน์แอบแฝงการเข้าข้างเอนเอียงกับ
ฝ่ายใดฝ่ ายหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ ายผู้มีอ านาจหรือผู้มีผลประโยชน์ต่อองค์กรข่าวของตน
ตลอดจนการใช้วิธีการน าเสนอข่าวอย่างง่ายๆเฉพาะตัวเหตุการณ์โดยไม่สืบสาวถึงที่มาที่ไปและผลกระทบที่เกิดขึ้น
ตามมา เห็นได้เช่นข่าวอาชญากรรม ข่าวอุบัติเหตุ ข่าวค าสัมภาษณ์ทางการเมือง ข่าวแถลงของนักธุรกิจ
หรือผู้น าองค์กรใหญ่ๆ โดยมักละเลยเรื่องราวความเป็นไปของผู้คนในสังคมกลุ่มต่างๆทั้งคนจนคนชนบท
เกษตรกรชาวบ้านถือได้ว่าคือมวลชนแขนงข่าวละเมิดหลักจริยธรรมการสื่อสารมวลชนและหลักปฏิบัติการ
แห่งจริยธรรมการสื่อข่าวครบในทุกประการเลย
หลักการอย่างง่ายๆที่จะเป็นแนวปฏิบัติส าหรับการสื่อข่าวให้สอดคล้องกับจริยธรรมการ
สื่อสารมวลชนที่สื่อมวลชนพึงยึดถือใน 3 ด้านได้แก่
1. การยึดมั่นในความถูกต้องการด าเนินเสนอเนื้อหาข่าวสารสู่สาธารณะต้องกระท าการอย่าง
รอบคอบมีการตรวจสอบในทุกๆด้านถึงความถูกต้องไม่มีปืนจากข้อเท็จจริง ตลอดจนต้องท าการตรวจสอบ
ถึงที่มาที่ไปและผลกระทบหรือความเป็นไปในเรื่องราวให้ครบถ้วนเท่าที่จะท าได้ภายในเวลาอันจ ากัด
2.การนำเสนอเรื่องราวต้องยึดมั่นในความเป็นกลางไม่ใช้อคติส่วนตัวไม่ใช้อารมณ์ความรู้สึกที่เป็น
สามัญส านึกทั่วไปมาร่วมน าเสนอเพราะมิฉะนั้นจะกลายเป็นการชี้น าแทรกแซงเหตุการณ์เท่ากับเป็นการ
บิดเบือนเหตุการณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้นถึงแม้นว่าจะเกิดความไม่ชอบหรือรู้สึกคับแค้นต่อเนื่องราวเหล่านั้นก็
จะต้องอดทนอดกลั้นและพยายามน าเสนอเรื่องราวให้ครบถ้วน
3. การยึดหลักความเท่าเทียมและถ้วนทั่วการน าเสนอข่าวต้องแสวงหาข้อมูลข่าวสารจากฝ่ ายที่เกี่ยวข้อง
มาน าเสนอให้ครบถ้วนรอบด้านในคราวเดียวกันให้มากที่สุดควรเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้สื่อสารนำเสนอร่วมด้วย และพึ่งน าเสนอเรื่องราวของทุกชนชั้นของทุกมิติ
จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดแล้วจะเห็นได้ว่าสื่อมวลชนแขนงต่างๆจ าเป็นต้องยึดมั่นในหลักปฏิบัติการ
เชิงจริยธรรมไว้เป็นส าคัญเพราะสื่อมวลชนคือผู้ที่เข้ามาใช้ช่องทางการสื่อสารมวลชนช่องทางการสื่อสารมวลชนนั้นสามารถสร้างผลกระทบทั้งคุณและโทษที่จะเกิดขึ้นได้เพราะมีลักษณะส าคัญ 4 ประการ
1. การสื่อสารจาก one to many เป็นการส่งสารไปยังผู้คนจ านวนมากไม่รู้ว่าใครเป็นใครจะบริโภค
ข้อมูลข่าวสารนั้นอย่างไรเพื่อการใดหรือน าไปใช้ต่ออย่างไร
2. การสื่อสารมวลชนนั้นมีการสะท้อนกลับช้าผู้ผู้ส่งสารไม่รู้ว่าสื่อสารออกไปแล้วผู้รับสารได้รับตรง
ตามเป้าหมายวัตถุประสงค์ที่ท าการสื่อสารหรือไม่ผู้ส่งสารจึงต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างสูง
