9 ก.พ. 2022 เวลา 14:07 • สุขภาพ
ปั่น ปั่น แล้วได้........
ด้วยความที่ว่า หลังเกษียณออกมาแล้วมีเวลาว่างมากขึ้น ลูก ๆ ก็ไม่ให้ทำอะไร(คอยเลี้ยงหลาน) ก็เลยว่างจนไม่รู้จะทำอะไร...หันมามองตัวเองว่าทำไงดีในเรื่องของสุขภาพ จะออกวิ่งก็ไม่ไหวมีอาการเจ็บหัวเข่า เดิน ๆ ก็เหงา ๆ (อยู่ชนบทครับ ก็บ้านนอกนั่นแหละ) เลยต้องมองไปที่การปั่นจักรยาน เออ...แล้วการปั่นจักรยานมันเริ่มต้นอย่างไร ก็ค่อย ๆ เรียบเคียงถามเด็กข้างบ้านที่มันปั่นอยู่ "อ้อ..ลุงอยากปั่นหรือครับ มาปั่นกับผมดิ.." "จักรยานละไอ้หนู..อย่างของเองลุงปั่นได้ไหม".. "ลุงสูงเท่าไหร่ละ" เด็กย้อนถาม "ก็..น่าจะ161 นะ ยังไงละ(เออ..ความสูงมันเกี่ยวกับการปั่นจักรยานด้วยนิ)" "สูงขนาดนี้ปั่นของผมไม่ได้หรอก..ของลุงต้องไซค์เล็ก..(มันรู้ได้ไง..ว่าของเราเล็ก ปั๊ดท่อ) นั่นคือที่มาของการออกไปปั่นจักรยานของผมละ
การปั่นจักรยานนั้นพอไปศึกษาจริงๆ แล้วใช่ว่าจะยุ่งยากอะไร ผู้หญิงก็ปั่นได้ ผู้ชายก็ปั่นดี ขอเพียงแต่ว่าเราต้องการอะไรเป็นสิ่งตอบแทนจากการปั่น ปั่นไปตลาด ปั่นไปธุระบ้านเหนือบ้านใต้ ปั่นไปหาเรื่อง..เอ๊ย..ปั่นไปหาพระที่วัด (วัยนี้วัดย่อมเป็นที่ตั้ง) ก็ใช้จักรยานอะไรก็ได้ แต่ถ้าเราจะปั่นเพื่อออกกำลังกาย เพื่อการท่องเที่ยว หรือเข้าแข่งขัน โอ๊ย...มีจักรยานให้เลือกประเภทจนหูตาที่มันยานอยู่แล้วก็ยิ่งยานเข้าไปอีก เท่า ๆ ที่ไปหาความรู้มานิด ๆ หน่อย ๆ (ความรู้จากพี่กูนั่นแหละ...กูเกิลไง...อ้อพี่พันทิปด้วยนะครับ) ก็ได้จักรยานประเภทใหญ่ ๆ มาดังนี้ เสือภูเขา นี่เลยขาลุย เสือหมอบจ้าวความเร็ว(เขาว่ามา โปรดใช้วิจารณญาณในการในการเสพข้อมูล) ไฮบริด คล่องตัว ออกแนวปั่นสบาย ๆ (เขาว่ามาอีกแหละ)
ทีนี้ก็ทำตามจุดประสงค์ของตัวเองละครับว่าจะปั่นอย่างไร บางคนก็ฝึกซ้อมเพื่อเข้าแข่งขัน บางคนก็เอาไปทำเป็นรถทัวร์ริ่งเพื่อขี่ท่องเที่ยวทั่วไทย (มีรถประเภททัวร์ริ่งโดยตรงก็มีนะครับ) ส่วนตัวผมก็จับเสือมาแต่งทัวร์ริ่งเบา ๆ แต่ไม่เคยไปทัวร์ที่ไหนละครับ ปั่น ๆ พอหอมปากหอมคอ สักวันละ 10-30 กิโล เผื่ออะไรที่มันยาน ๆ ก็จะได้ตึง ตามเขาว่ามา(วัยนี้อีกแหละ อะไรที่เราต้องการให้มันตึงมันกลับหย่อนและยาน ยานเอาๆ ส่วนที่มันยานมันกลับตึง อย่าคิดมากครับหูน่ะถูกคุณเมียดึงเสียยานมันกลับตึงเลยฟังไม่ชัด)
เออ...ปั่นมาเป็น ปี 2 ปี บางท่านอาจจะถามว่าแล้วมันตึงขึ้นหรือยานละ อันนี้บอกไม่ได้ต้องให้ท่านมาพิสูจน์กันเอาเองแต่สำหรับผมนะตึงขึ้นแฮะ...หูนะ อย่าคิดมากดิ แต่...บอกได้เลยครับการปั่นจักรยานนั้นได้อะไรมากกว่าที่ท่านคิด ได้ในเรื่องสุขภาพนี้แน่นอนเลย ไม่เป็นหวัดคัดจมูกน้ำมูกไหล นอนหลับสบาย ร่างกายแข็งแรง เผาผลาญไขมัน หุ่นสวยไม่มีพุงและ ฯลฯ(มีทั้งแข็งและแรงไม่เชื่ออย่าลบหลู่)สภาวะแวดล้อมอากาศเสียก็ลดลงเพราะจักรยานไม่มีควัน ถ้าในเมืองมีการปั่นจักรยานไปทำงานกันเยอะ ๆ ก็แก้ปัญหารถติดได้ระดับหนึ่ง
ถ้าปั่นคนเดียวมันเหงาก็ไปสมัครเข้าชมรมจักรยานสักชมรมสองชมก็ได้จะได้มีเพื่อน การปั่นจักรยานเราจะได้เพื่อนไว้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งด้านสังคม วัฒนธรรม และการประกอบอาชีพชีวิตความเป็นอยู่ หรืออาจมีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามสมควร
แต่..การปั่นจักรยานใช่ว่าจะมีแต่คุณประโยชน์ โทษ ก็มีนะครับ ข้อที่ หนึ่งเลยก็คือการปั่นจักรยานที่ไม่ได้ขนาดหรือใกล้เคียงขนาดร่างกายของเราหรือมีการปรับรถจักรยานให้เข้ากับร่างกายของเราแทนที่จะได้สุขภาพที่ดีกลับมาได้โรคปวดคอ ปวดหัวไหล่ปวดตามแขนขาหรือเมื่อยไปทั้งตัว หรือหนักๆ เลย ก็จะทำให้ไม่อยากปั่นเอาได้ครับ
ดังนั้น ถ้าท่านคิดว่าจะปั่นก็ขอให้ศึกษานิดหนึ่ง ส่วนข้อที่สองนี่ควรระวังอย่างยิ่งเลยสำหรับวัยที่อะไรยาน ๆ อุบัติเหตุครับ ถ้าปั่นบนถนนที่มีรถร่วมทางด้วยควรมีสติเป็นอย่างยิ่งหรือใครจะปั่นแบบสวดมนต์ไปด้วยก็ได้ ("สวดเบา ๆ ละ ถ้าดังเดี๋ยวคนเขาจะหาว่าบ้าเข้าไปอีก") อย่าได้ปั่นชนิดจับกลุ่มคุยกันเพลิน ๆ ต้องมีสติอยู่เสมอว่าทำอย่างไรจะปลอดภัยจากการปั่นจักรยานมากที่สุด อย่าได้ปั่นขวางรถคันอื่น เคยเป็นข่าวก็เยอะครับโดนรถสอยร่วงกันเป็นแถวเสียดายรถครับ เอ๊ย...อันตรายครับ อีกอย่างสำคัญเลยจักรยานของท่านควรจะติดไฟสัญญาณวิบ ๆ วับ ๆ บ้าง หรือแผ่นสะท้อนแสง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุอีกทางหนึ่งด้วย ขี่กันเป็นแถวอยู่ในไหล่ทาง ถ้าจะคุยกันก็จอด ๆ แล้วคุยก็ได้
โปรดอย่าลืมใส่ชุดปั่นจักรยานที่เหมาะสมกับตนเองเพราะชุดปั่นจักรยานเขาตัดเย็บมาเพื่อกิจกรรมการปั่นโดยเฉพาะซึ่งให้ความปลอดภัยในการปั่น และมีความสุขในการปั่น อีกอย่างอย่าลืมใส่หมวกกันน็อคด้วยนะครับ แล้วจะหาว่าไม่เตือน การนั่งอยู่บนอานจักรยานที่นุ่มแต่แข็ง(เอ๊ะ..มันยังไง)เป็นเวลานาน 1-2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นมันอาจจะทำให้ท่านทั้งเจ็บไข่และก้นพานจะทำให้ไอ้ที่ยานอยู่แล้วแทนที่จะตึงขึ้นกลับยิ่งยานลงไปอีกเฮ้อ....ขอบอก เดี๋ยวหาว่าหล่อไม่เตือน.
ปั่น ปั่น แล้วได้อะไร
ปั่นเพื่อสุขภาพ
โฆษณา