Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
จเด็จ กำจรเดช
•
ติดตาม
16 ก.พ. 2022 เวลา 04:51 • นิยาย เรื่องสั้น
ในที่สุดพ่อก็เป็นใบ้สมใจเธอ
สมัยวัยรุ่นเธอโกรธพ่อถึงขนาดแช่งว่าพ่อน่าจะเป็นใบ้ไปเสีย เธอแค่หนีเที่ยว และทำเรื่องบ้าๆบางเรื่อง เรื่องที่พ่อเธอจัดให้ไปอยู่ในโหมดบ้าๆก็เช่น แอบไปนอนบ้านแม่ พ่อเกลียดแม่หรือ คงจะที่สุด
เลิกเรียนเย็นวันศุกร์แล้วเธอก็แอบขึ้นรถสองแถวเข้าเมือง เธอรู้ว่าพ่อหุงข้าวรอ อาจจะมีกับข้าวของโปรดให้ด้วย แต่เธอคิดถึงแม่และน้องชายอีกสองคน วันอาทิตย์โน่นแหละแม่จึงขับมอเตอร์ไซค์มาส่งหน้าบ้านย่า พ่อขับมอเตอร์ไซค์กลับจากเที่ยวพอดี แม่เห็นพ่อก็รีบออกรถ พ่อขับไล่ตามแม่ไป ปากตะโกนด่าไปเรื่อย แม่ขับหนีตามองไปข้างหน้า คงจะสักสิบกิโลแล้วนั่นแหละพ่อจึงถอย ฟาดเธอสิบทีด้วยไม้หวายที่เตรียมไว้รอ ต่อด้วยการบ่นสั่งสอนแบบมาราธอน เธอร้องไห้ตลอดสองชั่วโมงในห้องรับทัณฑ์ทรมาน จากนั้นก็ขังตัวเองทั้งคืน พ่อล้างผักที่เก็บมาจากข้างรั้วหลังน้ำพริกเสร็จรอบนโต๊ะ ขณะเคาะประตูเรียกเธอออกไปกินข้าว คล้ายพ่อลืมบทลงโทษเมื่อสักครู่ไปแล้ว
เธอกับพ่อทะเลาะกันบ่อยและยิ่งรุนแรง ความผิดก็หนักหนาขึ้นเรื่อยๆ มีผู้ชายมารับส่งที่บ้าน เรื่องนี้พ่อไม่ทน เธอก็ไม่ทน สาบานว่าจะไม่พูดกับพ่ออีก ขณะเก็บข้าวของใส่กระเป๋า พ่อบอกว่าออกไปแล้วไม่ต้องกลับมาบ้านนี้อีก เธอบอก เออ ไปแล้วก็ไม่ต้องมาเรียกกูว่าพ่อ เธอบอก เออ กูตายก็ไม่ต้องมาเผาผี เออ ขณะนั่งรถเด็กหนุ่มนั่นเคลื่อนออกไป เธอไม่หันกลับไปมอง นึกเห็นปากพ่อขยับบ่นและด่าเธอไม่หยุด เธอปิดปากสนิทแต่ในใจแช่งชักให้พ่อเป็นใบ้
เธอออกไปแค่เจ็ดปี คำสาปแช่งด่าก็แค่ขี้ปาก เธอไปนาน แม้ไม่นานมากแต่ก็นานพอ จากเด็กมัธยมเติบโตเป็นสาว เสียตัวมาแล้ว เปรี้ยวหวานมันเค็มซ่านอยู่ในทุกสัมผัส พ่อเข้ามากอดเมื่อเห็นเธอยืนที่ลานหน้าบ้าน พ่ายแพ้อกหักยับเยิน ผิดหวังมาใช่ไหม เข้าบ้านก่อน เดี๋ยวทำกับข้าวกินกัน
กว่าคำสาปแช่งจะทำงาน พ่อก็อายุห้าสิบโน่นแหละ
พ่อถูกเจาะคอ กินอาหารเหลวทางรูนั้น ฟันถูกถอนหมดปากตอนฉายแสงครั้งแรก พ่อไม่เปล่งคำพูดใดออกมาได้นับจากนั้น
หลังรักษาตามขั้นตอนจนถึงวันที่เจาะคอ พ่อหงุดหงิดขัดใจเมื่อพูดไม่ได้เหมือนเก่า ทำมือทำไม้ส่งภาษาใบ้อย่างขัดเคือง จะสื่อสารแบบลึกละเอียดต้องเขียนบนกระดาษ เธอมีสมุดฉีกที่ใช้เขียนโพยหวยให้พ่อหนึ่งเล่ม จากนั้นการสื่อสารของเธอกับพ่อก็พัฒนาจนไม่ต้องใช้จดหมาย เธออ่านปากพ่อได้ถึงขั้นว่าเป็นล่ามให้ตอนญาติๆมาเยี่ยม
รักษาอยู่หนึ่งปี มะเร็งหายไป ทิ้งรูไว้ที่คอของพ่อ พ่อต้องทำอาหารเหลวกินเอง ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แค่ไม่ต้องพูด ยังขับรถไปซื้อของเองได้ ทำกิจกรรมโปรดได้ทุกอย่างยกเว้นร้องคาราโอเกะ บางคืนพ่อออกไปดูบอลที่ร้านกาแฟแม้เธอจะห้าม ไปเจอคนเยอะๆเสี่ยงที่จะติดเชื้อ พ่อมีผ้าเช็ดหน้าผูกคอตลอดเวลา ดูเท่และรอยยิ้มทารกก็ลบภาพโหดเข้มในตอนวัยรุ่น แต่ถึงพูดไม่ได้พ่อก็ไม่หยุดบ่น เธอแกล้งไม่มองหน้าตอนที่กลับมาจากเที่ยว รู้ว่าพ่อกำลังบ่น ไม่ได้บ่นอะไรมากมาย พ่อเกรงใจอยู่บ้างที่เป็นภาระลูกสาว แต่พ่อก็ยังเป็นพ่อ บ่นไปเพราะห่วงใย
แม่เป็นมรดกของน้องชายสองคน พ่อเป็นมรดกของเธอ สิบปีที่พ่อเป็นคนใบ้ เธอไม่จำเป็นต้องส่งภาษาใดกันอีก แค่พ่อขยับ เธอรู้ว่าพ่อต้องการอะไร
สิบปีเต็ม พ่อหายใจขัดและมีเสลดมากผิดปกติ
มันกลับมาอีกครั้ง
การรักษาเริ่มรอบใหม่ ซ้ำเดิม แต่ยากกว่าเดิม ไม่มีที่ให้ตัดหรือเจาะอีก มีแค่ฉายแสงและให้คีโม สิบปีนั้นยื้อชีวิตพ่อ แต่กับเธอ พ่ายพังหมดทุกทาง
เธอเช่าบ้านพักข้างโรงพยาบาล เช้าขึ้นมาพาพ่อมาถึงหน้าตึก พ่อลงเดินไปที่ห้องบัตร เธอวนหาที่จอดรถก่อนจะเดินมานั่งรอคิวเรียก กว่าจะถึงคิวก็ล่วงไปช่วงบ่าย ล่วงขั้นตอนรักษาไปถึงตอนให้คีโม โชคดีที่มีเตียงว่าง เธอปล่อยให้พ่ออยู่กับพยาบาลแล้วกลับไปนอนที่ห้องพัก มีเวลาทะเลาะกับคนรักสักเล็กน้อยถ้าโชคดี มีเวลาหลับบ้างก่อนจะตื่นเช้าแต่งตัวไปโรงพยาบาล
คนรักของเธอ มะเร็งที่เธอได้ตอนที่พ่อป่วย เธอพบเขาระหว่างการรักษาพ่อ เรื่องนี้ถือว่าเสมอกัน เธอกับพ่อเป็นมะเร็งคนละชนิด ผิดแต่ว่ามะเร็งของเธอไม่สามารถฉายแสงและให้คีโม
สิบปีพรากความสาวและเรี่ยวแรงทั้งหมด เธอแท้งมากกว่าสามครั้ง ขูดมดลูกจนหมอแนะนำให้เธอวางแผนการตั้งครรภ์ให้เคร่งครัด คนรักเธอไม่เคยอยู่ตอนที่เธอไปนอนให้หมอขูดมดลูก ไม่เคยสักครั้ง