3. การสื่อสารมวลชนมีความเป็นพื้นที่สาธารณะหรือ public sphere การสื่อสารผ่านช่องทางการ
สื่อสารมวลชนจะเปลี่ยนเรื่องราวจากเรื่องส่วนบุคคลเป็นเรื่องสาธารณะที่เปิดโอกาสให้สาธารณชนเข้าถึง
หรือมีส่วนร่วมทั้งในทางดีและทางไม่ดีได้ตลอดเวลาสื่อต้องลองนึกถึงสิ่งเหล่านี้ไว้เป็นส าคัญเพราะอัน
น าไปสู่ผลที่ไม่คาดคิด
4.ช่องทางการสื่อสารมวลชนสามารถสื่อสารแทรกซึมเข้าไปในความรู้สึกอารมณ์และจิตใจของ
ผู้คนได้ท าให้ผู้คนนั้นมีความคิดค านึงถึงเรื่องราวที่ช่องทางการสื่อสารมวลชนได้แพร่กระจายออกไปอ่าน
ศึกษาในทางดีผู้คนย่อมมีจิตใจความคิดอารมณ์รวมถึงจินตนาการในทางดีแต่
หากสื่อสารไม่ดีก็มีผลในทาง
ตรงกันข้ามและสร้างความเสียหายให้กับสังคมได้
สื่อมวลชนจึงต้องยึดมั่นในหลักจริยธรรมที่ได้กล่าวมาแล้วเป็นส าคัญแต่พี่สื่อมวลชนไทยไม่
สามารถเป็นเช่นนั้นได้มีสาเหตุที่พอสรุปชี้ได้อย่างง่ายๆไว้ 3 ประเด็นได้แก่
1.สื่อมวลชนไม่มีความเป็นวิชาชีพเพราะสื่อมวลชนไทยเปิดให้ใครก็ได้เข้ามาท าไม่มีการก าหนด
กฎเกณฑ์ในการเข้าสู่วิชาชีพไม่ต้องมีความรู้ในเชิงหลักการการท าความเข้าใจในบทบาทหน้าที่และ
ผลกระทบของสื่อมวลชนดังนั้นท าให้ผู้ที่เป็นผู้ส่งสารในช่องทางการสื่อสารมวลชนจ านวนมากขาดความ
ตระหนักขาดความรู้ความเข้าใจถึงอิทธิพลของสื่อและผลกระทบที่มีต่อสังคม
2
2.ระบบการก ากับดูแลการท าหน้าที่ของสื่อมวลชนไม่มีประสิทธิภาพแม้แต่น้อยเพราะสื่อไทยอ้าง
ใช้ระบบ self regulation หรือการรวมตัวกันของเครือข่ายวิชาชีพสื่อมวลชนแขนงต่างๆโดยอ้างหลักความมี
เสรีภาพจึงต้องปกครองกันเองดูแลกันเองตักเตือนกันเอง แต่ในทางปฏิบัติการไม่มีการก าหนดมาตรฐานการพัฒนาความรู้ความสามารถให้มีความเป็นวิชาชีพหรือการก าหนดการลงโทษในกรณีที่มีการละเมิด
หลักจริยธรรมให้หลาบจ า การรวมตัวกันในนามสมาคมวิชาชีพสื่อด้านต่างๆจึงไร้ประสิทธิภาพสื่อมวลชนจึงมีความเป็นอิสระภายใต้อวิชชาในตนเอง เป็นเหมือนสัมภเวสีร้ายที่ผลิตเรื่องราวที่เลวทรามต ่าช้าเข้าหา
ผู้คนเสียแทนโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ด้วยซ ้าไปว่าก าลังท าไม่ดีอยู่
3.ความเป็นอุตสาหกรรมทุนของสื่อไทย องค์กรสื่อไทยแขนงต่างๆรวมตกอยู่ภายใต้ระบบการมุ่ง
แสวงหาก าไรสูงสุดหรือมุ่งรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นแทนการรับผิดชอบต่อมวลชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ
ขณะเดียวกันภาครัฐเองก็ขาดความตระหนักในการส่งเสริมสร้างสื่อสาธารณะหรือสื่อเสรีให้มีน ้าหนักขึ้นมา
ถ่วงดุลยิ่งไป
ดังเช่นกรณีภาครัฐเองอย่างเช่นคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการวิทยุโทรทัศน์หรือกสทชยังใช้ระบบการประมูลเรียกรับเงินจ านวนมากส าหรับการครอบครองสื่อโทรทัศน์ที่เป็นสมบัติของชาติให้เอกชน
