12 ก.พ. 2022 เวลา 01:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเงินเฟ้อสหรัฐฯเดือน ม.ค. สูงกว่าตลาดคาด
🌏 เงินเฟ้อสหรัฐฯเดือน ม.ค.ปรับตัวขึ้นแตะ 7.5% (เทียบรายปี)
1
สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 7.3% และเป็นการปรับขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบ 40 ปี
เงินเฟ้อสหรัฐฯเดือน ม.ค. พุ่ง 7.5%
เป็นสัญญาณที่อาจกดดันให้ Fed ต้องใช้นโยบายทางการเงินเข้มงวดขึ้นหลังตัวเลขเงินเฟ้อยังสูงขึ้นต่อเนื่อง
โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนมองว่ามีโอกาสสูงขึ้นที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยถึง 0.50% ในการประชุม FOMC วันที่ 15-16 มี.ค. นี้
ส่งผลกระทบไปยังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลง 1.5 - 2% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) พุ่งขึ้นเหนือ 2% ปิดที่ 2.03%
🏦 ผลกระทบจากการเด้งขึ้นของ Bond Yield
✳️ หุ้น Growth อย่างกลุ่มเทคจะได้รับแรงกดดัน
เนื่องจากอัตราการเติบโตในอนาคตอาจจะชะลอตัวลง และอาจมีการอ่อนตัวของราคาลงจากที่เคยปรับตัวสูงขึ้นมาก
✳️ กองทุนตราสารหนี้ เนื่องจากราคาจะปรับตัวตรงข้ามกับทิศทางของ Yield
อย่างไรก็ดี ความผันผวนของกองทุนตราสารหนี้ไทยในระยะนี้เป็นผลกระทบทางอ้อมมาจากเหตุการณ์ที่ Bond Yield สหรัฐฯที่ปรับขึ้นเป็นหลัก
ไม่ได้สะท้อนภาวะดอกเบี้ยในประเทศ และไม่เกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ (เครดิต) แต่อย่างใด
✳️ คำแนะนำการลงทุน
ความผันผวนในระยะสั้นจะยังมีสูง เนื่องจากนักลงทุนจับตาการสื่อสารของ Fed ในเดือน มี.ค.
✅สำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงยาวที่รับความเสี่ยงได้สูง เป็นโอกาสทยอยสะสมกองทุนหุ้นต่างประเทศที่ราคาปรับลงในช่วงที่ผ่านมา
✅เน้นกระจายการลงทุนโดยให้น้ำหนักไปทางตลาดหุ้นฝั่งจีน ญี่ปุ่น เอเชีย มากกว่าทางสหรัฐฯและยุโรป
จากทิศทางการฟื้นตัวของกำไรที่โดดเด่นกว่า และ ระดับราคา (Valuation) ยังถูก
✅ กองทุนหุ้นไทย ที่ได้รับประโยชน์ดังกล่าว ได้แก่ K-BANKING ที่ลงทุนในหุ้นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่ได้รับประโยชน์จากช่วงภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น
#KAsset #KBankLive
โฆษณา