สรุปประเด็น : โรงเรียนสาธิต ม.ธรรมศาตสร์
ถูกนายกฯสั่งจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะกลัวหลักสูตรบิดเบือนประวัติศาสตร์และสถาบัน หรือเพราะกลัวหลักสูตรที่ทันสมัยก้าวทันโลกกันแน่ ??
ที่มาที่ไปและมีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปอ่านกันครับ
เริ่มเรื่อง
ทุกอย่างเริ่มขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนสาธิต มธ.ได้ออกมาเผยหลักสูตรที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใครจนได้รับความสนใจจากสื่อหลายๆสำนัก หลักสูตรที่ว่าได้แก่
1. การยกเลิกวิชาเรียนบางวิชาและปรับปรุงใหม่ เช่น ยกเลิกวิชาลูกเสือ-เนตรนารี และเปลี่ยนเป็นวิชาเอาชีวิตรอด ยกเลิกวิชาเพศศึกษาและเปลี่ยนเป็นวิชาวัยรุ่นศาสตร์ เพิ่มวิชารู้ทันการเงิน เพิ่มวิชาเสพศิลป์และกลิ่นเสียง เพิ่มวิชาวิถีศรัทธา(สอนศาสนาทุกๆศาสนาโดยไม่เจาะจง) เพิ่มวิชารู้เท่าทันสื่อ เพิ่มวิชว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด เป็นต้น
2. ปรับกฎระเบียบ นักเรียนไม่ต้องใส่เครื่องแบบมาเรียน ไม่ต้องตัดผมทรงนักเรียนตามกฎกระทรวงและสามารถย้อนสีผมได้ ไม่มีสวดมนต์ตอนเช้า
3. ไม่ต้องไปยืนเข้าแถวเคารพธงชาติ แต่เอาเวลาที่จะต้องเสียไปกับการยืนเข้าแถวมาเป็นวิชาโฮมรูม ให้นักเรียนและครูประจำชั้นมีเวลาอยู่ด้วยกันให้มากที่สุดเพื่อคุยกันถึงปัญหาในห้องเรียนหรือปัญหาส่วนตัวที่ไม่สามารถปรึกษาใครได้
4. ไม่จำเป็นต้องยกมือไหว้ครูเมื่อเดินผ่านเพียงแค่ทักทายกันตามปกติ การทำแบบนี้จะทำให้เด็กไม่เกร็งเวลาต้องเข้าหาครู บรรยากาศในโรงเรียนจะเต็มไปด้วยความเป็นกันเอง
5. ไม่ใช้เกรดในการวัดคุณภาพนักเรียน แต่จะประเมินระดับพัฒนาการของนักเรียนในแต่ละด้านแล้วประมวลผล
แน่นอนว่าเมื่อเป็นหลักสูตรใหม่และหลายๆคนอาจจะไม่ชอบใจหรือไม่เข้าใจ ทาง รศ.ดร.อนุชาติ พวงสำลี ประธานบริหารโรงเรียนได้พูดถึงประเด็นนี้ว่า
: เราทุกคนรู้ดีว่าโลกมันเปลี่ยนแล้วและเปลี่ยนเร็วขึ้นทุกวัน เราจำเป็นต้องสร้างโมเดลการเรียนรู้ใหม่ เราไม่รู้หรอกว่าโมเดลมันจะไปรอดหรือไม่รอด แต่สิ่งที่เรารู้คือ โมเดลเก่าพาสังคมล้มเหลวมาขนาดไหน เพราะฉะนั้นเราจะไม่ทำ
: หลักสูตรที่ทางโรงเรียนจัดทำใหม่ไม่ใช่การคิดขึ้นมาเฉยๆ แต่มันถูกกรั่นกรองมาจากการไปดูงานที่ต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น ฟินแลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น ฯลฯ
หลังจากที่เรื่องการปรับหลักสูตรเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้นนักข่าวก็ได้นำเรื่องราวดังกล่าวไปถามนายกฯรัฐมนตรีว่าคิดเห็นยังไงกับการปรับหลักสูตรนี้ สิ่งที่นายกฯตอบนักข่าวคือ
: ตอนนี้ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปจับตาดูในหลักสูตรดังกล่าวแล้ว เพราะมีคำเตือนจากหลายฝ่ายที่เป็นห่วงบอกมาว่า มันจะเนื้อหาของการบิดเบือนประวัติศาสตร์และสถาบัน และหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงอุดมศึกษาฯ ของเราก็มีพออยู่แล้วคงไม่ต้องไปปรับอะไรมากมายหรอก
โรงเรียนสาธิต มธ.ชี้แจง
จากบทสัมภาษณ์ของนายกฯที่ดูจะไม่ค่อยปลื้มการปรับหลักสูตรสักเท่าไหร่ ทำให้ทางโรงเรียนสาธิต มธ.ออกมาชี้แจงเพื่อให้ทุกอย่างชัดเจนและไม่ให้เข้าใจคลาดเคลื่อนว่า
1) โรงเรียนสมธิต มธ.เป็นโรงเรียนในสังกัดของ ม.ธรรมศาตร์ ที่ให้ความสำคัญกับการเคารพความหลากหลายทางความคิดและมุมมอง ทางโรงเรียนและเหล่าผู้ทรงคุณวุฒิได้ร่วมมือกันเพื่อพัฒนาหลักสูตรเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนสำหรับการเป็นพลเมืองไทยและพลเมืองโลก
2) โรงเรียน ฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัยและมีความเหมาะสม นอกจากวิชาหลักแล้วยังมีวิชาเสริมคือ วิชาอยู่รอดปลอดภัย วิชาว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด วิชารู้เท่าทันสื่อ เป็นต้น
3) เป้าหมายของโรงเรียนคือการบ่มเพาะเยาวชนให้โตไปเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง เป็นพลเมืองโลกที่ยึดโยงกับบริบทของสังคมไทย
ความเห็นในโลกออนไลน์
ฝั่งที่เห็นด้วยกับโรงเรียนก็มองว่า ดีใจที่โรงเรียนกล้าที่จะปรับปรุงหลักสูตรที่มันอาจจะไม่มีประโยชน์แล้วในยุคนี้ และเพิ่มวิชาหรือเนื้อหาที่เป็นประโยชน์กว่าเข้าไป
และชื่นชมเรื่องการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เช่น การยกเลิกการตัดผม การยกเลิกเครื่องแบบนักเรียน เป็นต้น
ฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับโรงเรียนก็มองว่า การทำแบบนี้มันไร้ซึ่งกฎระเบียบ เด็กๆที่จบจากที่นี่ก็จะกลายเป็นเด็กที่ไร้ซึ่งกฎระเบียบ บริษัทไหนๆก็จะไม่รับเข้าทำงาน
เรื่องราวก็ประมาณนี้ครับ แล้วทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้คิดเห็นยังไง ลองมาแชร์กันอย่างสุภาพในคอมเมนท์นะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก
- 29
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
