รู้จัก MetaMask กระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล มูลค่าแสนล้าน
ทุกวันนี้ การทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล กำลังเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจอย่างมาก จนคำว่า คริปโทเคอร์เรนซี, DeFi หรือ NFT กลายเป็นสิ่งที่เราได้ยินกันไม่เว้นแต่ละวัน
แต่นอกจากตัวสินทรัพย์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน
คงจะเป็น แพลตฟอร์มกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Crypto Wallet ที่คอยรักษาความปลอดภัยของคริปโทเคอร์เรนซี และเชื่อมต่อการทำธุรกรรมบนระบบบล็อกเชน ให้กับเรา
โดยผู้ให้บริการ Crypto Wallet ที่ได้รับความนิยมสูงในขณะนี้ คือ “MetaMask”
ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้ ถูกประเมินมูลค่าบริษัทไว้ถึงระดับ แสนล้านบาท..
เรื่องราวของ MetaMask มีความเป็นมาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
MetaMask เป็นแพลตฟอร์มกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล สัญชาติอเมริกัน
ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 หรือราว 6 ปีที่แล้ว โดยคุณ Joseph Lubin
ก่อนหน้านี้ คุณ Lubin เรียนจบทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และเคยทำงานเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับสถาบันการเงินชื่อดังอย่าง Goldman Sachs และเคยทำงานในกองทุนเฮดจ์ฟันด์
จนกระทั่งปี 2011 เขาได้มีโอกาสอ่านเอกสาร Whitepaper ของบิตคอยน์ จึงทำให้เกิดความหลงใหลในคริปโทเคอร์เรนซี และหลักการระบบการเงินแบบไร้ตัวกลาง
หลังจากนั้น 2 ปี คุณ Lubin ถูกแนะนำให้รู้จักกับคุณ Vitalik Buterin เจ้าของไอเดียระบบบล็อกเชน “อีเธอเรียม” ที่มีการเพิ่มฟีเชอร์ Smart Contracts ที่เปิดให้นำเอาคริปโทเคอร์เรนซี ไปทำธุรกรรมประเภทต่าง ๆ ได้มากขึ้น เช่น ค้ำประกัน, ปล่อยกู้ หรือซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
ทำให้เขาตัดสินใจขอเข้าร่วมลงทุนในโปรเจกต์นี้ด้วย และกลายเป็น 1 ใน 8 ผู้ร่วมก่อตั้งของอีเธอเรียม
อย่างไรก็ตาม ศักยภาพที่มากมายของอีเธอเรียม ทำให้คุณ Lubin มีความคิดที่อยากจะเปลี่ยนจากการเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ที่เปิดระบบแบบ Open Source ให้ใครก็ได้มาใช้งานบล็อกเชน ไปสู่การพัฒนาธุรกิจเชิงพาณิชย์มากขึ้น
ซึ่งความคิดนี้ของคุณ Lubin นั้น แตกต่างจากแนวคิดของคุณ Buterin..
ส่งผลให้ในปี 2016 เขาได้แยกตัวออกมาก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีแห่งใหม่ ชื่อว่า ConsenSys เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อกับระบบบล็อกเชนของอีเธอเรียม ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ “MetaMask” แพลตฟอร์มกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล
โดย MetaMask จะทำหน้าที่เป็นเหมือนกระเป๋าเงิน
ที่ผู้ใช้แต่ละคนจะมี “กุญแจ” คือชุดรหัสตัวเลขยาว ๆ ทั้ง Public Key (เปรียบเหมือนเลขที่บัญชี) และ Private Key (เปรียบเหมือนรหัสผ่านเข้าบัญชี) สำหรับไขเข้าไปดูข้อมูล และทำธุรกรรมต่าง ๆ ในบัญชีนั้น
ซึ่งพอเป็นแบบนี้ ก็ทำให้ MetaMask มีภาพลักษณ์ที่ดี ในแง่ของการรักษาความปลอดภัย ให้สินทรัพย์ดิจิทัลของใครหลาย ๆ คน นั่นเอง
ในช่วงแรกของธุรกิจนั้น แพลตฟอร์ม MetaMask มีผู้ใช้งานค่อนข้างน้อย เนื่องจากคริปโทเคอร์เรนซี
บนบล็อกเชนอีเธอเรียม ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้งานแพร่หลายมากนัก
แต่พอผ่านมาถึงกลางปี 2020 นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ MetaMask