เขา-คนรัก มะเร็งรังไข่ของเธอ
คืนก่อนเธอปวดท้องจนลุกไม่ไหว โทรบอกพ่อว่าไข้หวัด พ่อเคาะรับรู้ในสมัยที่โทรศัพท์ยังเป็นปุ่มกด เดี๋ยวนี้พ่อรับฟังแล้วส่งไลน์ตอบ เธอโทรหาเพราะพ่อสบายใจกว่าถ้าได้ยินเสียง เธอจะไม่เข้าไปโรงพยาบาล พ่ออยู่ได้ พยาบาลดูแลทุกอย่างอยู่แล้ว แม้พ่ออิดออดตอนพยาบาลจะเช็ดตัวให้ พ่ออายพยาบาลแต่ไม่อายลูกสาว ไม่ใช่เรื่องอายแต่พ่อเกรงใจไม่อยากเป็นภาระคนอื่น คนที่แคล่วคล่องว่องไวมาตลอดชีวิต หดหู่ที่ตัวเองต้องให้คนมาเช็ดตัวให้หรือต้องประคองให้ลุกมาอ้วก แต่สบายใจที่ลูกจัดการให้ทุกอย่าง
มีบางช่วงที่พ่อหมดแรง เธอเช็ดตัวให้ชนิดไม่เหลือพื้นที่ว่าง หลังดึงสายยางที่สวนปัสสาวะออก เธอสวมถุงมือยาง ยกจับอัณฑะพ่อเช็ดผ้าหมาดในซอกอับทั้งหลาย จับเครื่องเพศเหี่ยวๆของพ่อรูดหนังหุ้ม เช็ดกวาดไปตามรอยหยัก เช็ดทั่วหมดแล้วรูดกลับ พูดหยอกพ่อว่ามันยังใช้งานได้ไหม พ่อยิ้ม ส่ายหัว หลังหย่ากับแม่ยี่สิบกว่าปีก่อนพ่อก็ไม่เคยแต่งงานใหม่ เธอบอกให้หาใหม่พ่อก็ยิ้มส่ายหัว
ช่วงให้คีโมส่วนมากพ่อจะนอนยาว พยาบาลจะประเมิณอาการว่าแพ้มากแค่ไหน เธอคิดว่าพรุ่งนี้น่าจะหาย คนรักยังไม่รับสาย มะเร็งของเธอมีเปอร์เซ็นการรับสายเป็นศูนย์โดยปกติ
เธอนอนข่มความเจ็บจนเกินฝืน คลานไปแต่งตัว ขับรถออกไปโรงพยาบาล เลือกโรงพยาบาลอื่นเพื่อจะได้ไม่เจอพ่อ บางครั้งพ่อก็ซุกซนหนีลงมาเดินเล่น เธอโทรหาคนรักอีกทีเผื่อเขาจะมาทัน
หมอฉีดยาให้แล้วปล่อยกลับมานอนที่ห้องพัก ไอ้มะเร็งรังไข่ของเธอยังไม่โทรกลับ เธอพยายามหลับ สามชั่วโมงผ่านไป เธอลากร่างไปหาหมออีกครั้ง หมดเวลางานแล้ว หมอเวรตรวจแล้วแนะนำว่าต้องไปโรงพยาบาลใหญ่ เธอต้องได้พบหมอเฉพาะทาง เธอโทรหามะเร็งรังไข่อีกครั้งขณะขับรถ เขาไม่รับสาย ไม่เป็นไร เธอมาถึงโรงพยาบาลที่พ่อนอนอยู่ ค่ำแล้ว ไม่มีเวลาวนรถหาที่จอด บุรุษพยาบาลเข็นเตียงมาเทียบหน้าตึก ตอนนั้นเธอก้าวขาไม่ออกแล้ว
ในห้องตรวจ เธอนอนอ้าซ่าบนขาหยั่งให้หมอและนักศึกษาแพทย์สิบคนรายล้อม เจ็บปวดเกินกว่าจะอาย อาจารย์หมอผู้หญิงบอกว่าเธอมีก้อนน้ำขนาดสักลูกฟุตบอลอยู่ที่รังไข่ ก้อนน้ำนะ เรียกรวมๆว่าท้องนอกมดลูก ถ้าช้าไปสักชั่วโมงก้อนน้ำนี่จะแตก มดลูกเป็นพิษ แปลว่าติดเชื้อนั่นแหละ เธอจะไม่รอด
