7 ก.พ. 2022 เวลา 11:00 • ไลฟ์สไตล์
หลังจากอ่านคอนเทนต์ "เจาะลึกอนาคต" ของคนแต่ละ Generation กันไปแล้ว ครั้งนี้เรามาสรุปเปรียบเทียบกันว่าอนาคตของคนทั้ง 3 รุ่น ในวัยที่แตกต่างกันนั้นจะเป็นอย่างไร?
.
เริ่มกันที่ Gen X ผู้กำลังจะเข้าสู่วัยเกษียณอย่างเต็มตัวในอนาคต
แต่พวกเขากว่า 81% ยังคงกังวลเรื่องแผนทางการเงินสำหรับช่วงเกษียณอายุกันอยู่ไม่น้อย[1]
เพราะผลกระทบจากช่วงโควิด-19 ที่ทำให้รายได้ของพวกเขาต้องหดหาย กลายเป็นคนว่างงานกันไปแบบไม่ทั้นตั้งตัว หรือการใช้เงินก้อนใหญ่ไปกับการรักษาตัวจากโควิด-19
ทำให้ต้องดึงเงินสำรองสำหรับแพลนเกษียณอายุออกมาหมุนใช้กันไปจนอาจทำให้แผนที่วางไว้ไม่เหมือนเดิม
.
อย่างไรก็ตาม วัยเกษียณของคน Gen X นั้น กลับไม่ได้เป็นวัยที่จะปลดระวางจากการทำงานแล้วอยู่บ้านเฉยๆ ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ทั่วไป
แต่พวกเขายังอยากทำงาน หรือได้ทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันเหมือนปกติ ดังนั้นในอนาคตเราอาจจะได้เห็นคน Gen X อยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษารุ่นเก๋าให้กับรุ่นน้อง คอยใช้ประสบการณ์ที่สะสมมาคอยซัพพอร์ตคนรุ่นหลังต่อไป
.
และแน่นอนว่าสิ่งที่ Gen X ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในอนาคตก็คือเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมในวัยหลังเกษียณ ที่ปัญหาเหล่านั้นเริ่มแสดงออกให้เห็นตั้งแต่ในปัจจุบัน
และยังมีการคาดการณ์ไว้ว่าทั้งปัญหาขยะล้นเมือง มลพิษ ค่าฝุ่น PM 2.5 จะยิ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้มากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับคน Gen X ที่เข้าสู่วัยเกษียณเป็นวัยที่สุขภาพร่างกายเริ่มทรุดโทรมลงตามกาลเวลา
.
ส่วนคน Gen Y ก็กำลังเข้าสู่วัยทำงานรุ่นเก๋า ที่สะสมประสบการณ์มามากพอตัวจนสามารถก้าวสู่ตำแหน่งหัวหน้า หรือเป็นผู้นำทีมในการทำงานได้
แม้ว่าคน Gen Y กำลังมีวัยทำงานที่รุ่งโรจน์ แต่พวกเขากลับมีความฝันอยากวางมือจากการทำงาน และเกษียณก่อนวัยกันมากขึ้น
พวกเขาจึงเริ่มหารายได้เสริม เพิ่ม Passive Income จากช่องทางต่างๆ เช่น การลงทุน การทำอาชีพเสริม หรือแม้แต่การปั้นตัวเองขึ้นมาเป็น Influencer ใน Social Media
.
เพราะคน Gen Y เป็นุร่นที่เกิดและเติบโตมากับการมีอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย
มีการสำรวจไว้ว่า 80% ของคน Gen Y ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงอยู่กับโซเชียลมีเดีย อัพเดตเรื่องราวต่างๆ ตลอดเวลา รวมถึงยังใช้เป็นเครื่องมือหาเงินเข้ากระเป๋าพวกเขาได้อีกด้วย
.
ในขณะเดียวกัน การที่คน Gen Y พยายามสร้างฐานะและตัวตน ก็เพื่อหวังว่าอนาคตของพวกเขาจะสุขสบายได้อย่างรวดเร็ว
กลับยิ่งทำให้พวกเขาต้องทำงานหนักมากกว่าปกติ ซึ่งมีการสำรวจพบว่า 73% ของคน Gen Y จะยังคงทุ่มเทพลังไปกับการทำงานอย่างหนัก จนอาจทำให้ส่งผลกระทบต่อความตั้งใจ Work-Life Balance ของพวกเขาได้ในอนาคต ซึ่งยังมีการคาดการณ์ไว้อีกว่า คน Gen Y อาจมีวัยชราที่ยาวนานที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า หรือเฉลี่ยอายุมากถึง 90 ปีเลยทีเดียว
.
และแน่นอนว่าสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็คือการเผชิญหน้ากับปัญหาสิ่งแวดล้อมในอนาคต แต่พวกคน Gen Y ก็ไม่ได้นิ่งเฉย พวกเขาเองก็ยังพยายามหาทางดูแลเอาใจใส่โลก
และมีความตระหนักรู้ถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งคน Gen Y ชอบใช้เวลายามว่างออกไปสัมผัสธรรมชาติกันมากขึ้นแล้ว
พวกเขายิ่งเห็นความสำคัญของการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างยั่งยืนได้มากขึ้น
.
และสุดท้ายกับเหล่าเด็กรุ่นใหม่ หรือ Gen Z ที่กำลังเข้าสู่วัยเริ่มต้นทำงานกันอย่างเต็มตัว พวกเขาจะเข้ามาเป็นกลุ่มแรงงานหลักของสังคม
แต่การเริ่มต้นทำงานในสภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกเขาเลย เพราะพวกเขาเป็นกลุ่มที่มีผลกระทบด้านรายได้ที่คาดว่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 ปี กว่าที่รายได้เฉลี่ยของพวกเขาจะกลับมาอยู่ในอัตราปกติได้
.
ซึ่งคน Gen Z ก็พยายามหาทางดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้ ด้วยการหาเงินในช่องทางอื่นๆ ที่พวกเขาถนัด
ซึ่งมีการสำรวจว่า 56% ของคน Gen Z จะใช้ Cryptocurrency และ NFTs เป็นอีกช่องทางในการหาเงินในอนาคต [2] ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็อาจจะพัฒนาไปสู่เป็นอาชีพหลักให้พวกเขาในอนาคตได้เช่นกัน
.
ส่วนในเรื่องสิ่งแวดล้อม คน Gen Z นั้นเติบโตมากับสภาพแวดล้อมที่กำลังแย่ลง ทำให้พวกเขาตระหนักรู้ถึงปัญหาเหล่านี้
พวกเขาจึงพยายามปรับการใช้ชีวิตประจำวันให้สามารถอยู่ร่วมกันกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการงดกินเนื้อสัตว์ เพื่อลดปัญหาจากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ หรือการเลือกใช้เสื้อผ้ามือสองแทนการใช้ Fast Fashion เพื่อลดการก่อมลพิษและการใช้แรงงานที่ไม่เป็นธรรมในกระบวนการผลิต
.
นอกจากการดูแลโลกแล้ว ขณะเดียวกันนั้น พวกเขาก็ยังใส่ใจกับการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจของตัวเองอย่างเต็มที่ คน Gen Z เป็นรุ่นที่พยายามใช้เวลากับงานอดิเรกไปกับกิจกรรมสร้างสรรค์อย่างการปักผ้า การทำภาพคอลลาจ (ศิลปะการตัดแปะ) หรือการวาดภาพ เข้ามาเป็นกิจกรรมที่ช่วยดูแลสุขภาพใจของพวกเขา
แต่ก็ไม่ละเลยการออกกำลังกายเพื่อทำให้สุขภาพของพวกเขานั้นยังดีอยู่เสมอ และแม้ว่าในอนาคตคน Gen Z อาจจะต้องเจอกับปัญหาสุขภาพทั้งกายและใจที่เข้ามาตามวัย แต่คนรุ่นนี้จะเรียนรู้วิธีการรับมือ และวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี
.
เมื่อเรามาเปรียบเทียบอนาคตของคนทั้ง 3 รุ่นกันให้เห็นชัดเจนแบบนี้แล้ว ใครมีความคิดเห็นยังไง หรืออยากร่วมกันคาดการณ์อนาคตไปกันเรา ก็สามารถคอมเมนต์กันมาได้เลย
โฆษณา