15 ก.พ. 2022 เวลา 00:41 • ปรัชญา
ผมคิดว่าเราไม่ต้องลองสมมติก็ได้ ้เพราะโลกนี้จริงๆมันก็คือโลกของ metaverse หรือโลกเสมือนจริงที่ไม่ใช่ความจริงแต่เราไม่รู้ตัว ความจริงเป็นสิ่งสมบูรณ์ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เป็นอยู่ยังไงก็อยู่อย่างนั้นและไม่มีวันสูญสลายไป แต่กับโลกของเรา เรามั่นใจได้อย่างไรว่า โลกจะคงอยู่ตลอดไปชั่วนิรันดร์ เราจะเกิดเป็นมนุษย์ตลอดไปชั่วนิรันดร์ ถ้าโลกแตกสลายเนื่องจากดาวหางพุ่งชน แล้วเราตายไป เราจะไปอยู่ไหน? เวลาเรานอนหลับตัวตนเราหายไปไหน โลกของเราก็หายไปด้วย เวลาเราไม่มีความคิดหรือตอนที่จิตดําดิ่งสู่ความสงบในสมาธิ โลกก็อันตธานหายไปเช่นกัน
ในปรัชญาของจวงจื่อ ซึ่งเป็นปรมาจารย์ของลัทธิเต๋า เคยกล่าวว่า ครั้งหนึ่งจวงจื่อนอนหลับ และฝันไปว่าตัวเองเป็นผีเสื้อโบยบินไปมาเที่ยวเกาะดอกไม้อย่างมีความสุข เมื่อจวงจื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองเป็นมนุษย์ มิได้เป็นผีเสื้อแต่อย่างใด จวงจื่อตั้งคําถามอันน่าคิดว่า เราเป็นมนุษย์แล้วฝันถึงผีเสื้อหรือว่าเราเป็นผีเสื้อ ที่ฝันว่าเป็นมนุษย์กันแน่
เราโดยเนื้อแท้ เป็นใคร เป็นอะไร มาจากไหนก็ไม่มีใครรู้ เคยสงสัยหรือไม่ว่าทําไมเราจึงมีความฝันแปลกๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับโลกมนุษย์ หรือฝันถึงอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โลกมนุษย์เป็นเพียง metaverse ส่วนหนึ่งในจักรวาลให้ตัวตนหรือจิตวิญญาณลงมาสัมผัส ประสบการณ์ใหม่ๆในร่างของมนุษย์ ยังมี metaverse อีกเป็นล้านๆจักรวาล ที่เราอาจเคยไปอยู่มาแล้วหรือยังไม่เคยก็ได้ อย่าคิดว่า metaverse มันเป็นเพียงแค่เกมส์ หรือโลกเสมือนจริง ที่ถูกมนุษย์สร้างและจําลองขึ้นมา
โลกที่เราอยู่นี้ก็ถูกจําลองขึ้นมาเช่นกัน แต่ทําให้ดูเหมือนว่าเป็นโลกแห่งความจริงที่ ทุกอย่างมีตัวมีตน ดูเหมือนอะไรๆก็สมจริงไปหมด ในความเป็นจริงที่แท้จริงเราอยู่ในเมตริกซ์ ซ้อนเมตริกซ์ลงไปเรื่อยๆหลายชั้นต่างหากใน ทางพระเขาเรียก เมตริกซ์หรือmetaverse นั้นว่า วัฏสงสาร และจริงๆเราเป็นใคร เรามีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ อะไรคือความจริงอะไรที่ไม่จริงกันแน่ต้องลองหาทางพิสูจน์ดูว่า ตัวตนจะดํารงค์อยู่ตลอดไปหรือไม่? ความตายมีจริงหรือไม่ เราตายแล้วไปไหนหรือสูญสลายไปชั่วนิรันดร์
โฆษณา