เข้ามาด าเนินการ อันเป็นการกระตุ้นส่งเสริมให้ทีวีทุกช่องมุ่งแสวงหาก าไรหารายได้ส าคัญมากกว่าการแสวงหาความจริงการสร้างสรรค์รายการการยกระดับจิตใจของผู้คนในสังคมหรือการกระท าตามบทบาท
หน้าที่ส าคัญส าคัญของสื่อมวลชนอันได้แก่การเป็นผู้เชื่อมโยงสังคมการคัดสรรข่าวสารที่ดีงามสู่สังคมการ
ถ่ายทอดค่านิยมจากรุ่นสู่รุ่นหรือกล่าวโดยง่ายว่ามิได้มุ่งหมายเพื่อการสื่อสารเพื่อการอยู่ร่วมกันหากแต่มุ่ง
หมายเพื่อการสื่อสารเพื่อการแสวงหารายได้สูงสุดของตนเองเป็นส าคัญ
ทางออกสื่อไทยที่จะสร้างแนวทางให้สื่อมีจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคมจึงต้องประกอบด้วย
แนวทางส าคัญส าคัญอย่างน้อย 3 แนวทางควบคู่กันไปได้แก่
1.การยกระดับให้สื่อมวลชนแขนงต่างๆมีความเป็นวิชาชีพต้องมีการคัดสรรผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าสู่
วิชาชีพสื่อแขนงต่างๆทั้งทางด้านการข่าวการโฆษณาประชาสัมพันธ์การสร้างภาพยนตร์หรือการผลิต
รายการสาระบันเทิง โดยต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของ
สื่อสารมวลชนรวมไปถึงตระหนักดีถึงผลกระทบของสื่อรวมถึงได้เรียนรู้และเห็นความส าคัญของหลัก
จริยธรรมการสื่อสารมวลชนด้านต่างๆไม่ใช่เพียงแต่มีความเป็นวิชาชีพทางเทคนิคการผลิตสื่อ
2.ต้องมีการสร้างสมดุลในโครงสร้างอุตสาหกรรมสื่อกล่าวคือต้องเปิดพื้นที่สนับสนุนให้เกิดสื่อเสรี
ในด้านต่างๆโดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐหรือภาคประชาสังคมทั้งในด้านการสื่อข่าวสื่อบันเทิงสื่อ
โฆษณาประชาสัมพันธ์และภาพยนตร์เพื่อให้สื่อเสรีเหล่านี้ผลิตเนื้อหาเพิ่มทางเลือกสร้างแรงกดดันแข่งขัน
กับสื่อมวลชนที่อยู่ในอุตสาหกรรมสื่อทุนนิยมที่มุ่งรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นหรือสื่อธุรกิจเอกชน
viii
3.การพัฒนาจัดตั้งผู้ตรวจการสื่อมวลชนสาธารณะโดยส่งเสริมให้องค์กรภาคประชาชนทั้งองค์กร
ด้านการพัฒนาสังคม องค์กรคุ้มครองผู้บริโภค องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชนต่างๆและเครือข่ายชุมชนใน
ทุกๆภูมิภาคได้มีส่วนร่วมคอยเป็นตัวแทนของประชาชนตรวจสอบการท าหน้าที่ร้องเรียนฟ้องร้องร้องทุกข์
กล่าวโทษต่อสื่อมวลชนแขนงต่างๆที่ท าการละเมิดหลักจริยธรรมการสื่อสารมวลชนและหลักกฎหมายที่
เกี่ยวข้อง
1
หากสามารถประกอบกันได้ทั้ง 3 แนวทางควบคู่กันไปยอมเป็นการช่วยยกระดับให้สื่อมวลชนไทย
ตลาดนัดหันมาพัฒนาเรื่องราวข่าวสารข้อมูลในทางดีให้กับสังคมรถพังลบให้จางหายออกไปเป็นเหมือนผู้
สร้างสรรค์อาหารด้านข่าวสารข้อมูลที่มีคุณภาพให้ผู้คนในสังคมได้เจริญก้าวหน้าดังค าที่ว่า you are what
you eat,,,
46 บันทึก
16
39
46
16
39
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย