13 ก.พ. 2022 เวลา 08:23 • ท่องเที่ยว
โปง คือ ระฆังไม้โบราณ ที่พระสงฆ์ใช้เคาะส่งสัญญาณให้ชาวบ้านทราบเวลาที่จะออกบิณฑบาต และส่งสัญญาณต่างๆ เพื่อสื่อสารภายในวัดและชุมชน
ใต้โปงหรือระฆังไม้จะมีหม้อฝังไว้เพื่อช่วยสะท้อนเสียงเคาะให้กังวาน
เราพบวัดที่มีโปงนี้โดยบังเอิญในระหว่างขับรถแบบไร้ปลายทาง เพราะต้องการพื้นที่ส่วนตัวในช่วงเวลาหนึ่ง
ระหว่างขับรถทอดอาลัยก็เป็นจังหวะบังเอิญ โดนรถหกล้อใหญ่เบียดรถเล็กเราเข้าเลนซ้าย ไม่ได้โกรธแค่ตกใจ เพราะคิดว่าคนขับรถหกล้อก็เจอจังหวะนรกเหมือนกัน คือสัตว์เล็กข้ามถนน เป็นเหตุให้ส่งต่อความโกลาหลกันเป็นทอดๆ บนถนนลาดยางมะตอย
เราชะลอตรงจุดที่เห็นป้ายวัดริมทางพอดิบพอดี เราจึงเลี้ยวเข้าไปไหว้พระและเดินชมวัด
เรานั้นไม่เคยเห็นโปงมาก่อน(หรืออาจได้ผ่านแต่ไม่ได้สนใจ) จึงถามคุณยายที่พาหลานชายตัวเล็กมานั่งเล่นในร่มเงาวัด ว่าสิ่งนี้คืออะไร คุณยายก็ได้ให้คำอธิบายอย่างใจดีว่า “โปง หลวงพ่อตีก่อนบิณ ชาวบ้านจะได้รู้”
เราสังเกตสภาพแวดล้อม ก็พอเข้าใจเพราะเป็นชุมชนเล็กๆ บนทางหลวงชนบท ประชากรที่ไม่หนาแน่น มีวัดอยู่เป็นระยะๆ ไม่ขาดช่วง มีทั้งวัดใหญ่โตสวยงาม และวัดเล็กเงียบสงบแบบวัดนี้ ทั้งวัดมีพระสงฆ์เพียง 3 รูป สิ่งปลูกสร้างมีอยู่บ้างตามกำลังศรัทธาที่เข้ามา
เมื่อมีสิ่งใดจะแจ้งหรือบอกกล่าวกับชุมชน ทางวัดก็น่าจะใช้การตีโปงส่งสัญญาณ เป็นการสื่อสารกับผู้คนในพื้นที่
เราขอให้คุณยายลองสาธิตการตีโปงให้ดู คุณยายก็ลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง ยกไม้ และเคาะโปงเสียงสะท้อนดังทุ้มนุ่มนวลอย่างน่ารักแต่ทรงพลังในคราวเดียวกัน (ที่จริงเราถ่ายเป็นคลิปมาด้วยแต่ลงได้แต่ภาพ คลิปคุณยายตีโปงคือน่ารักและแข็งแรงอย่างน่าอิจฉา!)
แล้วคุณยายก็ให้เราลองเคาะดู ปรากฏว่าไม้เคาะโปงหนักมาก เราแบกโหลดอย่างเก้งก้าง เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ตีโปง ยากและใช้แรงมากกว่าตีฆ้องมาก
เราขณะพยายามยกไม้ตีโปง แม้จะหนักแต่ก็ตีสำเร็จและกังวานดี
แปลกแต่จริง แม้คนแรงน้อยชนิดที่ไม่มีกำลังพอแม้จะฆ่าไก่สักตัว ก็ยังสามารถเคาะโปงให้ดังได้เกินความคาดหมาย คงเป็นเพราะการออกแบบระฆังไม้โบราณประกอบกับหม้อที่ฝังในตำแหน่งที่เหมาะเจาะอยู่ด้านล่าง ช่วยกระจายเสียงให้ก้องดังกว่าแรงที่ลงไป
ความไม่ค่อยจะพอดีของภาพถ่ายเราตีโปง เกิดจาก 2 ปัจจัย คือหนึ่ง เป็นครั้งแรกที่เราตีโปงและไม้ตีเป็นแท่งตันหนักมาก และสอง คุณยายที่ไม่เคยถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟน ก็ได้ลองกดถ่ายรูปด้วยมือถือเป็นครั้งแรก เราสอนคุณยายว่ามันง่ายมากค่ะ กดตรงนี้เบาๆ กด_ปล่อย_กด_ปล่อย รัวๆ สบายๆ เลยค่ะคุณยาย พอคุณยายถ่ายได้ก็กดรัว ดูสนุกพอๆ กับเราที่ตีโปง ^^
วัดนี้มีทั้งกลอง ฆ้อง และระฆัง ซึ่งมีศรัทธานำมาถวาย แต่ทางวัดเลือกใช้การตีโปงในการส่งสัญญาณ อาจเป็นเพราะในบริเวณไม่ห่างกันมากก็มีวัดของชุมชนอยู่เรียงราย คะเนว่าคงไม่อยากให้เสียงระฆังดังจนไม่รู้ว่าวัดไหนเป็นวัดที่ส่งสัญญาณ อีกทั้งวัดอื่นละแวกนี้(เฉพาะที่เราจอดไหว้พระ) ไม่มีโปงโบราณ มีแต่ระฆัง กลอง และฆ้อง ซึ่งหากมีเวลา เราจะลงพื้นที่สำรวจอีกครั้งแล้วจะนำมาเล่าในคราวต่อไป
เจ้าแมววัดตัวน้อยนุ่ม
ระหว่างเดินชมวัด ก็มีแมววัดต้วจ้อยสองพี่น้องมาอ้อนซบขอความเอ็นดู ในรถเรามีแต่กระสอบอาหารหมาเตรียมเอาไปบริจาค ส่วนอาหารแมว 4-5 ถุงที่เคยมีในรถเราก็บริจาคไปหมดแล้ว ยังดีที่มีขนมแมวเลียของลูกชายเราอยู่ในรถนิดหน่อย จึงได้แบ่งขนมแมวเลียให้เจ้าเหมียวตัวละซอง
ก่อนกลับเราไม่ได้กราบลาหลวงพ่อ เพราะท่านเดินจงกรมอย่างต่อเนื่อง(แต่โชคดีที่ได้กราบท่านและถวายเทียนไขสำหรับจุดบูชาตอนมาถึงแล้ว) เราจึงฝากปัจจัยไว้กับคุณยายผู้ให้คำอธิบายอย่างมีไมตรีเรื่องโปง วัด และชุมชน ปัจจัยนี้เพื่อฝากให้คุณยายเป็นธุระช่วยหาของใส่บาตรหลวงพ่อในเช้าวันต่อไปแทนเราด้วย
เราชอบวัดนี้มาก สงบ ร่มรื่น มีเพียงเสียงนกร้องและเสียงลมพัดใบไม้กระทบกัน เราต้องหาเวลาขับรถมาทำบุญที่นี่อีกแน่นอน
ภาพหลวงพ่อขณะเดินจงกรมอย่างสงบ
โฆษณา