5 สิ่งที่ผมสังเกตเห็น เมื่อมีเพื่อนร่วมงานลาออก
ช่วงนี้ต้องยอมรับว่ามีเพื่อนร่วมงานลาออกเยอะจริงๆ สาเหตุก็แตกต่างกันไป ผมนั่งมองเพื่อนที่ออกจากงานไปคนแล้วคนเล่า จนมีข้อสังเกต ที่อยากเอามาแชร์ในบทความนี้ครับ
.
1. สำหรับรุ่นเล็ก คนที่ลาออกจะมีความตั้งใจมากๆ รั้งยังไงก็รั้งไม่อยู่ ส่วนใหญ่จะเป็นการออกไปตามหาแรงบรรดาลใจใหม่ ซึ่งจริงๆ ถือเป็นเรื่องที่ดีกับสังคมนะครับ เพราะคนรุ่นใหม่เหล่านี้ ถ้าได้ออกไปทำสิ่งที่ตัวเองรัก จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคมได้อีกมาก
.
แต่สำหรับบริษัท อาจจะยิ้มแห้ง เพราะน้องๆ ที่ออกส่วนมากจะเป็นระดับหัวกะทิเลยทีเดียว ยากที่จะหาคนมาแทนได้ในเวลาอันสั้น
.
2. สำหรับรุ่นกลาง อันนี้ไม่ค่อยมีครับ สังเกตได้ว่า คนที่ออกช่วงนี้มักจะเป็นรุ่นเล็ก ไม่ก็รุ่นใหญ่ไปเลย น่าจะเป็นเพราะคนที่อยู่ในวัยกลางคน อายุ 30-45 เป็นวัยที่อยู่ตรงกลางของทุกสิ่ง
.
อยู่ตรงกลางของครอบครัว ทำให้มีหน้าที่ต้องดูแลทั้ง ลูกๆ ที่กำลังโต และพ่อแม่ที่กำลังแก่ตัวลง
.
อยู่ตรงกลางของเทคโนโลยี คนวัยนี้มักจะเป็น Gen Y เกิดมาในยุคไร้อินเตอร์เนต แต่โตมาในยุคดิจิตอล ทำให้พวกเค้าเก่งเทคโนโลยีระดับนึง แต่ไม่ได้เก่งเท่าเด็กรุ่นใหม่ และไม่ได้มีแรงบันดาลใจขนาดจะยอมละทิ้งได้ทุกอย่างเพื่อร่วมสร้างโลกใหม่ ผ่านเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตอย่างน่าตื่นเต้น
.
ด้วยหน้าที่ที่ต้องดูแลคนทั้งครอบครัว และแรงบันดาลใจที่จำกัด ทำให้พวกเค้ายินดีที่จะทำงานต่อกับบริษัทอย่างขมักเขม้น ถ้าจะเห็นคนลาออก ก็คือออกไปบริษัทอื่นที่ให้เงินเดือนดีกว่า ซะส่วนใหญ่
.
3. สำหรับรุ่นใหญ่ "Power" ของพวกเค้าจะลดลงทันทีที่ประกาศลาออก ถึงแม้พวกเค้าจะยังทำงานอีก 2-3 เดือนก็ตาม
.
Power ของพวกเค้า ลดลงรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ บรรดาลูกทีมที่เคยทำตาม Direction อย่างเคร่งครัดจะเริ่มแตกแถว และมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เรื่องบางเรื่องที่เคยทำตามที่หัวหน้าบอกอย่างไม่มีปริบ่น กลายเป็นทำบ้าง ไม่ทำบ้าง
.
สำหรับบางคนอาจจะไม่แปลกใจ และบอกว่า "ก็ไม่แปลกนะ หัวหน้าจะออกแล้ว ไม่มีผลประโยชน์อะไรกันแล้ว คนเลยไม่ต้องเกรงบารมีอะไรกันอีก"
.
แต่สำหรับผม ผมไม่เห็นด้วยเลย ทำไมคนเราต้องทำดีกัน แค่เฉพาะตอนที่มีผลประโยชน์ให้? เรื่องที่ถูกก็ควรเป็นเรื่องที่ถูก ไม่ว่าหัวหน้าจะเป็นใคร เช่นเดียวกับเรื่องที่ผิด ถ้าเราไม่เห็นด้วยและไม่อยากทำตาม ก็ควรจะมีความกล้าพอที่จะอธิบายความคิดของตัวเองออกไปอย่างมีเหตุผล ตั้งแต่วันที่หัวหน้ายังไม่ลาออกแล้ว... แต่ก็นะ ในประเด็นนี้ ผมก็คงโลกสวยไปหน่อย ถ้าใครจะไม่เห็นด้วยกับผม ผมก็จะไม่แปลกใจเลย
.
4. ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็ก กลาง ใหญ่ การลาออกมักจะเกี่ยวกับวิกฤตโควิต วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป หรือเทคโนโลยีใหม่ โดยรวมๆ คือ เกี่ยวกับโลกที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนั่นเอง
.
เรื่องนี้เหมือนเป็นสัญญาณเตือน ว่าโลกเรากำลังเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก เราอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกใหม่ใบนี้ให้ไว
.
5. สุดท้าย... เมื่อคุณออกไปแล้ว ผู้คนจะลืมคุณอย่างรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อ ไม่เกินเดือน บางครั้งยังไม่เกินอาทิตย์ด้วยซ้ำ
.
เรื่องนี้กำลังบอกเราว่า ตำแหน่งต่างๆ ก็เป็นแค่หมวกใบนึง ที่เรารับหน้าที่สวมใส่มันไว้ชั่วคราว เราอาจต้องเล่นบทไปตามหมวกที่ได้รับ เพื่อแลกกับค่าเหนื่อยในแต่ละเดือน
.
แต่เราต้องไม่หลงไปติด "กับดักของหมวก" จนยอมแลกทุกอย่างเพื่อมัน บางคนยอมแลกความสัมพันธ์กับคนที่เรารัก (และรักเรา) รวมถึงสุขภาพ เพื่อหมวกใบงาม จนลืมไปว่า วันนึง เราก็จะต้องถอดหมวกนั้นทิ้งไปอยู่ดี
.
เราคงไม่อยากเป็นคนที่ถอดหมวกมาแล้วพบว่า "อ้าวนี่ตูไม่เหลือใครเลย ไม่มีอะไรเลย แม้แต่สุขภาพที่ดีของตัวเอง" ใช่ไม๊หละครับ?
.
เพราะฉะนั้น อย่าหลงไปกับหมวกใบงามล่อใจ จนยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อมันนะครับ หันมาพูดคุย หันมาใช้เวลา หันมาบอกรักคนที่คุณรัก หันมาดูแลสุขภาพกันอย่างสม่ำเสมอกันเถอะครับ 💝
.
#SalarymanEstator
▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃
หากคุณเป็นนักลงทุน ที่ทำควบคู่งานประจำ
หรือชอบเนื้อหาของ SalarymanEstator
ฝากกดไลค์ 👍
กดแชร์ 🌎
กดติดตาม 🌝
เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา
และจะได้ไม่พลาดเนื้อหาใหม่ๆ ของเรา ด้วยนะครับ
▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
