8 ก.พ. 2022 เวลา 07:42 • ปรัชญา
จิตเดิมแท้คือจิตประภัสสร คือว่างๆ บริสุทธิ์ ไม่มีตัว ไม่มีตน ไม่รู้ว่าเป็นใคร จึงไม่ยึดว่าใคร เรา เขา แต่มนุษย์มีวิบาก คือกรรม เป็นปัจจัย จึงมี จุติจิต คือจิตดวงสุดท้ายของชาตินี้ ที่ทำกิจ ตามเหตุปัจจัย ตามกรรม ให้เคลื่อนที่ไปจากความเป็นบุคคลนี้ และเมื่อดับแล้ว จิตที่เกิดต่อก็ทำปฏิสนธิต่ออีก ปฏิสนธิจิต จึงเป็นจิตดวงแรกของชาตินี้ เกิดต่อจากจุติจิตของชาติก่อน ไม่มีอะไรมาคั่น เป็นขณะเดียว เราจับต้องมันไม่ได้ เราไม่สามารถรู้เท่าทันมัน
ความคิด คือการปรุงแต่งจิต ตามวิบากกรรม ที่เป็นเหตุเป็นปัจจัย เมื่อมีตา มีวัตถุกระทบตา จึงมีเห็น และวิญญาณทางตาปรุงแต่งจิต ตัวอย่างเช่น วิบากกรรม สร้างเหตุปัจจัย ทำให้คุณต้องได้พบเจอผู้หญิงคนหนึ่ง แม้คนอื่นจะบอกว่าก็งั้นๆ แต่จิตคุณจะถูกปรุงแต่งว่า เฮ้ย! แต่เราชอบผู้หญิงคนนี้ เพราะเธอสวยในความคิดของคุณ สมองคุณจะเริ่มวุ่นวาย ด้วยความตื่นเต้น มีความสุขทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้เธอ เริ่มปรุงไปเรื่อยๆ ต้องวางแผนจีบ ต่องซื้อข้าวของปรนเปรอเธอ อะไรอย่างนี้เป็นต้น
1
ลองนั่งหลับตา ทำสมาธิ คุณจะพบว่า คุณหยุดคิดไม่ได้ ห้ามไม่ให้หยุดคิดได้เลย แต่นั่นคือธรรมะค่ะ คือสิ่งที่มีจริง มันเกิดขึ้นจริง แต่ท้ายที่สุดมันจะดับเอง มันคิดอยู่อย่างนั้นไม่ได้ตลอดไปหรอกค่ะ มันจะมีเหตุปัจจัยให้คุณหยุดคิด และก็เจ้าเหตุปัจจัยอีกเช่นกัน ที่จะทำให้คุณมีเรื่องใหม่มาคิดต่อได้อีก ตราบใดที่คุณยังเป็นคุณในชาตีนี้
โฆษณา