เธอไม่โทรหาคนรักอีกแล้ว เธอมีเพื่อนใกล้ๆ เพื่อนต้องมาเซ็นเอกสารก่อนส่งเธอเข้าห้องผ่าตัด
เธอตื่นมาอีกทีตอนตีสี่ ในห้องผู้ป่วยรวม กลิ่นแอลกอฮอล์ล้างแผลอวลผสมกลิ่นเลือด กลิ่นโลหะชื้น เตียงเหล็กขึ้นสนิมและกลิ่นน้ำยาซักผ้า เธอควานหาโทรศัพท์ ส่งข้อความบอกคนรัก เธอขยับตัวไม่ได้จึงนอนนิ่ง น้ำตาไหลเปียกหมอนในความมืด กระทั่งแสงเช้าโผล่พ้นเหลี่ยมตึก
เธอส่งข้อความถามไถ่อาการของพ่อ แล้วบอกว่าหวัดยังไม่หาย แต่ไม่ต้องห่วง ไม่อยากให้ติดพ่อ พ่อส่งสติ๊กเกอร์ยิ้มกลับมา บอกว่าผักผ่อนเยอะๆ
ในห้องผู้ป่วยรวมของแผนกนี้คนไข้ล้วนเป็นผู้หญิง และทุกเตียงล้วนมีคู่ โรคนี้เป็นได้เฉพาะผู้หญิง และสันนิษฐานว่าอาจต้องมีผู้ชายอยู่รับฟังข้อควรปฏิบัติอื่นๆ แต่เธอไม่มีใคร
เธอเห็นคนไข้แต่ละคนมีคนรัก ขนาดคนมีอายุยังมีสามีอยู่ด้วย แม้จะมีลูกคอยเฝ้าอยู่แล้ว เพื่อนเธอกลับไปตั้งแต่เมื่อคืน เธอมองถาดหลุมสเตนเลส อาหารเช้าเป็นฟักต้มบด กลิ่นยาและเลือดยังอวลไปทั้งห้อง มันปนอยู่ในอาหาร ติดมากับช้อน เธอไม่อยากกิน แต่ฝืนกินเพราะอยากหายเร็วๆ
หลังคอกกั้นซึ่งเป็นที่ทำงานของพยาบาลมีหน้าต่างที่นำสายตาไปสู่ตึกหนึ่ง เธอจำได้ ตึกสูงสุดในโรงพยาบาลแห่งนี้ พ่อนอนพักอยู่บนชั้นที่แปด ตอนเย็นๆเธอจะออกไปที่ระเบียงตึกนั้น มองตะวันลับเหลี่ยมตึก ถ่ายรูปเก็บไว้ บางทีก็ชวนพ่อออกไปเดินเล่น ตอนนี้เธอเพ่งมองเผื่อว่าจะเห็นพ่อจากมุมนี้ แต่เธอหวังว่าพ่อจะไม่ซุกซนเดินมาเล่นตึกนี้นะ
ช่วงบ่ายอาการเธอฟื้นมาบ้างแล้ว แต่ยังลุกเดินไม่ได้ พยาบาลบอกว่าเธอโดนตัดรังไข่ไปข้างหนึ่ง เธอยังมีลูกได้แต่ไม่ควรมี เธอเจ็บจนขยับไม่ไหวแต่ถ้าไม่ขยับเลยเธอจะไม่หาย เธอถามพยาบาลว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้วันไหน นี่เป็นการผ่าตัดปกติ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แผนกนี้มีคนไข้มาวันละหลายคน แต่ละคนอยู่พักฟื้นแค่สามวัน ถ้าไม่ติดเชื้อ มีแค่คนที่ไม่ยอมขยับตัวเท่านั้นที่อยู่นาน
