💐 ส่องทางสู่ "สวรรค์" ทั้ง 6 ชั้น 💐
คำว่า "สวรรค์" บนพื้นฐานความเชื่อของผู้คนในโลก มีทั้งผู้ที่ไม่เชื่อและผู้ที่เชื่อ ผู้ที่เชื่อว่ามีสวรรค์อยู่จริง ๆ กล่าวกันว่า สวรรค์ หมายถึง ภพอีกภพหนึ่ง ในทรรศนะของศาสนาต่าง ๆ ก็มีความเชื่อเกี่ยวกับสวรรค์เช่นกัน โดยเฉพาะพระพุทธศาสนา ข้อสรุปนิยามคำว่า "สวรรค์" แบบเข้าใจง่าย ๆ จึงเป็นสถานที่ ๆ ตอบแทนคุณงามความดีของมนุษย์ที่ได้ทำไปเมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้🌍
🌺1.🌟การได้เกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์เพราะได้สร้างบุญกุศลไว้เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์🌟
☀️ชีวิตในสังสารวัฏเป็นชีวิตที่ยาวนาน หาเบื้องต้น ท่ามกลางและเบื้องปลายได้ยาก ตราบใดที่เรายังไม่หมดกิเลส ตราบนั้นเราจะต้องเวียนว่ายตายเกิดนับภพนับชาติไม่ถ้วน จะเห็นได้ว่ามนุสสภูมิหรือโลกมนุษย์เท่านั้น ที่สามารถสร้างบุญและบาปได้อย่างเต็มที่ ส่วนอบายภูมินั้น เป็นสถานที่เสวยผลบาปของบุคคลผู้กระทำอกุศลกรรมด้วยกาย วาจา และใจ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ จะต้องถูกทัณฑ์ทรมานอย่างโหดร้ายเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก หมดโอกาสสร้างความดี
เรื่องสวรรค์ทั้ง 6 ชั้นหรือเทวภูมิที่จะเล่าสู่กันฟังต่อไปนี้ จะเป็นสถานที่เสวยผลแห่งบุญของผู้ได้กระทำกุศลกรรมไว้ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ที่ทำให้เปลี่ยนจากมนุษย์ผู้สร้างบุญกุศลไปเป็นผู้เสวยผลแห่งบุญที่ยิ่งใหญ่เกินควรเกินคาดที่เกิดขึ้นจากผลที่เคยสร้างมากับมือตนเอง
☀️เรื่องเทวภูมิ หรือที่เรียกกันว่าสวรรค์นั้น ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า บุคคลบางพวกก็เชื่อว่ามีจริง บางพวกก็เชื่อว่าไม่มีจริง และเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาเพื่อให้คนรักในการทำความดี แม้ในหลายศาสนาก็มีความเชื่อเป็น 2 อย่างในลักษณะเดียวกัน แต่ศาสนาส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าสวรรค์มีจริงที่เรียกว่า แดนสุขาวดี
☀️ส่วนในพระพุทธศาสนานั้นมีหลักฐานยืนยันเรื่องสวรรค์มากมาย จากคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎก ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวไว้ใน มหาสีหนาทสูตรว่า
“ ดูก่อนสารีบุตร เราย่อมกำหนดรู้ใจบุคคลบางคนในโลกนี้ด้วยใจอย่างนี้ว่า บุคคลนี้ปฏิบัติอย่างนั้น ดำเนินอย่างนั้น และขึ้นสู่หนทางนั้น เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ โดยสมัยต่อมา เราย่อมเห็นบุคคลนั้น เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตกเข้าถึงแล้วซึ่งสุคติโลกสวรรค์ เสวยสุขเวทนาโดยส่วนเดียว ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์”
🌺2.☀️ความหมายของเทวภูมิ☀️
เทวภูมิ เป็นปรโลกฝ่ายสุคติ จัดอยู่ในกามภพ คือ ภูมิที่ยังต้องบริโภคกาม ยังยินดีใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์ ผู้ที่ยังยินดีในกามคุณจึงต้องมาเกิดในกามภพ
คำว่า เทวภูมิ มาจากคำว่า เทวะ รวมกับคำว่า ภูมิ เทวะ แปลว่า ผู้ที่เพลิดเพลินยิ่งในกามคุณทั้ง 5 อันเป็นทิพย์ เทวะมี 3 ประเภท คือ:
1. อุปปัตติเทวะ ได้แก่ เทวดาโดยกำเนิด
2. สมมติเทวะ ได้แก่ เทวดาโดยสมมติ เช่น พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระราชโอรส พระราชธิดา เป็นต้น
3. วิสุทธิเทวะ ได้แก่ เทวดาที่บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสทั้งปวง หมายถึง พระอรหันต์โดยเฉพาะเท่านั้น
คำว่า เทวะ ที่แปลว่า ผู้ที่เพลิดเพลินอยู่ในกามคุณทั้ง 5 อันเป็นทิพย์ เป็นคำแปลโดยเฉพาะของอุปปัตติเทวะเท่านั้น จะนำไปใช้กับสมมติเทวะและวิสุทธิเทวะไม่ได้
ส่วนคำว่า ภูมิ แปลว่า พื้นเพ หรือ แผ่นดิน ซึ่งหมายถึง สถานที่อยู่อาศัยนั่นเอง ถ้ารวมความ กับคำว่า เทวะแล้ว เทวภูมิ จะหมายถึง สถานที่อันเป็นที่อยู่ของผู้ที่มีความเพลิดเพลิน ในกามคุณ 5 อันเป็นทิพย์
🌺3.☀️ที่ตั้งของเทวภูมิ☀️
เทวภูมิ หรือ สวรรค์ คือ ภูมิอันเป็นที่อยู่ของเทวดา เป็นโลกที่อยู่อาศัยของสัตว์อันเป็นทิพย์ ที่มีรัศมีสว่างไสวรอบกายตลอดเวลา เหตุที่ทำให้มาเกิดเป็นเทวดาเพราะได้สร้างบุญกุศลไว้เมื่อครั้งยังเป็น มนุษย์ เมื่ออุบัติขึ้นก็ตั้งอยู่ในวัยหนุ่มสาวทันที เรียกว่า ถือกำเนิดแบบโอปปาติกะ ไม่ต้องนอนในครรภ์มารดา หรืออยู่ในฟองไข่ก่อน ส่วนจะอุบัติขึ้น ณ สวรรค์ชั้นไหน เป็นเทวดาประเภทใด และอยู่ในฐานะ อะไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับบุญที่ตัวเองสั่งสมมาเมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ สวรรค์มีด้วยกัน 6 ชั้น ได้แก่
1.จาตุมหาราชิกาเทวภูมิ เป็นสวรรค์ชั้นที่ 1 ตั้งอยู่ ณ เชิงเขาสิเนรุ (หรือที่เรียกกันว่า เขาพระสุเมรุ นั่นเอง)
2.ตาวติงสเทวภูมิ เป็นสวรรค์ชั้นที่ 2 ตั้งอยู่ที่หน้าตัดของเขาสิเนรุ
3.ยามาเทวภูมิ เป็นสวรรค์ชั้นที่ 3 ตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ขึ้นไปในในอากาศ
4.ดุสิตาเทวภูมิ เป็นสวรรค์ชั้นที่ 4 ตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไปในอากาศ
5.นิมมานรตีเทวภูมิ เป็นสวรรค์ชั้นที่ 5 ตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นดุสิตขึ้นไปในอากาศ
6.ปรนิมมิตวสวัตดีเทวภูมิ เป็นสวรรค์ชั้นที่ 6 ตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นนิมมานนรดีขึ้นไปในอากาศ
🌺4.การเทียบเวลาโลกมนุษย์กับเวลาของสวรรค์ทั้ง6 ชั้น และอายุขัยของชาวสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น
ภพภูมิสวรรค์ เป็นสถานที่เสวยผลแห่งการทำความดี ทำบุญกุศลในสมัยช่วงมีชีวิตเป็นมนุษย์มี 6 ชั้น จะมีอายุเป็นปีทิพย์ ของเทพบุตรเทพธิดา หรือเรียกง่าย ๆ ว่า เทวดาและนางฟ้า การเกิดจะเกิดแบบที่เรียกว่า โอปะปาติกะ คือเกิดปุ๊บโตปั๊บ ไม่ต้องมีพ่อแม่ อายุของเหล่าเทวดานางฟ้า จะอยู่ที่ 18 ปีและ 16 ปี และมีอายุเมื่อเทียบกับอายุมนุษย์ดังนี้
☀️อายุของชาวสวรรค์ชั้น 1 จาตุมหาราชิกา เทียบเป็นเวลาในโลกมนุษย์ เท่ากับ 9 ล้านปีมนุษย์ ( 1 วัน 1 คืน เท่ากับเวลาในเมืองมนุษย์ 50 ปี)
☀️อายุของชาวสวรรค์ชั้น 2 ดาวดึงส์ เทียบเป็นเวลาในโลกมนุษย์ เท่ากับ 36 ล้านปีมนุษย์ (1 วัน 1 คืน เท่ากับเวลาในเมืองมนุษย์ 100 ปี)
☀️อายุของชาวสวรรค์ชั้น 3 ยามา เทียบเป็นเวลาในโลกมนุษย์ เท่ากับ 144 ล้านปีมนุษย์ (1 วัน 1 คืน เท่ากับเวลาในเมืองมนุษย์ 200 ปี)
☀️อายุของชาวสวรรค์ชั้น 4 ดุสิต เทียบเป็นเวลาในโลกมนุษย์ เท่ากับ 576 ล้านปีมนุษย์ ( 1 วัน 1 คืน เท่ากับเวลาในเมืองมนุษย์ 400 ปี)
☀️อายุของชาวสวรรค์ชั้น 5 นิมมานรดี เทียบเป็นเวลาในโลกมนุษย์ เท่ากับ 2,304 ล้านปีมนุษย์ (1 วัน 1 คืน เท่ากับเวลาในเมืองมนุษย์ 800 ปี)
☀️อายุของชาวสวรรค์ชั้น 6 ปรนิมมิตสวัตดี เทียบเป็นเวลาในโลกมนุษย์ เท่ากับ 9,216 ล้านปีมนุษย์ (1 วัน 1 คืน เท่ากับเวลาในเมืองมนุษย์ 1,600 ปี)
5.🌺 ใครจะไปอยู่สวรรค์ชั้นไหนขึ้นอยู่กับอะไร?
☀️สวรรค์ 6 ชั้น : ใครจะไปอยู่ชั้นไหนขึ้นอยู่กับอะไร?
ซึ่งเป็นหัวข้อเรื่องที่สำคัญที่สุดในโพสต์นี้ หลวงพ่อธัมมชโยหรือคุณครูไม่ใหญ่ ท่านได้เคยเมตตาบรรยายสรุปไว้เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2545 ว่า
"🏵️สวรรค์ชั้น 1 จาตุมหาราชิกา ผู้ที่ต้องไปอยู่ตรงนั้นเป็นประเภททำบุญไม่ค่อยเป็น บุญก็ไม่ค่อยทำ นาน ๆ ก็จะทำสักที นาน ๆ ทำทีก็ยังทำไม่ค่อยจะเป็น บุญจึงบริสุทธิ์ไม่สมบูรณ์ เช่น ทำบุญแล้วก็จะเอาคุณด้วย แล้วก็ทำบุญน้อย บาปก็มีอยู่ แต่บุญมากกว่า ก่อนตายใจนึกถึงบุญก่อน ก็เลยไปเกิดชั้นนี้
🏵️สวรรค์ชั้น 2 ดาวดึงส์ ทำบุญเพราะเห็นว่าเป็นความดี เป็นสิ่งที่ควรทำ แล้วก็สั่งสมบุญ สั่งสมเทวธรรมเอาไว้ มีหิริ มีโอตัปปะ ก็ไปเกิดในชั้นนี้ ถ้าบำเพ็ญวัตตบท 7 ก็เลยได้เกิดเป็นพระอินทร์ ซึ่งเป็นตำแหน่งของพระอินทร์
🏵️สวรรค์ชั้น 3 ยามา ประเภทนี้ทำบุญเพราะว่า อยากจะรักษาประเพณีแห่งการทำความดีนี้เอาไว้ คล้าย ๆ เห็นบรรพบุรุษวงศ์ตระกูลทำมา ผู้หลักผู้ใหญ่สั่งสอนมา หรือที่เป็นบรรพชิตก็จะรักษาพระพุทธศาสนาเอาไว้ ก็ทำกันไปตามธรรมเนียมกันไปอย่างนั้น มักจะไปเกิดชั้นยามา
🏵️สวรรค์ชั้น 4 ดุสิตบุรี จะเป็นประเภทอยากสงเคราะห์โลก ประเภทที่คิดเล็กไม่เป็น คิดใหญ่ไปเลย คิดการใหญ่แต่ไม่ใช่เพื่อตัวเองอย่างเดียว หวังสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย
🏵️สวรรค์ชั้นที่ 5 นิมมานรดี พวกที่เห็นคนอื่นเขาทำแล้วได้รับการยกย่องส่งเสริม อยากจะได้บุญอย่างนี้บ้าง ทำเพราะอยากจะเป็นแบบที่เขาเป็น อย่างเช่น นางวิสาขา ภพก่อน ๆ โน้น เห็นผู้มีบุญได้รับการแต่งตั้งจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า เป็นผู้เลิศทางด้านอุปัฏฐากฝ่ายอุบาสิกา ทำบุญเสร็จก็จะตั้งความปรารถนาอยากเป็นอย่างนั้น ปัจจุบันมหาอุบาสิกาวิสาขาก็อยู่ชั้นที่ 5 นิมมานรดี
🏵️ส่วนชั้นที่ 6 ปรนิมมิตวสวัตดี เวลาทำบุญแล้วรู้สึกปลื้ม มีความเลื่อมใส เคารพในทาน ปลื้มอกปลื้มใจในการที่ทำบุญ
ถ้าใครทำครบ 6 อย่างนี้ เลือกเอาเลยจะไปอยู่ชั้นไหนก็เลือกเอา
หรือปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงพระธรรมกายแล้วก็สามารถเลือกภพภูมิที่จะไปอยู่ได้"
วัตตบท 7 :
1. เลี้ยงดูบิดามารดา
2. มีความเคารพอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่
3. กล่าววาจาสุภาพอ่อนหวาน
4. ไม่กล่าวคำส่อเสียด
5. มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ปราศจากความตระหนี่
6. พูดคำสัตย์
7. ระงับความโกรธด้วยขันติธรรม
🌺6.☀️สรุป☀️ : มาถึงย่อหน้าสุดท้ายนี้ ในที่สุดแล้ว ท่านผู้อ่านสามารถนำข้อมูลทั้งหมดมาพิจารณาตัดสินใจเชื่อหรือไม่เชื่อด้วยตัวท่านเอง ซึ่งก็จะขอยกคำกล่าวของหลวงพ่อธัมมชโย คุณครูไม่ใหญ่ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ที่ได้เมตตาให้หลักการที่ทำให้เห็นภาพชัดเจนดีเกี่ยวกับการจะพิจารณาเชื่อเรื่องนรก - สวรรค์ว่ามีจริงๆ หรือแค่คำขู่ ในกรณีที่ยังไม่สามารถไปรู้ไปเห็นได้ด้วย "ภาวมยปัญญา" ว่า
💐"เราจะเชื่อตอนเป็น หรือว่าจะไปเห็นตอนตาย
ถ้านรก - สวรรค์ไม่มีก็" เจ๊า" กันไป
.
ถ้าเกิดมีแล้วใครไม่ได้ศึกษา ไม่ได้สั่งสมบุญเอาไว้" เจ๊ง" เลย
.
แต่ถ้าได้ศึกษาเตรียมตัวไว้ก่อน
ด้วยการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ก็" เจ๋ง" เลย"💐
เพราะบทสรุปแห่งชีวิตในวาระสุดท้ายของเราท่านทั้งหลายจะออกมาเป็นเช่นไร จะออกมา "เจ๊า" หรือ "เจ๊ง" หรือ "เจ๋ง" หรือ "Super เจ๋ง" ก็อยู่ที่เราท่านจะออกแบบชีวิตของเราเอง🌷🌷🌷
🔰🙏ที่มา :
1.อุโปสถสูตร
อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
2.มหาสีหนาทสูตร
มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
3.วิตถตสูตร
อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต
4.ทานสูตร
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
5.บทบรรยายธรรมและภาพประกอบจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา🙏
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
