12 ก.พ. 2022 เวลา 13:46 • หุ้น & เศรษฐกิจ
บทที่ 1 ดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest)
ทำไมเราถึงต้องลงทุน หลายๆคนน่าจะเคยสงสัย หรือมีคำตอบให้คำถามนี้ต่างๆ นานา บ้างก็ว่าเพื่อจะได้มี Passive Income บ้างก็เผื่อไว้ใช้ตอนเกษียณ ไม่ก็อยากรวยเร็ว หรือบางรายก็ว่าอย่าลงทุนเลยเอาเงินไปทิ้งปล่าวๆ ความคิดของคนเราย่อมไม่เหมือนกันอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ แต่นั่นอาจจะเพราะว่าหลายๆคนยังไม่รู้จัก และเข้าใจพลังที่แท้จริงของดอกเบี้ยทบต้น
1
ดอกเบี้ยทบต้นคืออะไร ดอกเบี้ยทบต้นก็คือ ผลตอบแทน(ดอกเบี้ย)ที่คิดจากเงินต้น ที่สามารถนำไปรวมกับเงินต้น ก่อนที่จะนำไปคิดผลตอบแทนในงวดถัดไป หลายคนอ่านแล้วอาจจะยังอึนๆ ว่า เอ่อ แล้วไงหละ ก็ถ้าให้เห็นภาพง่ายขึ้นก็สามารถยกตัวอย่างมาอธิบายได้เช่น เรามีเงินต้น 100,000 บาท แล้วนำไปฝากเงิน หรือลงทุนที่ให้ผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) 3% ต่อปี เป็นเวลา 10 ปี ก็จะได้ผลตอบแทนดังนี้
  • ปีที่ 1 เงินต้น 100,000 บาท ได้ผลตอบแทน(ดอกเบี้ย) 3,000 บาท
  • ปีที่ 2 เงินต้น 103,000 บาท ได้ผลตอบแทน(ดอกเบี้ย) 3,090 บาท
  • ปีที่ 3 เงินต้น 106,090 บาท ได้ผลตอบแทน(ดอกเบี้ย) 3,183 บาท
  • ปีที่ 4 เงินต้น 109,273 บาท ได้ผลตอบแทน(ดอกเบี้ย) 3,278 บาท
  • ปีที่ 5 เงินต้น 112,551 บาท ได้ผลตอบแทน(ดอกเบี้ย) 3,377 บาท
  • ปีที่ 10 เงินต้น 130,477 บาท ได้ผลตอบแทน(ดอกเบี้ย) 3,914 บาท รวมเป็น 134,392 บาท
10 ปีได้ผลตอบแทนมา 34,392 บาท หรือ 34.4% ว้าวมะ บางคนก็อาจจะยังไม่ว้าว งั้นมาลองดูว่าถ้าเราสามารถนำไปลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 3%, 5%, 10% และ 15% เป็นระยะเวลา 30 ปีจะเป็นยังไง
ดอกเบี้ยทบต้นจากเงินต้น 100,000 บาท เป็นระยะเวลา 30 ปี
จากเงินต้น 100,000 บาท ถ้าเราทำได้ 3% ต่อปี ก็จะกลายมาเป็น 242,726 บาท ก็อาจจะยังไม่ค่อยว้าว แต่ถ้าเราทำได้ 15% ต่อปี เงินต้นเราจะกลายมาเป็น 6,621,177 บาท หรือโต 66.2 เท่าตัว O_o
แต่ก็ยังอาจจะมีบางคนที่บอกว่าจะไปหาเงินต้น 100,000 บาท มาจากไหนกัน ไม่เป็นไรครับ เรามีสินค้าอีกตัวมานำเสนอ นั่นก็คือคุณจะลองลงทุนเดือนละ 1,000 บาทก็ได้ครับ ตามรูปนี้
ดอกเบี้ยทบต้นจากการลงทุนเดือนละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 30 ปี
จากรูปจะเห็นว่าเมื่อปีที่ 30 คุณได้ลงเงินเดือนละ 1,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 348,000 บาท ถ้าเกิดทำได้ 15% ต่อปี เงินต้นเราก็จะเป็น 5,204,942 บาท หรือ 15 เท่าจากเงินที่ลงทุนไป
จากตัวอย่าง ถ้าคุณสังเกตุจะเห็นได้ว่าตัวแปรหลักที่เกี่ยวข้องจะมีอยู่ 3 อย่าง คือ
  • 1.
    เงินต้น หรือเงินลงทุนที่เราเติมทุกเดือน
  • 2.
    ผลตอบแทนต่อปีที่เราทำได้
  • 3.
    ระยะเวลา
ผมจะเอาตัวอย่างของการลงเงินเดือนละ 3,000 บาท มาให้คุณเปรียบเทียบดูละกัน
ดอกเบี้ยทบต้นจากการลงทุนเดือนละ 3,000 บาท เป็นระยะเวลา 30 ปี
เมื่อเราลองเปรียบเทียบกับรูปด้านบนที่ลงทุนเดือนละ 1,000 บาท เพื่อให้เห็นภาพจะอธิบายโดยใช้เหตุการณ์สมมุติละกันนะครับ
นาย A กับนาย B เป็นเพื่อนกัน จบใหม่ ยังไม่ค่อยมีเงิน นาย A ชวน B ลงทุนเดือนละ 1,000 บาท ในกองทุนหนึ่งที่ให้ผลตอบแทน 15% ทุกปี แต่ B บอกกับ A ว่ายังไม่สนใจ ลงแค่เดือนละ 1,000 จะได้ซักเท่าไหร่เชียว ส่วน A ก็ลงเดือนละ 1,000 ของ A ไป ผ่านไปอีก 10 ปี สองคนก็กลับมาคุยเรื่องหุ้นกันใหม่ นาย A ก็บอกว่าที่ผ่านมาเงินต้นโตมากว่า 100% แล้วนะ พอ B เห็นดังนั้นก็เลยเอามั่งโดยลงเดือนละ 3,000 บาท เพื่อจะได้โตให้ทัน A อีก 20 ปีผ่านไป A กับ B มาเจอกันอีก ก็พบว่า
เมื่อปีที่ 30 ของ A ลงทุนเงินต้นไปทั้งหมด 348,000 บาท จากการลงทุนเดือนละ 1,000 ได้ผลตอบแทน 15% ที่ 30 ปี เป็น 5,204,942 บาท หรือ 15 เท่าของเงินต้น
ส่วน B ลงทุนเงินต้นไปทั้งหมด 684,000 บาท จากการลงทุนเดือนละ 3,000 ได้ผลตอบแทน 15% ที่ 20 ปี เป็น 3,651,969 บาท หรือ 5.34 เท่าของเงินต้นแค่นั้นเอง
สรุปก็คือเวลาเป็นตัวแปรที่สำคัญมากในดอกเบี้ยทบต้น เพราะทุกคนมีเวลาที่จำกัด ยิ่งเริ่มไว ก็ยิ่งได้เปรียบคนที่เริ่มช้ากว่าที่ต้องการผลตอบแทนที่เท่าๆกัน
สุดท้ายก่อนจากกับ ของฝากนักลงทุน หากคุณต้องการลงทุนให้ลูกคุณตั้งแต่ตอนนี้หละจะเป็นยังไง สมมุติคุณอายุ 30 ปีบริบูรณ์ กำลังตั้งท้อง และอยากที่จะลงทุนให้ลูกเดือนละ 1,000 ไปจนถึงลูกอายุ 30 ปี หรือลงทุนเป็นระยะเวลา 60 ปี ตามภาพ
ดอกเบี้ยทบต้นจากการลงทุนเดือนละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 60 ปี
นั่นน่าจะว้าวกันได้อยู่นะครับ เงินต้น 708,000 บาท ระยะเวลา 60 กับผลตอบแทน 15% ต่อปี ทำให้กลายมาเป็นเงินกว่า 350,627,900 บาท หรือโตกว่า 495.24 เท่าตัวเลยทีเดียว
ส่วนใครคิดว่าตัวเองน่าจะทำผลตอบแทนทบต้นได้มากกว่า 15% ต่อปีเราก็ขอแถมให้อีกรูปละกัน
ดอกเบี้ยทบต้นจากการลงทุนเดือนละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 64 ปี
ก็ตามภาพแหละครับทุกท่าน ใครทำได้ที่ 30% ทุกปีเป็นระยะเวลา 60 ปี ก็รับไปเลยกับการเติบโต 387,818 เท่าของเงินต้น ยิ่งไปกว่านั้นถ้าแถมให้อีกซัก 4 ปี ก็สร้างผลตอบแทนล้านเท่าได้เลยครับ :]
สิ่งสำคัญที่สุดของการใช้ประโยชน์ของดอกเบี้ยทบต้น นั่นก็คือการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ และทำได้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอนั่นเองครับ บทแรกก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้ ส่วนบทถัดไปก็จะเป็นเรื่องของการตั้งเป้าหมายการลงทุนส่วนบุคคลของแต่ละคน ถ้าสนใจก็ฝากกดติดตาม และคอมเมนต์ให้กำลังใจกันด้วยนะครับ ถ้ามีอะไรผิดพลาดแจ้งได้ในคอมเมนต์ได้เลยนะครับ ขอบคุณมากครับ :]
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา