[บ่นเป็นเรื่องเป็นราว] ไหนๆ ก็วันวาเลนไทน์แล้ว ประวัติวันวาเลนไทน์ผมจะไม่เล่าแล้วกัน เพราะไม่ได้สนใจ มันเป็นวันที่ผมรู้สึกเฉยๆ ไม่ตื่นเต้นกับมันมาตั้งแต่ยังเล็ก จนทุกวันนี้ทำงานไปแล้ว ก็ยังคงเฉยๆกับมัน ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอ

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

14 ก.พ. 2022 เวลา 02:09 • ความคิดเห็น

ไหนๆ ก็วันวาเลนไทน์แล้ว ประวัติวันวาเลนไทน์ผมจะไม่เล่าแล้วกัน เพราะไม่ได้สนใจ

มันเป็นวันที่ผมรู้สึกเฉยๆ ไม่ตื่นเต้นกับมันมาตั้งแต่ยังเล็ก จนทุกวันนี้ทำงานไปแล้ว ก็ยังคงเฉยๆกับมัน ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร

ซึ่งวันวาเลนไทน์ คนฮิตอะไรกันครับ แน่นอน ไปไหว้พระตรีมูรติ หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ขอพร ให้ได้คู่ครองดีๆ

เทวรูปที่(เคย)เชื่อกันว่าเป็นพระตรีมูรติ ภาพจาก เว็บไซต์ ข่าวสด

การจะหาผัวหาเมียสักคน ในสังคมปัจจุบันที่แสนจะอัปรีย์นี้แม่งโคตรยาก

มีสิ่งหนึ่งที่คนไทยเราชอบมากๆ มากถึงมากที่สุด เพื่อช่วยในการค้นหาคนรักอย่างหนึ่งก็คือการ ขอพร

ใช่ครับ ขอ ขอพร น่ะแหละ

แล้วก็มีมากมายไปทั่วประเทศ สำหรับผมแล้ว การขอพร คือการสร้างขวัญกำลังใจในรูปแบบหนึ่งเท่านั้น จะได้หรือไม่อยู่ที่บุญกรรมและความพยายามของเรา

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนก็ยังเชื่อว่าขอเทพแล้วจะได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ทั้งๆที่อธิษฐานเรื่อยไป ก็ไม่อาจรู้ว่าผู้ใดรับฟัง

ทีนี้มาเข้าเรื่องกันดีกว่า เรื่องที่ฮิตๆกันอยู่ตอนนี้แหละ

"พระตรีมูรติ"

ต้องบอกก่อนนะว่าผมไม่ได้มีเจตนาจะเขียนให้ร้ายใคร เพียงแต่อยากจะให้ข้อมูลที่ถูกต้องจริงๆ

ครับ แต่แรกคิดว่าจะไม่เขียนละ เพราะเพจดังหลายเพจ เริ่มรับรู้ว่า เทวรูปองค์นี้ แท้จริงแล้ว มิใช่พระตรีมูรติ แต่เป็นพระศิวะ ปางปัญจมุกขี หรือ พระสทาศิวะ/สดาศิวะ ร่างอัลติเมต ของเสด็จพ่อบิ๊กบอส "พระศิวะ" ไปตั้งแต่ปีที่แล้วละ

แต่เผอิญจริงๆ ผมไถเฟซเล่น ดันไปเจอโพสต์ถึงพระสทาศิวะว่าเป็นพระตรีมูรติอยู่ แถมยังมีคนอวย คนเข้าใจผิดเยอะมาก ไม่รู้ว่าเพราะโซเชียลมีเดียมันกว้างยิ่งกว่ามหานทีสีทันดรหรือยังไง เพราะขนาดปีที่แล้ว ลงข่าวกันอึกทึกครึกโครม แต่ก็ยังมีคนไม่รู้อยู่ ซึ่ง เราก็ไม่โทษเขาเพราะเขาไม่รู้

ผมเองกับกลุ่มคนสายมู(แบบวิถีฮินดูจริงๆ)มีอุดมการณ์ร่วมกันอย่างหนึ่งคือ ตราบใดที่สังคมไทยเรายังคงมีคนเข้าใจผิดในเทวรูปนี้ เราก็จะยังคงพูดเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดลม

ก่อนอื่นผมจะขออธิบายถึงคำว่าพระตรีมูรติก่อน

พระตรีมูรติมี2กรณีนะครับ

พระทัตตเตรยะ (พระตรีมูรติ)

1.พระตรีมูรติ เป็นการเรียกการรวมกันของ สามมหาเทพ พระศิวะ พระวิษณุ พระพรหม

2.เป็นอีกพระนามของ พระทัตตะเตรยะ ที่เป็นอวตารของสามมหาเทพ สอดคล้องกับกรณีแรก บางตำราว่าเป็นอวตารของพระวิษณุ มีรูปร่างเป็นพระฤาษีสามเศียร

คำว่า ทัตตา ทัตตะ แปลว่าการรวมกันของสามมหาเทพ เตรยะ คืออีกชื่อของ พระฤาษี อัตตริ บิดาของพระทัตตเตรยะ พระจันทร์ และฤๅษีทุรวาส

ซึ่งคนไทยมักจะเรียกพระทัตตเตรยะว่า พระตรีมูรติอยู่แล้ว หรือครูสอนศิลปะ นาฏศิลป์ผม สมัยประถม แกก็กล่าวถึงพระตรีมูรติตามข้อ1เป๊ะๆ

ซึ่งจากรูปวาดแล้ว ก็ไม่ได้มีความเหมือนเทวรูปหน้าห้างเลย

เพื่อยืนยันว่า เทวรูปนี้คือพระสทาศิวะจริงๆ จะขอยก ความตอนหนึ่งในคอลัมน์หนึ่งของมติชน สุดสัปดาห์ ของ อ.คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง(หรือที่เรารู้จักกันในบทบาทเชฟหมี ครัวกากๆ แท้จริงแล้วแกเป็นระดับอาจารย์เลยนะครับ)มาให้อ่านกันครับ

ที่มา มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21 - 27 กุมภาพันธ์ 2563

คอลัมน์ ผี-พราหมณ์-พุทธ

ผู้เขียน คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง

เผยแพร่ วันพฤหัสที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563

โดยประติมานวิทยา (วิชาว่าด้วยลักษณะของเทวรูป) แล้ว ต้องถือว่า ที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์นั้น ไม่ใช่ “พระตรีมูรติ” อย่างที่เรียกขานกัน แต่เป็นรูปเคารพของ “พระศิวะ” ในปางที่เรียกว่า “สทาศิวะ” หรือพระปัญจมุขี (แปลว่า ห้าหน้า)

พระสทาศิวะ เป็นรูปพระศิวะที่ปรากฏห้าเศียร ปกติเรามักคุ้นเคยแต่พระศิวะที่มีเศียรเดียว

รูปเคารพนี้พัฒนาขึ้นในอินเดียใต้ จากหลักปรัชญาความคิดของสำนักไศวสิทธานตะ ที่นับถือพระศิวะเป็นพระเจ้าสูงสุด

รูปพระตรีมูรติที่เรียกๆ กันนั้น หากลองสังเกตดูจะพบว่า มีห้าเศียร มีพระจันทร์เป็นปิ่นที่เศียรบนสุด และแต่ละเศียรมี ดวงตาที่สามบนพระนลาฏ ตรงตามรูปแบบของพระศิวะทุกอย่าง เว้นแต่อาวุธและของต่างๆ ในพระกรถูกเอาออกจนหมด

ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก เจ้าหญิงสายมู

ดังนั้น คำอธิบายที่บางคนว่าเศียรบนสุดเป็นพระศิวะ สี่เศียรล่างเป็นพระพรหม และพระวรกายเป็นพระวิษณุนั้น เป็นคำอธิบายที่ผิดอย่างแน่นอน เพราะทั้งห้าเศียรคือเศียรของพระศิวะ และคงไม่มีเทพใดส่งแต่ร่างกายพระองค์มาผสมกับเทพอื่น

คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง

เว็บไซต์ ทรูไอดี ได้ลงข้อมูลที่ถูกต้อง ของศาลพระสทาศิวะ

นอกจากนี้ยังมีบทความ จากเว็บ สยามคเณศ เมื่อตั้งแต่ปี พ.ศ.2549โน่น ของ อ.พิทักษ์ โค้ววันชัย

ก็ได้กล่าว ว่า พระทัตตเตรยะหรือพระตรีมูรตินี้ ไม่ใช่เทพแห่งความรักเลย ที่จริงแล้วเป็นเทพแห่งการหลุดพ้นเสียด้วยซ้ำ

การตั้งพระตรีมูรติเป็นเทพแห่งความรักไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเลย เหมือนไปลดศักดิ์ของร่างรวมของสามมหาเทพลงมา

ส่วนเทพแห่งความรักที่แท้จริงคือ กามเทพ แต่อย่างที่ทุกคนรู้กัน กามเทพ พยายามยิงศรใส่พระศิวะเพื่อให้ตกหลุมรักพระแม่ปราวตี จึงถูกพระศิวะเผาตาย และทำให้กำเนิดมาใหม่ในรูปของ อนังคะ แล้วจึงไปเกิดเป็น ปรัทยุมน์ บุตรพระกฤษณะ(เจ้าเก่า)

สำหรับตามตำนานก็เคยมีคนขอพรพระศิวะแล้วได้ผัวนะครับ นั่นคือนางเทราปตี นางเอกแห่งมหากาพย์ มหาภารตะ ชาติก่อนที่นางจะมาเกิดเป็นนางเทราปตี นางได้เพียรพยายามบูชาพระศิวะ จนท่านพอใจและลงมาให้พร นางบอกว่า อยากได้สามีที่

"มีความยุติธรรม แข็งแกร่ง เป็นนักรบที่มีชื่อเสียง ฉลาด และหล่อเหลา"

ตรงนี้ก็ไม่ทราบพระศิวะเข้าใจผิด หรือเป็นกุศโลบายว่า มันไม่มีหรอกไอ้ผู้ชายที่เพอร์เฟค100%ขนาดนี้ในโลกนี้

ท่านเลย ให้ไปเลยผัว 5 คน คุณสมบัติมีกันคนละอย่าง

เมื่อนางมาเกิดเป็นนางเทราปตี จึงได้แต่งงานกับพี่น้องปาณฑพ บอยแบนด์พระเอกแห่งมหากาพย์มหาภารตะ

แล้วถามว่าคุณสมบัติ ตรงไหม ตรงครับ

1.ยุธิษฐิระ - มีความยุติธรรม

2.ภีมะ - แข็งแกร่ง

3.อรชุน - นักรบที่เกรียงไกร

4.นกุล - หล่อ

5.สหเทพ - ฉลาด

เทราปตี และสามีทั้ง5

สำหรับสาวๆคนไหน ถูกใจ เวลาไหว้เทวรูปองค์นี้ต้องตั้งจิต ถึงพระศิวะนะครับ รับรอง 5 คน

จะเห็นได้ว่าการขอพรนั้น อยากขออะไรก็สามารถขอได้เสมอ ตราบที่มันไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรม จะได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องนึง

แต่การที่ไปดึงเอาพระตรีมูรติหรือพระสทาศิวะลงมาเป็นเทพแห่งความรัก

ผมคิดว่ามันอาจเกิดมาจากการที่มีคนขอแล้วได้ ก็เที่ยวเอาไปโพนทะนากันปากต่อปาก ทั้งๆที่คนขอได้มีเป็นพัน ส่วนคนขอไม่ได้มีเป็นหมื่น

แม้ว่าทุกวันนี้ทางเพจและสื่อต่างๆจะนำข้อมูลข้อเท็จจริงมาลงให้ได้อ่านได้รับชมกับแล้ว

ซึ่งแ_่งเป็นเวลา1ปีแล้วนะ

แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากยังคงยืนกรานที่จะเชื่อแบบผิดๆ ที่มันแย่ก็คือความเชื่อที่ผิดๆนี้ยังถูกส่งต่อไปในสังคมไทย ผ่านการโปรโมทต่างๆทั้งจากคนที่เคยขอแล้วได้ ก็นำไปทำรีวิว การตลาดต่างๆ

โอเคครับ ผมจะไม่ว่าคนที่เคยเชื่อ แต่ที่ผมไม่โอเคคือ คนที่เชื่อ แล้วเถียงพวกผมหัวชนฝา ทั้งๆที่บทความที่ผมเขียนนี้ อ้างอิงจากเหล่าผู้ที่แตกฉานในฮินดูทั้งสิ้น แต่คนจำนวนหนึ่งกลับมีแรงศรัทธาในแบบที่ผิด แล้วมาว่าพวกผมนี่แหละ เลยเป็นเหตุที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา

ะสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อคือ เทวรูปนี้คือใคร อย่างที่ผมบอกไปเมื่อกี้ ถ้าอยากขอ ขออะไรก็ได้หมดนั่นแหละ แต่จะสำเร็จไหมอีกเรื่อง

และในเมื่อคุณยืนยันว่า ท่านคือพระตรีมูรติ ผมก็จะยืนยันว่าท่านคือ พระสทาศิวะ

ตรี แปลว่า สาม

ปัญจมุขี แปลว่า ห้าหน้า

ผมนับยังไงเทวรูปองค์นี้ก็ไม่มีสามหน้าแต่มีห้าหน้า

คนฮินดูนะครับ ถ้าเขาจะสร้างเทวรูป เขาจะไม่สร้างผิดแผกไปจากตำราหรือปกรณัมหรอกครับ

เปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือน พี่คนนี้ชื่อสมพงษ์ แต่ไปเรียกเขาประยุทธ เขาจะรู้ไหมล่ะครับว่าเรียกชื่อเขา

ลองคิดดูสิ

ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก โบราณนานมา

พระตรีมูรติองค์จริง ที่ตึก เอ็มไพร์ ทาวเวอร์

หากท่านอยากหาข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์เหล่านี้ช่วยคุณได้

อ้างอิง