เพราะในวงการคริปโทเคอร์เรนซี ได้เกิดกระแสของ Decentralized Finance หรือ “DeFi” ซึ่งเป็นระบบการเงินรูปแบบใหม่
ผู้คนสามารถทำธุรกรรมการเงิน เช่น ฝากเงิน, กู้ยืมเงิน, ค้ำประกัน หรือลงทุน ด้วยคริปโทเคอร์เรนซี ผ่านการตรวจสอบของระบบบล็อกเชน โดยไม่ต้องมีตัวกลางอย่าง ธนาคารพาณิชย์
และต่อมาในปี 2021 อีกกระแสหนึ่งที่มาแรง คือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีลักษณะเฉพาะตัว หรือ “NFT”
ซึ่ง NFT เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถสร้างสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, คลิปวิดีโอ หรือไอเทมจากเกม โดยสามารถตรวจสอบลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผ่านระบบบล็อกเชนได้
ซึ่ง NFT ก็เป็นที่นิยมนำไปประมูล หรือซื้อขายเปลี่ยนมือกัน
ทั้ง DeFi และ NFT ทำให้เกิดการทำธุรกรรม Smart Contracts ด้วยคริปโทเคอร์เรนซีบนบล็อกเชนอีเธอเรียมมากขึ้น ซึ่งธุรกรรมเหล่านี้ ก็ต้องมีการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล
และการที่ MetaMask มีการพัฒนาบริการหลายรูปแบบ รองรับการใช้งานบนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันมือถือ ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
รวมทั้งมีฟีเชอร์เปรียบเทียบราคาสินทรัพย์จากตลาดซื้อขายต่าง ๆ
ก็ทำให้ใช้งานสะดวกและได้รับความนิยมสูง จนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลได้ในตอนนี้
จำนวนฐานผู้ใช้งานประจำของ MetaMask
เดือนตุลาคม ปี 2020 อยู่ที่ 1 ล้านบัญชี
เดือนเมษายน ปี 2021 อยู่ที่ 5 ล้านบัญชี
เดือนสิงหาคม ปี 2021 อยู่ที่ 10 ล้านบัญชี
เดือนพฤศจิกายน ปี 2021 อยู่ที่ 21 ล้านบัญชี
แล้วปัจจุบัน กิจการของ MetaMask มีขนาดใหญ่แค่ไหน ?
ในแง่ของผลประกอบการ MetaMask มีรายได้หลักมาจากค่าธรรมเนียม ประมาณ 0.3-0.875% ต่อมูลค่าธุรกรรมแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซี
ซึ่งฐานผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับกระแสความนิยมของ DeFi และ NFT ที่เพิ่มขึ้น ก็ทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว
อ้างอิงสถิติจากเว็บไซต์ AMBCrypto
สิ้นปี 2020 มีรายได้สะสม 3.1 ล้านบาท
สิ้นปี 2021 มีรายได้สะสม 9,000 ล้านบาท
ด้วยเหตุนี้ ส่งผลให้บริษัท ConsenSys เจ้าของ MetaMask ประสบความสำเร็จในการระดมทุน คิดเป็นเงินมูลค่ากว่า 9,200 ล้านบาท โดยเฉพาะจากกลุ่มนักลงทุนในแวดวงการเงิน เช่น Mastercard, JPMorgan, UBS, HSBC และ Coinbase
โดยในการระดมทุนครั้งล่าสุด เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 บริษัทได้ถูกประเมินมูลค่าธุรกิจไว้อยู่ที่ 106,000 ล้านบาท ถือเป็นสตาร์ตอัปที่เลยระดับยูนิคอร์นไปไกลแล้ว
ในยุคสมัยที่ผู้คนหันมาทำธุรกรรมการเงิน และซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยตัดตัวกลางที่เคยกำกับควบคุมทุกอย่างออกไป สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้ คงหนีไม่พ้น “ความปลอดภัย” ของสินทรัพย์ที่ฝากไว้บนโลกออนไลน์
นี่จึงเป็นเหตุผล ที่ทำให้แพลตฟอร์มกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง MetaMask ที่ถือว่าตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยในการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล ก็ได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ
จนส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าธุรกิจสูงถึงระดับแสนล้าน ภายในเวลาไม่นาน นั่นเอง..
- 25
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
