Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กระทรวงการต่างประเทศ
•
ติดตาม
18 เม.ย. 2022 เวลา 01:28 • ข่าว
‘ช้างไทย’ สะพานเชื่อมความสัมพันธ์ไทยกับญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยได้ธำรงสัมพันธภาพอันอบอุ่นมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี และได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๔๓๐ ซึ่งกำลังจะครบรอบ ๑๓๕ ปีในปีนี้ และเมื่อไม่นานมานี้ ท่านเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว คุณสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ ได้ถ่ายภาพร่วมกับภาพวาด "ฮานาโกะ" ช้างไทยที่เคยส่งมอบให้กับญี่ปุ่นเป็นของขวัญหลังจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ ๒ ซึ่งได้ปรากฏเป็นภาพข่าวในสำนักข่าว Mainichi ของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ภาพวาด "ฮานาโกะ" จากเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว
ที่จริงแล้ว ช้าง “ฮานาโกะ” มี ๒ เชือกด้วยกัน และทั้งคู่ถูกเลี้ยงดูอยู่ที่สวนสัตว์อุเอโนะ ในช่วงเวลาที่ต่างกัน ...ฮานาโกะเชือกแรก คือที่ได้รับจากรัฐบาลไทยเพื่อสานสัมพันธ์กับญี่ปุ่น แต่ทว่า ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อฮานาโกะเสียชีวิตลงจากความอดอยากในช่วงสงครามโลกครั้ง ๒ ...ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๒ หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ช้างเชือกใหม่ได้ถูกส่งไปยังสวนสัตว์อุเอโนะอีกครั้งโดยนักธุรกิจชาวไทย เพื่อเป็นการเยียวยาจิตใจของเด็กชาวญี่ปุ่นจากสงคราม และได้ให้ชื่อกับช้างไทยเชือกใหม่นี้ว่า “ฮานาโกะ” เช่นเดียวกัน โดยในภายหลัง ช้างฮานาโกะเชือกที่ ๒ ได้ถูกย้ายไปอยู่ที่สวนสัตว์อิโนะกะชิระ เมืองมุซาชิโนะ และได้เสียชีวิตในวัย ๖๙ ปี
ช้าง “ฮานาโกะ” เชือกแรก จากเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว
ช้าง “ฮานาโกะ” เชือกที่สอง จากเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ประเทศไทยได้ส่งมอบช้างอีก ๒ เชือกให้ญี่ปุ่น (เลี้ยงดูที่สวนสัตว์อุเอโนะ) เพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของเจ้าหญิงไอโกะ โทชิโนะมิยะ พระราชธิดาพระองค์เดียวในสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ซึ่งก็คือ “พลายอาทิตย์” และ “พังอุทัย” โดยชื่อของช้างทั้งสองเชือกได้รับแรงบันดาลใจจากธงชาติของญี่ปุ่น และในเดือนตุลาคม ๒๕๖๓ ช้างทั้ง ๒ เชือกได้ให้กำเนิดลูกช้างที่มีชื่อว่า “อรุณ”
พลายอาทิตย์และพังอุทัย จากเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว
พลายอรุณ จากเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว
นอกจากนี้ ประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยยังมีปัจจัยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่สำคัญอีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์อันใกล้ชิดในระดับพระราชวงศ์ของไทยกับญี่ปุ่น ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งเห็นได้จากการเข้ามาลงทุนในไทยของภาคเอกชนญี่ปุ่นจำนวนมากนับแต่ทศวรรษ ๖๐ ในขณะที่ภาครัฐเองก็ได้มีลงนามในสนธิสัญญาและข้อตกลงทวิภาคีระหว่างกันหลายฉบับในหลายสาขา รวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามวิกฤต รวมถึงในช่วงการระบาดของโควิด-๑๙* ตลอดจนการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้แทนระดับสูงจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ไปจนถึงการไปมาหาสู่ระหว่างกันของประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งต่างก็ชื่นชอบที่หมายปลายทางด้านท่องเที่ยวในไทยและญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก รวมไปถึงอาหาร ศิลปะวัฒนธรรม และวิถีความเป็นอยู่
ข้อสรุปสั้น ๆ นี้ ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และดิฉันเชื่อว่าความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่นจะคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ทุเลาลง
นางสาวพิมพ์ภัทรา ณ กาฬสินธุ์
เจ้าหน้าที่ประมวลและวิเคราะห์ข่าว
กรมสารนิเทศ
อ้างอิงจาก:
https://mainichi.jp/english/articles/20211119/p2a/00m/0li/021000c
https://www.th.emb-japan.go.jp/th/relation/
https://www.mfa.go.th/th/content/weeklypressbriefing20102564
https://site.thaiembassy.jp/th/info/article/detail.php?ID=10585
1 บันทึก
5
1
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย