10 ก.พ. 2022 เวลา 03:06 • สุขภาพ
เคยได้ยินมั้ย???
“ลมปราณ” 💨
ถ้าใครเคยดูหนังจีนแนวกำลังภายใน
คงเคยเห็นฉากพระเอกบาดเจ็บ และมีอาจารย์มารักษา อาจารย์จะทาบฝ่ามือ
ทั้งสองไปที่หลังของพระเอก หลับตา
หายใจเข้าออกช้าๆ และใช้กำลังภายใน
แผ่ลมปราณผ่านฝ่ามือไปยังร่างกายของพระเอก เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บให้ดีขึ้น
ซึ่งเนื้อหาของหนังจีน นำมาจากศาสตร์
การรักษาของแพทย์แผนจีน โดยคนที่จะทำได้ต้องฝึกการเดินลมปราณขั้นสูงสุด (ฝึกการหายใจ)จึงจะสามารถทำการเดินลมปราณส่งผ่านไปยังบุคคลอื่นได้
จากเรื่องดังกล่าว ทำให้คิดได้ว่า การหายใจเดินปราณ มีความสำคัญกับ
การใช้ชีวิตเป็นอย่างยิ่ง
การหายใจที่เราทำกันอยู่ทุกวันนี้ คือ หายใจสั้น เอาลมเข้าไปไม่ถึงช่องท้อง
ที่เรียกว่า หายใจไม่ทั่วท้อง😩
ก็คือ การหายใจที่เอาแต่ลมเข้าปอด
แล้วหายใจออกทันที!!
เหมือนกับกราฟขึ้นลง แบบถี่ๆ
ซึ่งการหายใจ ที่ไม่ถูกวิธีนั้น!!
ลมหายใจ จะส่งไปได้แค่ปอด 🫁
ลมยังเข้าไปไม่ถึงช่องท้อง ก็จะไม่สามารถส่งพลังลม (พลังชีวิต หรือ ชี่ ) 🌬
ให้ไปถึงน้ำ ที่เป็นตัวกักเก็บพลังงานได้
น้ำในร่างกาย ก็คือกระแสเลือด 🩸นั่นเอง
ถ้าพลังลม (พลังชี่) ดันลมให้ไปถึง
กระแสเลือดได้ ก็จะทำให้เลือดสูบฉีดได้ดีและนำไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกายให้หมุนเวียนได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน (Endorphin) หรือฮอร์โมนแห่งความสุข ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ
หากเรามีความเครียดมาก ร่างกายจะ
หลั่งฮอร์โมน Cortisol (คอร์ติซอล)
เป็นฮอร์โมนความเครียด ซึ่งเป็นพิษกับร่างกาย จะส่งผลให้เป็นโรคความดัน,
โรคหัวใจ , ไมเกรน โรคเครียด ได้ง่าย
การหายใจเป็นตัวกำหนดอายุขัย
หากเราทำอะไรเร่งรีบ หายใจสั้นบ่อยๆ อัตราการเต้นของหัวใจก็จะเต้นถี่
กายภาพก็จะสิ้นอายุขัยเร็วขึ้น 😵
ดังนั้น เราจึงควรฝึกหายใจแบบเดินปราณ เพื่อเปลี่ยนการเต้นหัวใจให้ช้าลง การหายใจด้วยปราณ เป็นการหายใจที่ช่วย
ยืดอายุขัย ชะลอวัย และเพิ่มพลังชีวิต 💫อย่าแค่หายใจเอาอากาศเข้าไป แต่ต้องหายใจเอาพลังชีวิตเข้าไปด้วย ⚡️
💁🏻‍♀️มาฝึกการหายใจด้วยปราณกันค่ะ
Cr.ธัญ ใจภักดีมั่น
1. เริ่มจากฐานกาย คือ การดูลมหายใจ
(อานาปานสติ) ให้รู้ตัวว่ากำลัง
หายใจเข้า - ออก 🧘
2. ก่อนเริ่มเดินปราณ ให้หายใจเข้าออก 2-3 ครั้งแรก ในแบบที่เราเคยหายใจ หายใจออกทางปากเหมือนพูด เฮ่อ ช้าๆเพื่อเตรียมร่างกายให้ผ่อนคลาย 😮‍💨
3. เริ่มหายใจแบบเดินปราณ ปิดปาก พร้อมหายใจเข้าทางจมูก อย่างช้าๆ เบาๆ ลึกๆ นับในใจ 1 ถึง 4 (4 วินาที)
ไม่เบ่งท้อง ค่อยๆ ผ่อนคลายอก ไหล่
ให้หายใจเข้าทางจมูก เพราะร่างกายได้สร้างให้จมูก สามารถดักจับฝุ่น กรอง
สิ่งปนเปื้อนในอากาศ ปรับอุณหภูมิและความชุ่มชื้น ให้พอเหมาะกับร่างกาย
ก่อนที่จะส่งผ่านอากาศดีเข้าสู่ร่างกาย
ถ้าเราหายใจเข้าทางปาก การส่งผ่านอากาศเข้าทางปาก ร่างกายไม่มีระบบ
ข้างต้นเหมือนการหายใจเข้าทางจมูก
4. กลั้นลมหายใจ แล้วนับในใจ 1 ถึง 4
(4 วินาที)
5. หายใจออกทางปากเหมือนพูด เฮ่อ ช้าๆ โดยหายใจออกให้หมด นับในใจ 1-8 ( 8 วินาที)
6. ทำซ้ำแบบเดิม หายใจเข้า-กลั้น-ออก
อีกครั้ง 3 ครั้ง รวมกับที่ทำครั้งแรก รวมทั้งหมดเป็น 4 ครั้ง (1 เซต)
7. แรกๆ ควรฝึกตอนเช้า 1 เซต
และก่อนนอน 1 เซต
🎁ประโยชน์ที่ได้จากการเดินปราณ
1. ทำให้ออกซิเจนเข้าไปช่วยให้ระบบประสาททำงานแบบอัตโนมัติ ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย
2. ช่วยให้การเชื่อมโยงระหว่างลมหายใจและร่างกายกลับมาอีกครั้ง
3. ช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลายลดภาวะการตึงเครียด ส่งผลให้หน้าผ่องใส สมองไว อายุยืน🥰
1
😎เคล็ดไม่ลับ การเดินปราณ
1. การหายใจแบบ 4 - 4 - 8 เป็นการฝึกเบื้องต้น หากหายใจจนชำนาญแล้ว อาจปรับเปลี่ยนเป็นแบบ 4-8-8 ตามความถนัดของแต่ละคน
2. สภาพแวดล้อมมีส่วนสำคัญในการเพิ่มพลังชีวิต จะทำให้จิตใจรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย พลังชีวิตก็จะเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า
3. ควรเลือกสถานที่ ที่มีอากาศถ่ายเท มีลมพัดผ่าน เพราะพลังชีวิต หรือ พลังชี่ จะพัดพามากับลม หากอากาศบริสุทธิ์จะทำให้เราสามารถสูดลมหายใจได้เต็มปอด เพื่อรับพลังชีวิตในด้านบวกได้เต็มที่
4. พลังที่สำคัญของจิตใจ คือ อารมณ์และความรู้สึก เมื่ออารมณ์ของเราเหวี่ยง จิตตก ขาดสติ ให้เราหายใจเดินปราณช้าๆ พยายามควบคุมอารมณ์และความรู้สึก อารมณ์จะค่อยๆดีขึ้นและมีสติตามมา
💢ได้ฝึกการเดินปราณ เพื่อให้สุขภาพดีกันไปแล้ว อย่าลืม!! ดูแลด้านอาหารการกินเพิ่มไปด้วย
“การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ”
คำนี้ ไม่เคยตกเทรนด์ ใครๆ ก็ใฝ่หาการ
มีสุขภาพดี เพราะ “ป้องกันดีกว่ารักษา”
1
#ฝึกหายใจเดินปราณ
โฆษณา