18 ก.พ. 2022 เวลา 12:33 • ไลฟ์สไตล์
เมื่อเอ็นจิเนียร์ผันตัวมาเป็นล่าม (ยาวนะคะ😄)
ชีวิตล่าม(สาว)โรงงาน ตอนที่12
Credit:internet
เรื่องที่จะเล่าวันนี้ก็เป็นเรื่องของเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว
เราจะเรียกแกว่า บอมบี้แล้วกันบอมบี้แปลว่า ดูจนๆ ปอนๆ ...ชื่อนี้เป็นชื่อที่นายญี่ปุ่นของดิฉันตั้งให้แก
เป็นชื่อที่มาจากรายการญี่ปุ่นรายการหนึ่ง ที่จะไปถ่าย ชีวิต คนญี่ปุ่น ที่มีรายได้ต่ำว่ามีชีวิตความเป็นอยู่ยังไง
แต่อย่าพึ่งคิดนะค่ะว่าเป็นรายการ ชีวิตรันทด เหมือนรายการ วงเวียนชีวิต บ้านเรา หรือชีวิตต้องสู้ดูไปร้องให้ไป
พวกนี้มีรายได้ต่ำก็จริงแต่ ชีวิตมีความสุขดี บางคนก็มาอยู่เมืองไทย มีรายได้ต่ำก็จริงเมื่อเที่ยบกับคนญี่ปุ่น
แต่ก็มีชีวิต ที่ดีมาก เมื่อมาอยู่เหมืองไทย ..
กลับมาที่น้องบอมบี้เราต่อ น้องบอมบี้เราก็ไม่ได้จนนะ เงินเดือนสูงทีเดียวเป็นเอ็นจิเนียร์ ที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้
แต่ด้วยภาระ ครอบครัวแก ไหนจะบ้านไหนจะรถ ไหนจะบ้านตัวเองไหนจะบ้านพ่อบ้านแม่ ไหนจะผ่อนรถ ตัวเอง ไหนจะผ่อนรถพ่อแม่ ......
ชีวิตแบบนี้คุ้นๆไหมค่ะ😂
แกก็เลยต้องประหยัดแต่แกก็ไม่ขี้เหนียวนะ
แกเป็นประเภท ป๋าสายเป ประมาณว่าขี้เหนียวกับตัวเองแต่ก็กับคนอื่นเท่าไรเท่ากัน
ชื่อที่แกได้มาก็มาจากการแต่งตัวของแกนี้แหละ...แกจะแต่งตัวแนวมาก
ประเภทมีเสื้อตัวนอกแล้ว ต้องมีตัวใน ต้องใส่หมวก ต้องใส่แว่นตา แล้วก็ต้องมีผ้าพันคอ แต่ผ้าพันคอแกมันก็จะเป็นลายสก๊อต หมวกแกที่ใส่ก็จะเป็นหมวกสีเขียว มีดาวสีแดง คอมมิวนิสต์ เวียดนาม โอ้วว...มายก๊อต...แนวมากกกก..แนวไหนไม่รู้😂
แล้วที่หนักไปอีกคือถือกระเป๋าที่เป็นของแถม มาจากการซื้อรถไถคุโบต้า
มีคำว่าคุโบต้าตัวเท่าหม้อแกงแต่แกก็ถืออย่างภูมิใจ ยังกับมันติดตรายี่ห้อชาแนลก็ไม่ปาน
การแต่งตัวแกนี้จะเด่นมากแต่แกก็บอกว่าแกไม่แคร์ .... อันนี้แหละเป็นที่มาของชื่อแกที่นายญี่ปุ่นตั้งให้
แก จบ ปวส.แล้วไปเรียนต่อจนจบเป็นเอ็นจิเนียร์ แกก็เลยมีบุคลิค ห้าวหาญ เหมือน ชายอกสามศอก
เป็นคนที่ไม่ถือโทษโกรธ ใคร อารมย์ดีตลอด ถ้าไม่เมานะ ..แต่ถ้าเมาก็ท้าตีท้าต่อยเหมือนกัน
เวลาเธอกินเหล้า ท่าทางเธอจะเหมือน ตาลุงขี้เมาดีๆ คนนึงเลย
ยิ่งเวลาจับไมค์ด้วยแล้ว จะเหมือนมาก มือนึงถือไมค์ ไฟส่องหน้า
