16 ก.พ. 2022 เวลา 04:34 • ปรัชญา
ที่จริงเรื่องราวในพุทธศาสนา กล่าวไว้ชัดเจน ในเรื่องราวต่างๆของจิต จิตที่มาเกิดในโลกมนุษย์ มาจากภพภูมิที่แตกต่างกัน จิตที่สูงก็มี จิตมาจากที่ต่ำก็มี ต่างต้องมาสะสม บ้างก็สะสมกรรม บ้างที่สะสมบุญบารมีนั้นเป็นส่วนน้อยนิด เราก็ลองเปรียบเทียบดู ว่าในโลกเอาเฉพาะสัตว์บกมีกี่ดวงจิต มันประมาณไม่ได้ แล้วจิตทุกดวง เค้าก็ต้องการเกิดมาเป็นมนุษย์ เพราะจะได้สร้างบารมีได้ เป็นเทพยดาอินทร์พรหมก็ต้องมาเกิดเป็นมนุษย์ แต่เวลามาเกิดเป็นมนุษย์ เค้าก็ปิดเรื่องต่างๆในอดีตชาติที่ตนเป็นมา ที่เค้าบอกว่าให้กินน้ำลืมก่อนมาเกิด บางคนก็แอบไม่ดื่มก็มี ที่เค้าให้ลืมก็เพราะ เดี๋ยวมาจะจองเวรมาเข่นฆ่ากันอีก แกเคยทำข้า ตอนข้าเป็นสัตว์ เอาข้ามากิน อะไรต่างๆมากมาย นั้นก็เป็นเรื่องที่เค้าให้ลืม
คราวนี้ เรื่องราวศักยภาพของวิญญาณหกของมนุษย์ มันเป็นมิติ ที่เค้าเรียกว่า กายหยาบ คราวนี้ในสิ่งที่เราอยากจะรู้ อยากพิสูจน์ เรื่องที่เราไม่สามารถรับรู้ได้ ในเรื่องราวของคำสอนนั้น เราต้องมีการประพฤติปฏิบัติธรรม ต้องทำให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดบุญกุศลบารมี จะใช้คำว่าอะไรดี ทำไปในลักษณะที่เรียกว่า สุจริตธรรมก็แล้วกัน เราศึกษาไป เราก็อาจจะพบเห็นในสิ่งที่เค้าเรียกว่า นามธรรม ได้เห็นในสิ่งที่ เค้าเรียกว่าธรรม..ท่านเปิดให้เห็นให้ จิตศึกษา เป็นมโนทศึกษา แม้เรื่องราวของคำว่า ไสยศาสตร์ เค้าก็ให้เรียนรู้ ว่าเป็นอย่างไร จิตวิญญาณที่ถูกกระทำด้วยคาถาอาคมเวทมนต์ทุกข์ทรมานอย่างไร เค้าก็ให้ศึกษา แต่เราไม่ใช่คนไปกระทำเรื่องพวกนั้นให้ตัวเองมีกรรม แต่เราเรียนรู้เพื่อไม่ไปยุ่งเกี่ยว หนีเรื่องราวเหล่านี้ มิให้มาปนเปื้อนในจิตของเรา
มโนทศึกษา ตรงนั้นแหละ ที่เราจะเรียนรู้จัก เรื่องราวของภพภูมิบ้าง ถ้าจะเรียนเรื่องราวให้ลึกซึ้งเข้าไปอีก ก็ต้องอาศัยเรื่องราวของนิโรธสมาบัติ เหมือนถอดจิตไปศึกษาเรื่องภพภูมิ แต่ก็ขึ้นอยู่กับบุญบารมีของตัวเองอีกว่าสะสมมาได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนผู้ที่มีบุญบารมีจริงท่านก็ทำจิตเหมือนกระพริบตาก็ไปได้เลย ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับพระเจ้า มันเป็นเรื่องที่เค้าเรียว่าธาตุทั้งสี่ ที่ตัวเองมาอาศัย กระทำชำระสะสาง ยุติกรรมที่ทำให้มาเกิด เรื่องราวของกรรม เรื่องราวกฎระเบียบในแต่ละภพภูมิเค้าก็มีของเค้า เค้าไม่มีประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งแบบมนุษย์ สังคมนิยมอะไร เค้าเคารพกันที่จิตมีคุณธรรมมีบารมีต่างหาก และรัศมีบารมีของดวงจิต เค้าเรียกว่าจิตมีแสง
แม้แต่พวกเทพ เค้าก็รู้ว่าจิตมนุษย์มีความลำบาก มีทุกข์ แต่เค้าก็ไม่สามารถยื่นมือมาช่วยเหลือ เหมือนมนุษย์ด้วยชอบกล่าวอ้างกัน เพราะเค้ามีกฏของกรรม ที่อยู่กับดินฟ้าอากาศ ใครเป็นผู้สร้างกรรม กระทำกรรม ก็ต้องแก้ไขด้วยตัวเอง ถ้าเราศึกษาตามรอยขององค์พระสิทธัตถะจริง มีความจริงใจแบบท่าน เดินตามท่านด้วยกิริยาทั้งสี่ ยืนเดินนั่งนอน จนไปถึงคำว่าธรรม อะไรก็ปิดจิตเราไม่ได้ เพราะจิตเป็นธรรม มีธรรมเป็นที่พึ่ง ที่ต้องประพฤติปฏิบัติธรรม ด้วยกายวาจาใจของตน
ขอให้มีธรรม เป็นที่พึ่งเถิด อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเลย เมื่อจะพึ่งธรรม ก็เมตตากรุณาจิตของตัวเอง สร้างบุญสร้างกุศล ประพฤติปฏิบัติธรรมให้เป็นนิจสิน ธรรมก็หนุนนำให้จิตมีบารมี หนีเวรกรรม กายมีบุญ จิตมีธรรม ก็สุขทั้งกายทั้งจิต
เรื่องราวความเป็นมาเป็นไป ของมนุษย์ ในความเชื่อความยึดถือ อ่านเรื่องพระแม่พระธรณีนี้ดู เป็นแนวทาง https://www.blockdit.com/posts/61a7a15f43c77a0c96ed6337
โฆษณา