สงครามการค้าที่ไม่มีผู้ชนะ
โดย มิสมาต้า
ในแวดวงอุปกรณ์กีฬา สองเสือที่ดูเหมือนว่าจะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้อย่าง ไนกี กับ อาดิดาส คือสองเบอร์ใหญ่แห่งวงการ กลับกลายเป็นว่าช่วยกันผลักดันเทคโนโลยีแห่งวงวงการกีฬาให้รุดหน้าไปด้วยกัน
ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากสงครามน้ำดำระหว่าง เป๊ปซี กับ โคคาโคลา ที่สู้กันแบบเอาตายไม่มีไว้มารยาทกันยิ่งกว่าสงครามการค้าใดที่ผู้เขียนเคยผ่านตามา
แน่นอนว่าหากเปรียบเทียบยอดขาย หรือ ส่วนแบ่งตลาด หรือ มูลค่าแบรนด์ ไนกียืนเป็นหนึ่งมาทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะเรื่องมูลค่าแบรนด์ที่ ไนกี มีมูลค่าสูงกว่า อาดิดาส มากถึง 300% หรือที่ตัวเลขเปรียบเทียบราว 1.507 ล้านล้านบาท กับ 0.425 ล้านล้านบาท
แต่ในฐานะคู่แข่งกันนั้น ต่างฝ่ายต่างก็เปรียบเสมือนแรงบันดาลใจ หรือ พลังขับเคลื่อนของกันและกันมาตลอด ทั้งในแง่ของการพัฒนา, การส่งเสริมการขาย และ การดีไซน์ รวมทั้งการช่วงชิงนักกีฬาดัง
เมื่อวานนี้ ไนกี ได้เปิดตัวชุดแข่งของสโมสรฟุตบอล ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอดทีมจากลีกเอิงด้วยแบรนด์ ไนกี จอร์แดน ด้วยการนำเอาซูเปอร์สตาร์ของทั้งทีมชาย กับ ทีมหญิง มาร่วมถ่ายภาพเพื่อโปรโมทแบรนด์
ซึ่งใครต่อใครที่ติดตามชมฟุตบอลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสาวกของ ลีโอเนล เมสซี ดาวเตะผู้มาจากนอกโลก ย่อมทราบกันดีว่าเขาเซ็นสัญญาอยู่กับ อาดิดาส ด้วยตัวเลขมหาศาลอันเป็นสัญญาตลอดชีพเช่นเดียวกับ คริสเตียโน โรนัลโด ที่ทำเอาไว้กับไนกี
โดย เมสซี ได้อยู่กับค่ายอุปกรณ์กีฬาสัญชาติเยอรมนีมาตั้งแต่ปี 2006 ด้วยการสวมรองเท้าแข่งของ อาดิดาส รุ่น F50 TUNiT ลงสนามเป็นคู่แรก ภายหลังเซ็นสัญญากับอาดิดาส
เขาจึงเป็นผู้เล่นของอาดิดาส ท่ามกลางเพื่อนร่วมทีมบาร์เซโลนาทุกคนที่สวมแบรนด์ ไนกี อันเป็นคู่ค้าหลักกับยักษ์ใหญ่แห่งคาตาลัน ซึ่งรวมทั้งซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของทีมในยุคนั้นอย่าง โรนัลดินโญ พี่ชายแสนดีของเขาที่เป็นตัวชนกับ เดวิด เบ็คแฮม แห่งอาดิดาสอีกด้วย
แถมในศึกฟุตบอลโลกรุ่น U20 เมื่อปี 2005 เขายังใส่ ไนกี รุ่น Tiampo , ไนกี Mercurial Vapor และ ไนกี T90 ลงช่วยพาทัพฟ้าขาวครองแชมป์อยู่เลย
นั่นจึงเป็นหนึ่งในชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลของ อาดิดาส ที่มีเหนือคู่ปรับตลอดกาล รวมทั้งยังสามารถล่อใจจน เออร์ลิง เบราท์ โฮลันด์ หน้าเป้าฟอร์มแรงที่สุดแห่งยุคนี้ย้ายค่ายจาก ไนกี มาสวมใส่แบรนด์อาดิดาสได้เมื่อวันที่ 1 มกราคม นี้เอง
ทำให้คู่เปรียบเทียบรุ่นถัดจาก โรนัลโด ไนกี vs เมสซี อาดิดาส มาสู่รุ่นของ คิลเลียน เอ็มบัปเป ไนกี vs เออร์ลิง โฮลันด์ อาดิดาส เป็นคู่เอกคู่ใหม่แทน
ผู้เขียนจึงเลือกใช้คำว่า "แรงบันดาลใจท่ามกลางสงครามการค้า" เมื่อนึกถึงการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด และ พรีเซนเตอร์ของทั้งสองแบรนด์ที่มีมาตลอด
เพราะต่อให้ยอดใช้รองเท้าแข่งของนักฟุตบอลอาชีพจำนวน 2,520 คน ที่ถูกเลือกในอันดับหนึ่งจะเป็นสาวกของ Nike Mercurial Vapor13 ที่ยึดหัวหาดอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งราว 18.88% พรัอมกับช่วยกันครองส่วนแบ่งได้มากถึง 43.87%
โดยมี Adidas X 19.1 ตามมาห่างๆ เป็นอันดับที่สองด้วยจำนวน 11.31% แถม อาดิดาส ก็ไม่ยอมน้อยหน้าด้วยยอดการถูกเลือกใช้งานที่ติดท็อปเท็นได้ถึง 5 รุ่น ด้วยส่วนแบ่งราว 27.73%
แล้วเมื่อมาแบ่งเป็นการเลือกใช้ตามตำแหน่งการเล่น อังเดร แทร์ สเตเกน มือหนึ่งของ บาร์เซโลนา กับเพื่อนนายทวารอีกราว 26% เลือกใช้อาดิดาสมาเป็นอันดับหนึ่งของตำแหน่งนี้
ส่วนตำแหน่งกองหลัง มิดฟิลด์ และ กองหน้า แบรนด์ Nike รุ่น Mercurial กลายเป็นขวัญใจอันดับหนึ่งของนักเตะในตำแหน่งเหล่านี้แบบขาดลอย
ดังนั้นเมื่อ ลีโอเนล เมสซี ต้องไปเป็นนายแบบให้สโมสรต้นสังกัดตามธรรมเนียม ด้วยการสวมใส่ Nike Jordan เพื่อโปรโมทยอดขายตามพันธะสัญญาของสโมสรกับไนกี เขาจึงสวมชุดแข่งแบรนด์นั้นไปตามหน้าที่ โดยใส่รองเท้าแข่งแบรนด์อาดิดาสของเขาเข้าไปนั่งท่ามกลางนักกีฬาของไนกีแบบไม่มีเคอะเขิน
จนทำให้ภาพหมู่ดังกล่าวต้องมีการทำแบนเนอร์ขึ้นมาบดบัง เพื่อไม่ให้ผู้ชมทั่วทั้งโลกได้เห็นว่าท่ามกลางหมู่ดาวของไนกีนั้น พระจันทร์ดวงเดียวอย่างอาดิดาสกลับโดดเด่นเป็นสง่าอย่างเปิดเผย
แม้ว่าจะปิดบังอย่างไร แต่ด้วยนิสัยช่างค้นหาของคนดูจึงทำให้ได้รู้ว่า อ๋อ นั่นคืออาดิดาสนั่นเอง
มันส์พะยะคะท่านผู้ชม
#PlayNowThailand #khelnow #football
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