1
มือนึงถือแก้วเหล้า ตาเยิ้มๆ นึกว่าแกเป็นชายหนุ่มที่กำลังร้องเพลงจีบสาว...เวลาแกพูด แกจะพูดลงท้ายด้วยคับทุกคำ
ทุกคนจะถามดิฉันตลอดว่า“แกมีแฟนไหม”“แกมีแฟนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”
ตอนแรกดิฉันก็คิดเหมือนกับทุกคนแหละแกต้องเป็นทอมแน่ๆ
แต่ถ้าอยู่กับแกจริงๆ จะรู้ว่าแกโครตผู้หญิงอ่ะ. อยากมีแฟนเหงา อยากมีลูก มันเป็นอะไรที่ขัดกับบุคลิกแกสุดๆละ
ดิฉันเคยถามแกว่าตอนแกเรียนช่าง แกเคย ยก พวกตีกันเหมือนในข่าว ไหม?
แกบอกว่าเคย ตีกันจนจมูกแกหัก...ดิฉันเลยบอกแกว่า ต่อไปนี้ถ้าดิฉันมีเรื่องกับใคร จะเรียกแกมาเคลียร์ให้..แกบอกว่า
1
“ ผมจะไหวหรอคับเจ้ ...ผมแก่แล้วผมก็ไม่มีแรงละคับ สงสารผมเถอะ”
แล้วล่าสุดที่ไปเจอกับแกมาหลังจากแกไปอยู่ญี่ปุ่นนาน หลายปี ดิฉันก็ถามแกว่า
แกมีแฟนหรือยัง..แกบอกว่า “ เพื่อนยังไม่มีเลย จะมีแฟนได้ไงคับเจ้” แล้วก็ลงท้ายว่า
อยากแต่งงาน อยากมีลูก
ดิฉันก็เคยแนะนำแกว่าก็เพล่าๆ การกินเหล้าลงบ้างก็ได้ ผู้ชายเขาเห็นเธอกินเหล้า
เมาขนาดนั้นเขาก็กลัวสิ เธอก็จะพูดว่า
“ก็ผมก็เป็นของผมอย่างนี้ มาตั้งนานแล้วคับ คนที่คบกับผมต้องรับผมได้สิคับ....”
ดิฉัน “อันนั้นมันทฤษฏี ความเป็นจริงมันไม่ใช่”
คุณเธอ : เจ้ อย่าว่าผมสิคับ ใช่สิ ผมมันไม่ดี ชริ..
พูดเสร็จ เธอก็ หัวเราะสนุกสานซึ่งเสียง หัวเราะ เธอก็ดัง มาก จนโต๊ะข้างๆ ต้องหันมามองจนดิฉันต้องห้ามอยู่บ่อยๆ
ดิฉัน : เบาๆ คนมองหมดแล้ว
คุณเธอ : อ้าวหรอคับ ขอโทษคับเจ้ ...ฮิฮิฮิ
แกเป็นอ็นจิเนียร์ที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้ ซึ่งภาษาญี่ปุ่นแกแกก็เรียนเอง แกบอกว่า
ล่ามไม่มีเวลาแปลเอกสารให้แก แกเลยต้องเปิดดิกแปลเอง แกอาศัย ครูพักลักจำ
หลังเลิกงานพอล่ามทั้งหลายกลับบ้านหมดแล้ว แกก็อยู่ทำงานต่อ เพื่อ จะได้ฝึกเป็นล่าม
แปลให้กับ นายญี่ปุ่นพอทำได้ซักพัก แกก็เลย อยากจะลองทำงานเป็นล่ามก็ลาออกมาทำงานล่ามที่บริษัทของดิฉัน แล้วก็มาเจอดิฉัน
แกทำได้ปีเดียวก็ลาออกแกบอกแกรู้แล้วว่า ล่ามไม่เหมาะกับแก ด้วยแกเป็นเอ็นจิเนียร์ที่เก่งเวลาแกแปลให้เอ็นจิเนียร์
เด็กน้อยทั้งหลาย พวกนี้ก็ไม่ค่อยรู้งาน แกก็จะ ทนไม่ได้แกก็อยากจะสอน อยากจะทำเอง
แต่ในฐานะที่เป็นล่ามแกก็ทำไม่ได้ แกเลยตัดสินใจลาออก แกบอกทำเองเร็วกว่า......
หลังจากนั้นแกก็ไปหางานที่ญี่ปุ่นแกบอกเงินเดือนเมืองไทยไม่พอกิน...
แกจะกลับมาเมืองไทยก็ต่อเมื่อทางบริษัท ส่งมาช่วยดูงานกับช่วยประสานเวลาโรงงานที่ไทยมีปัญหา
ดิฉันจะได้เจอแกบางครั้ง หรือ ดิฉันไปอยู่ญี่ปุ่น แกก็จะมากินข้าวด้วย
แล้วก็จมาเล่าชีวิตรันทด ความลำบาก ในการทำงานที่ญี่ปุ่น ให้ฟังแต่จะบอกว่าว่าเวลาแกเล่า มันไม่เศร้าเลย นั่งหัวเราะตลอด
แกมักจะบอกว่า
คุณเธอ: เจ้คับผมเล่าเรื่อง เศร้านะคับ ไม่ได้เล่าเรื่องตลก ...เจ้ใจร้าย ฮือฮือ....แล้วก็ทำท่าร้องไห้แล้ว กลับมาหัวเราะ ....
1
ดูเหมือนคนบ้านะ แต่ไม่ใช่
ดิฉัน: ขอโทษๆ นึกว่าดูรายการตลกอยู่ 😂 ดิฉันพูดไป ปาดน้ำตาไป
ดิฉัน : “ถ้ามันลำบากนักก็กลับบ้านเรา “ ดิฉันพูดปลอบใจ
พอดิฉันพูดจบแกก็ลุกพรวดขึ้น พร้อมทั้งทำท่าถือไมล์ แล้วเริ่มร้องเพลง...
คุณเธอ : “ ไม่เด่น ไม่ดังจะ ไม่หันหลังกลับไป ทุกคืนนอนร้องไห้.....”
1
ดิฉัน : พอแล้วๆ อายเค้า...นั่งลง พร้อมทั้งกวักมือให้แกนั้งลง
คุณเธอ : “ขอโทษคับเจ้ ...ผมลืมตัวนึกว่าอยู่บ้าน 😂
ดิฉันละขำกับท่าทางแกมาก...แต่ดิฉันก็แอบอิจฉาชิวิตเธออยู่เหมือนกัน
อยากจะทำอะไรก็ตัดสินใจทำเลยอยากจะลองเป็นล่าม ก็ลองเป็น ..อยากจะลองไปทำงานต่างประเทศก็ไปทำ ...
ดิฉันก็อยากลองใช้ชีวิตแบบอื่นดูบ้าง แต่เธอก็เคยชวนดิฉันไปเหมือนกันแต่ดิฉันก็มี ข้อแก้ตัวนั้นโน้นนี่ ตลอด...
ใจก็อยากลองแหละค่ะ แต่ก็กลัวโน้นนี่ ต่างๆนาๆ...
สักวันดิฉันก็หวังว่า ตัวเองจะกล้าหาญที่จะลองใช้ชีวิตแบบอื่นดูบ้าง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา