7 ก.พ. 2022 เวลา 08:43 • หุ้น & เศรษฐกิจ
น้ำมันขึ้นดันเงินเฟ้อเดือน ม.ค.สูงขึ้น 3.23%
1
พาณิชย์ เผย เงินเฟ้อเดือนม.ค.สูงขึ้น 3.23 % ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 จากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น 19.22% ชี้ เป็นเงินเฟ้อแบบอ่อน ไม่จำเป็นที่รัฐต้องออกนโยบายสกัดเงินเฟ้อ คาดเงินเฟ้อเดือน ก.พ.ยังคงสูงแต่ไม่มาก
น้ำมันขึ้นดันเงินเฟ้อเดือน ม.ค.สูงขึ้น 3.23%
นายรณรงค์ พูนพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือเงินเฟ้อทั่วไป เดือนม.ค. 2565 เท่ากับ 103.01 สูงขึ้น 3.23 % เป็นการสูงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 นับจากเดือน ก.ย.64 ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออก เพิ่มขึ้น 0.52 %
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อในเดือนนี้เพิ่มสูงขึ้น 3.23 % มาจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยสินค้ากลุ่มพลังงานสูงขึ้น 19.22 % ซึ่งส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเงินเฟ้อ ดังนั้น สินค้าในกลุ่มพลังงานจึงมีผลต่อการขึ้นของเงินเฟ้อถึง 2.25 % เมื่อเทียบกับสินค้าในกลุ่มอาหารสด อาทิ เนื้อสุกร ไก่สด และไข่ไก่ ส่งผลต่อเงินเฟ้อน้อยมาก โดยเนื้อสุกร มีผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้นเพียง 0.67 % ไก่สด มีผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้นเพียง 0.03 % และไข่ไก่ มีผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้นเพียง 0.05 % นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอื่น ๆ ที่ปรับราคาสูงขึ้นเล็กน้อยตามต้นทุน ทั้งค่าวัตถุดิบ ค่าขนส่ง และค่าจ้างแรงงาน จึงส่งผลต่อเงินเฟ้อไม่มากนัก อาทิ น้ำมันพืช อาหารบริโภคในบ้าน-นอกบ้าน และค่าบริการส่วนบุคคล
นอกจากนี้ จากการที่อัตราเงินเฟ้อในเดือนม.ค. 2565 เพิ่มสูงขึ้น 3.23 % เพราะฐานราคาเดือนเดียวกันของปี 2564 ค่อนข้างต่ำ
“เงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นในเดือนนี้เป็นเงินเฟ้อระดับปานกลางที่ค่อนข้างต่ำเกือบเป็นเงินเฟ้ออ่อน ซึ่งไม่ได้ส่งสัญญาณ บ่งชี้ให้รัฐบาลออกนโยบายใดๆ เพื่อสกัดเงินเฟ้อไม่ให้สูงขึ้น เพราะการออกนโยบายสกัดไม่ให้เงินเฟ้อสูงขึ้นต้องดูอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นติดต่อกันเกิน 6 เดือน และต้องเพิ่มสูงขึ้นในระดับ 4 หรือ 5 % ขึ้นไป แม้ว่าเดือนนี้อยู่ในขาขึ้นสูงแต่ก็ไม่ได้ผิดปกติ แต่เป็นสัญญาณต้องติดตามดูเงินเฟ้อในเดือนต่อๆ ไป “
หากพิจารณาเงินเฟ้อประเทศคู่ค้าสำคัญ และในกลุ่มอาเซียน ข้อมูล ณ เดือนธ.ค.2564 อาทิ สหรัฐอเมริกา สูงขึ้น 7.0 % สหราชอาณาจักร สูงขึ้น 5.4 % สิงคโปร์ สูงขึ้น 4.0 % และฟิลิปปินส์ สูงขึ้น 3.6 % ดังนั้น เมื่อพิจารณาภาวะเงินเฟ้อของหลายประเทศในสถานการณ์โลกปัจจุบัน เงินเฟ้อของประเทศไทยอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก
ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า สินค้าในกลุ่มพลังงานส่งผลให้เงินเฟ้อในเดือนนี้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่สินค้ากลุ่มอาหารยังไม่ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อของไทยเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าสำคัญหลายรายการที่ปรับลดลง อาทิ ข้าวสารเหนียว ข้าวสารเจ้า ผักสด ผลไม้สด เสื้อผ้า ค่าเช่าบ้าน และค่าเล่าเรียน ส่งผลให้เงินเฟ้อของไทยขยายตัวในระดับที่ไม่สูงมากนัก
เงินเฟ้อที่สูงขึ้นในเดือนนี้ สอดคล้องกับเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจสำคัญหลายตัวที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านอุปสงค์ ได้แก่ ยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ปริมาณนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และการส่งออกสินค้าที่ยังคงขยายตัวได้ดี ด้านอุปทาน ได้แก่ กำลังการผลิต ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ดัชนีการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และยอดการจัดเก็บภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับดัชนีราคาผู้ผลิต ที่สูงขึ้น
8.7 % จาก 7.7 % ในเดือนก่อนหน้า และดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง ที่สูงขึ้น 6.1 % จาก 8.9 % ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 44.6 จากระดับ 47.0 ในเดือนก่อนหน้า
นายรณรงค์ สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไป เดือนก.พ. 2565 คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในระดับที่ไม่มากนัก สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศ ที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามราคาในตลาดโลก ประกอบกับราคาฐานของเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมายังอยู่ในระดับต่ำ ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นตาม ค่าวัตถุดิบ ค่าขนส่ง ค่าจ้างแรงงาน และยกเลิกการยกเว้นการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2565 ซึ่งจะส่งผลต่อภาคการผลิตและราคาขายปลีกสินค้าและบริการในลำดับต่อไป
นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกที่ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น อาทิ ค่าขนส่ง และต้นทุนโลจิสติกส์ที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาอาหารทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น
โฆษณา