เธอรู้กำหนดการของพ่อ นับแล้วอีกสามวันเธอจะต้องหาย พ่อจะออกจากโรงพยาบาลราวๆเที่ยง แต่ก่อนหน้านั้นเธอต้องไปยื่นเอกสารอะไรให้เสร็จสิ้นและรับยาจากชั้นล่าง ถ้าเธอหายดี หมอจะขึ้นตรวจตอนแปดโมง เธอจะเสร็จเรื่องจากที่นี่ไม่เกินสิบโมง มีเวลาทันที่จะไปยื่นเอกสารให้พ่อ เธอต้องหาย
จากนั้นเธอก็ทำทุกอย่างตามที่หมอบอก พยายามลุกขึ้นนั่ง แม้ว่าจะเหมือนซอมบี้ เธอเห็นท่าทางตัวเองสะท้อนจากท่าทางของเพื่อข้างเตียง สามีของคนไข้ข้างเตียงช่วยเธอได้เยอะ หลังจากพูดคุยและรู้แล้วว่าสามีเธอไม่อยู่ เขาออกทะเล เธอโกหก เขาทำงานที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน ไอ้มะเร็งเอ๊ย ทำไมเธอต้องแก้ตัวให้เขา น่าจะบอกว่าคนรักเธอเลวทรามต่ำช้า แต่นั่นจะทำให้ภาพเธอเองแย่เช่นกัน
เธอกินน้ำกินยากินอาหารเคร่งครัด ลุกเดินได้แล้ว เดินไปหยิบกะละมังเข้าไปเช็ดตัวในห้องน้ำ เธอพกเครื่องสำอางและแต่งหน้าไม่ให้ตัวเองดูเหมือนคนป่วย ช่วยเหลือคนไข้ผู้มาใหม่ได้ด้วย พยาบาลชมว่าเก่ง เปรียบเทียบกับเตียงตรงข้ามว่าขี้เกียจ เอาแต่นอนอ้อนผัว คนไข้เตียงนั้นค้อนเธอทั้งวัน
ถ้าจะหายเร็วๆต้องหัดเดิน หมอบอก แผลจะสมานเร็วถ้าเคลื่อนไหว แต่ต้องเหมาะสม
วันที่สองเธอเดินจากปีกตึกนี้ไปอีกปีกหนึ่ง ผ่านคนไข้รอตรวจของแผนกอื่น เดินทีละก้าวช้าๆ ท่องไปตลอดทางว่าฉันต้องหาย นอกห้องมีลมไหลเวียนหายใจโล่ง เธอนั่งรับลมอยู่สักพัก เธอเดินลงบันไดไปชั้นล่าง ทุกชั้นมีแต่คนรอตรวจ ลมร้อนและควันรถยนต์ลอยมาตามช่องทางเดิน เธอเผลอมองหาคนรักไปตามกลุ่มคนที่เดินไปมา ถอนใจแล้วเดินขึ้นมานั่งพักหน้าห้องการเงิน
คืนนั้นพยาบาลแจ้งว่าเธอมีไข้ ใจสลาย ที่เข้มแข็งมาตลอดพังทลาย
ไข้สูงเพราะเธอติดเชื้อ หมอไม่สั่งให้คนไข้กลับแน่
เธอโทรหาเพื่อนอีกครั้ง นัดแนะให้โกหกแบบนั้นแบบนี้ เพื่อนต้องไปเอาเอกสารที่ห้องบนชั้นแปดของพ่อ จากนั้นให้เอาเอกสารมายื่นช่องยี่สิบห้า แล้วเดินไปจ่ายเงินช่องสามสิบสี่ กลับมารอรับยา แล้วกลับไปที่ชั้นแปด พ่อจะเปลี่ยนเสื้อผ้ารอ เพื่อนต้องไปส่งพ่อที่ห้องพัก เธอส่งข้อความบอกพ่อแล้วว่าเธอต้องไปเอาเอกสารที่ศูนย์มะเร็งจังหวัดต้นทางคนไข้ เรื่องเร่งด่วน
เช้าวันที่สาม หมอไม่ให้กลับตามคาด เธอนอนกลั้นน้ำตาหมอนปิดหน้า
เธออาจเดินมากไปหรือลงไปในที่คนเยอะ ๆ เธอติดเชื้อ กลั้นร้องไห้จนเหนื่อยใจแล้วโทรหาเพื่อน เพื่อนกำลังรอรับยา คนรักยังไม่ติดต่อกลับ เธอเผลอจ้องประตู ซึ่งเธอนึกหวังตลอดว่าเขาจะเดินผ่านประตูเข้ามา พร้อมขนมจีนสักถุง เธอไม่ได้หิวขนมจีน แต่ชอบกินขนมจีน เขามีข้อดีอย่างเดียวคือมีเรดาห์หาร้านขนมจีนอร่อยๆได้ในทุกจังหวัดที่ขับรถผ่าน แต่ตอนนี้เธอกลับอยากกินอะไรหวานๆ คนป่วยแบบเธอนึกอยากกินไปเรื่อย เธอนึกถึงข้าวเหนียวหน้าไข่ของพ่อ พ่อเป็นโปรเรื่องนี้ ย่าอาจทำกับข้าวอร่อย ป้าๆน้าก็ทำกับข้าวเก่ง แต่เวลาอยากข้าวเหนียวหน้าไข่ ทุกคนต้องให้พ่อทำ กลิ่นไข่และรสข้าวเหนียวนึ่งใหม่หวานฉ่ำอยู่ใต้ลิ้น เธอกำโทรศัพท์นิ่ง มองผ่านห้องพยาบาลไปที่ตึกชั้นแปด ป่านนี้พ่อคงเปลี่ยนชุดรอ
ใกล้เที่ยง เพื่อนไม่ติดต่อกลับว่าธุระเสร็จเรียบร้อยดีไหม เธอจับจ้องนิ่งค้างยังประตู ข้างนอกมืดทึบเพราะไม่โดนแสงใดๆส่อง แต่ที่ประตูนั้นส่องสว่าง
เขายืนอยู่ตรงนั้น
ผู้ชายขี้เล่น ร่างผอม ผ้าเช็ดหน้าสีแดงพันคอ ยิ้มแบบทารกเพราะฟันถูกถอนหมดเกลี้ยง
พ่อพยักหน้าแล้วเดินมาชิดเตียง มองเธอเหมือนเครื่องเอ๊กซเรย์ ยื่นมือมาอังหน้าผากเช็คว่าหายไข้ยัง พ่อหิ้วถุงมาด้วย แต่ข้างในไม่ใช่ข้าวเหนียวหน้าไข่ เป็นข้าวผัด ไม่อร่อยเท่าไร พ่อขยับปากบอก
พ่อหันไปที่เตียงข้างๆ ทำมือไม้และขยับปากบอกว่านี่ลูกสาว
ลูกสาว ลูกสาว
พ่อขยับปากซ้ำๆ
เธอเป็นคนไข้ระบบสืบพันธุ์ที่สมบูรณ์แล้ว มีผู้ชายเฝ้าไข้ เธอปล่อยให้พ่อป้อนข้าว พ่อยืนยันว่าขอให้พ่อทำสักครั้ง เช็ดตัวไหม แล้วพ่อก็ยกกะละมังใส่น้ำและผ้าผืนเล็กมาเช็ดหน้าให้เธอ เช็ดตามแขนและขา ลูบผ่านรอยไม้เรียวที่ยังไม่จาง
พ่อไม่บ่น เช็ดเนื้อเช็ดตัวอย่างตั้งใจ เธอยกมือแตะท้องตัวเอง บอกว่ามีหลานให้พ่อไม่ได้แล้วนะ
พ่อยิ้ม ปากที่ไม่มีฟันขยับบอกว่ากินข้าวเยอะๆ
พ่อนั่งหันหลังให้หน้าต่าง แสงจ้าข้างนอกทำให้เห็นพ่อเป็นเงาดำ เครื่องมือสแตนเลสแวววาวอยู่ในชั้นวางด้านหลัง ตึกแปดชั้นก็เจิดจ้าอยู่อย่างนั้น เธอควานมือหา มือของพ่ออยู่ใกล้ๆ ควานคว้าหาจับได้ทันที ราวกับมันอยู่ตรงนั้นเสมอ พ่อหันมาบีบมือเบาๆ ขณะอีกมือเช็ดน้ำตาให้เธอ
บันทึก
5
5
5
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย