15 ก.พ. 2022 เวลา 02:00 • บ้าน & สวน
ถือว่าเป็นข่าวดีรับปีใหม่ 2565 สำหรับคนกรุงเทพมหานคร ที่กระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ ร่วมกับกองทัพบก และการยาสูบแห่งประเทศไทย เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและรับผิดชอบในการจัดสร้างสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” เนื้อที่รวมประมาณ 453 ไร่ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ สวนน้ำ เนื้อที่ประมาณ 130 ไร่ ที่แล้วเสร็จและเปิดใช้อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 2535 และสวนป่าส่วนใหม่ที่ปัจจุบันได้ก่อสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อย และในส่วนงานที่เหลือมีกำหนดแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนเมษายน 2565
1
ความพิเศษของสวนเบญจกิติเฟสใหม่ที่เพิ่งเสร็จสมบูรณ์ไปไม่ใช่เพียงการปลูกต้นไม้และทำทางเดินสำหรับวิ่งและออกกำลังกายเช่นเดียวกับสวนสาธารณะทั่วไปที่เราเคยรู้จัก สวนแห่งนี้ออกแบบให้มีพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่สำหรับสร้างระบบนิเวศเลียนแบบธรรมชาติที่สมบูรณ์ ซึ่งป่าต้องอาศัยความชุ่มชื้นจากแหล่งน้ำธรรมชาติเหล่านี้หล่อเลี้ยงพืชพันธุ์ในสวน อีกทั้งภูมิประเทศเดิมของกรุงเทพมหานครเองก็เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความหลากหลายทางชีวภาพที่ซับซ้อนของพันธุ์พืชและสิ่งมีชีวิตจำนวนมากที่กำลังสูญหายไปจากการขยายตัวของเมืองอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว สวนทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำที่รับเอาน้ำที่ระบายไม่ทันและกำลังท่วมขังมากักเก็บและช่วยบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีธรรมชาติ กลายเป็นพื้นที่หน่วงน้ำในกรณีที่มีน้ำมากเกินความจำเป็นและเป็นสาเหตุของปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะน้ำจากคลองไผ่สิงโตที่อยู่ทางทิศเหนือของสวน
บึงน้ำทั้งหมดในสวนสามารถรองรับน้ำได้ถึง 128,000 ลูกบาศก์เมตร และนำมาใช้ประโยชน์ในช่วงฤดูร้อนเพื่อประหยัดน้ำสำหรับที่ใช้รดและดูแลสวน
เกาะกลางน้ำในสวนน้ำเบญจกิติเป็นการดึงเอารูปแบบของ”ท้องร่อง”ซึ่งเป็นการทำเกษตรตามภูมิปัญญาของคนในบริเวณกรุงเทพมหานครเดิม ซึ่งใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำที่อยู่รอบๆ ทำให้ต้นไม้ที่ปลูกอยู่ในท้องร่องได้รับความชุ่มชื้นเสมอโดยไม่ต้องรดน้ำ ขณะเดียวกันโคกที่สูงก็ช่วยให้รากต้นไม้อยู่เหนือจากระดับน้ำท่วมถึงได้
เส้นทางเดินผ่านบึงเพื่อเป็นการได้ออกกำลังกายและศึกษาพรรณไม้น้ำจืดรวมถึงระบบนิเวศของสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีทั้งสัตว์น้ำและนกที่มาอยู่อาศัยในธรรมชาติแบบบึงน้ำจืดเป็นจำนวนมาก
ในบึงน้ำมีพรรณไม้หลายชนิดที่สวยงามและเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำและหาอาหารของนก ทั้งบัวหลวง กกธูปฤาษี ตาลปัตรฤาษี ผักบุ้ง และพุทธรักษา
บัวหลวงออกดอกสีชมพูสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องดูแลมากมายเหมือนบัวที่ปลูกเลี้ยงในอ่างบัว
การออกแบบพรรณไม้ในสวนจะเก็บต้นไม้เดิมไว้ทั้งหมด โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ที่มีอยู่ 1,733 ต้น และยังเพิ่มต้นไม้ที่ลงใหม่ 7,155 ต้น โดยใช้พรรณไม้ที่เป็นพืชท้องถิ่นเดิมในบริเวณกรุงเทพมหานครกว่า 300 ชนิด ทั้งหมดจัดออกมาเป็นสวนแบบวนเกษตรที่ประกอบด้วยพรรณไม้พื้นบ้านและพรรณไม้ชายน้ำ กลายเป็นพื้นที่การเรียนรู้เรื่องพรรณไม้ในระบบนิเวศที่แตกต่างกันไป ทั้งพรรณไม้ป่าชายเลน พรรณไม้บึงน้ำจืด พรรณไม้ป่าดิบลุ่มต่ำและพรรณไม้ป่าดิบแล้ง นอกจากเป็นการอนุรักษ์พรรณไม้พื้นถิ่นที่กำลังมีจำนวนลดลงแล้ว ยังช่วยลดภาระจากการดูแลต้นไม้ด้วย เพราะต้นไม้เหล่านี้สามารถเติบโตได้เองในธรรมชาติของพื้นที่กรุงเทพมหานครอยู่แล้ว
การไหลของน้ำผ่านพรรณไม้น้ำและไม้ริมน้ำในบึงช่วยบำบัดน้ำได้โดยกรองสารแขวนลอย เพิ่มออกซิเจนในน้ำ รวมถึงเพิ่มค่า BOD
ศาลาสำหรับนั่งพักผ่อนกลางบึงออกแบบให้มีบันไดสำหรับขึ้นไปชมวิวในมุมสูงที่ดาดฟ้าบนหลังคาได้ รอบๆยังขึงสะลิงให้ไม้เลื้อยไต่เป็นม่านธรรมชาติสำหรับให้ร่มเงา
Skywalk สำหรับเดินชมสวนได้จากมุมสูงหรือใช้ออกกำลังกายโดยการเดินเร็วหรือวิ่งก็ได้
สวนวนเกษตรเป็นการผสมผสานต้นไม้หลายขนาด ทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และต้นไม้คลุมดิน โดยยังได้สีสันจากดอกไม้พื้นถิ่นอย่างพยับเมฆที่แบ่งบานสวยงามและใช้เป็นยาสมุนไพรได้
สำหรับต้นไม้ที่ปลูกใหม่ส่วนใหญ่จะใช้กล้าไม้มาปลูกเพื่อให้ต้นไม้สามารถเติบโตได้แข็งแรงและระบบรากลึกกว่าต้นไม้ล้อม
เส้นทางสำหรับส่งเสริมกายออกกำลังกาย แบ่งเป็นทางเดินลัดเลาะในธรรมชาติ 5.8 กิโลเมตร เส้นทางวิ่ง 2.8 กิโลเมตร และเส้นทางจักรยาน 3.4 กิโลเมตร โดดเด่นที่ทางเดิน Skywalk ระยะทาง 1.6 กิโลเมตรที่เดินเชื่อมต่อไปถึงสวนลุมพินี อีกหนึ่งสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียงได้ ส่วนโกดังเก็บใบยาสูบและโรงงานผลิตยาสูบยังเตรียมรีโนเวตเป็นอาคารกีฬาในร่มและอาคารพิพิธภัณฑ์ที่รองรับผู้ใช้งานได้ถึง 3,000 คน มีแปลงเกษตรสาธิตและอัฒจันทร์รองรับการจัดกิจกรรมได้กว่า 15,000 คน โดยทั้งหมดเป็นการออกแบบซึ่งยังอนุรักษ์คุณค่าของตัวสถาปัตยกรรมเดิมไว้อย่างครบถ้วน
ทางลอยฟ้าที่ใช้เชื่อมไปยังสวนลุมพินี อีกหนึ่งสวนสาธารณะที่อยู่ใกล้เคียงได้ เหมือนเป็นการขยายพื้นที่ใช้ประโยชน์สำหรับผู้ที่ใช้งานทั้งสองสวน
ร่องระบายน้ำแบบเปิดหรือ Bioswale ใช้สำหรับระบายน้ำผิวดิน โดยน้ำที่ซึมบางส่วนถูกดูดไปเลี้ยงต้นไม้รอบๆได้ระหว่างการระบาย คล้ายลักษณะทางธรรมชาติ
สวนสาธารณะแห่งนี้เปิดทำการทุกวัน เวลา 05.00 – 21.00 น. ตั้งอยู่ระหว่างถนนรัชดาภิเษกกับถนนดำรงค์พิทักษ์ (ทางด่วนขั้นที่1 ช่วงถนนเพลินจิต-พระราม4) แต่ปัจจุบันสวนยังไม่ได้เปิดใช้งานเต็มพื้นที่ จึงต้องเข้า-ออกผ่านทางถนนรัชดาภิเษก สามารถเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะโดยรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีอโศก หรือ MRT สถานีสุขุมวิทและสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หากขับรถยนต์ส่วนตัวมาที่สวนสาธารณะ ประตูเข้า-ออกสำหรับจอดรถจะเปิดช่วงเช้า เวลา 05.00 – 09.00 น. และช่วงบ่ายเวลา 16.00 – 21.00 น. เท่านั้น
1
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >>> https://bit.ly/3JeMpyQ
คลังสาระความรู้เรื่องบ้านและพรรณไม้ยังมีอีกมากมาย อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ www.baanlaesuan.com
โฆษณา