7 ก.พ. 2022 เวลา 11:03 • ประวัติศาสตร์
• The Pastry War เมื่อร้านขนมถูกพังเลยต้องทำสงคราม!?
ในปี 1821 เม็กซิโกได้รับเอกราชจากสเปน นำไปสู่การก่อตั้งจักรวรรดิเม็กซิโกที่ 1 (First Mexican Empire) อย่างไรก็ตามจักรวรรดิเม็กซิโกก็ดำรงอยู่ได้ไม่นาน และล่มสลายลงในปี 1823 เม็กซิโกเปลี่ยนการปกครองเป็นสาธารณรัฐ
แต่หลังจากเปลี่ยนการปกครอง การเมืองของเม็กซิโกก็เรียกได้ว่าไม่มีเสถียรภาพใด ๆ เพราะเต็มไปด้วยการแย่งชิงอำนาจไปมา เกิดการรัฐประหาร การจลาจล และตั้งกองกำลังที่มีอิทธิพลในเขตใครเขตมัน
ปรากฏว่าในปี 1832 ได้เกิดการจลาจลภายในกรุงเม็กซิโกซิตี้ ทำให้ร้านขนมอบของพ่อครัวชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ มองซิเออร์ เรมองเตล (Monsieur Remontel) พังเสียหาย เรมองเตลจึงได้ยื่นเรื่องขอค่าเสียหายกับรัฐบาลเม็กซิโก แต่รัฐบาลเม็กซิโกก็ไม่ได้สนใจ แม้แต่ฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศแม่ของเรมองเตลเอง ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เหมือนกัน
เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงปี 1838 พระเจ้าหลุยส์ฟิลิป กษัตริย์ฝรั่งเศสในตอนนั้น ไม่พอใจที่เม็กซิโกไม่ยอมใช้หนี้เงินกู้ของฝรั่งเศส ประจวบเหมาะกับพระองค์ได้ยินเรื่องราวของเรมองเตล ด้วยเหตุนี้พระเจ้าหลุยส์ฟิลิปจึงยื่นขอเสนอกับเม็กซิโก โดยขอให้เม็กซิโกจ่ายค่าเสียหายให้กับเรมองเตลเป็นจำนวนเงินถึง 6 แสนเปโซ
แน่นอนว่าเงินจำนวนมหาศาลแบบนี้ เม็กซิโกจึงปฏิเสธไม่ยอมให้เงินกับฝรั่งเศส ดังนั้นฝรั่งเศสจึงประกาศสงครามกับเม็กซิโก และส่งเรือรบปิดล้อมเมืองท่าสำคัญของเม็กซิโกอย่างเมืองเวรากรูซ (Veracruz) ในเดือนตุลาคม 1838 สงครามครั้งนี้ในเวลาต่อมารู้จักกันในชื่อ Pastry War หรือสงครามขนมอบนั่นเอง (เพราะร้านขนมอบเป็นชนวนของสงคราม)
ทหารฝรั่งเศสโจมตีเมืองเวรากรูซ
ทั้งสองฝ่ายสู้รบกันนานหลายเดือน อันโตนิโอ โลเปซ เดอ ซานตา อันนา (Antonio Lopez de Santa Anna) ประธานาธิบดีเม็กซิโกในตอนนั้น ถึงขั้นลาออกจากตำแหน่งเพื่อบัญชาการรบด้วยตนเอง แต่เขาก็พลาดท่าถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จนต้องตัดขาข้างขวาทิ้ง
สุดท้ายสงครามจบลงในเดือนมีนาคม 1839 ฝรั่งเศสเป็นฝ่ายชนะในสงคราม มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างทั้งสองโดยมีอังกฤษเป็นตัวกลาง ซึ่งผลของสนธิสัญญาก็ทำให้เม็กซิโกต้องจ่ายเงิน 6 แสนเปโซให้กับฝรั่งเศส
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา