โนสน โนแคร์รัฐบาลเป็ดง่อย !! (ตอนที่ 2)
ไฮไลต์
1.เสรีนิยม “ก้าวไกล” ยืนหนึ่ง อนุรักษ์นิยมร่างทรงหลายพรรคเป็นธรรมชาติการเมืองโลกประชาธิปไตย ตามยุทธศาสตร์ 2 ขั้วการเมืองสัญชาติไทยไฝว้กันไปมา
2. “เพื่อไทย” แลนด์สไลด์ผสมขั้วตั้งรัฐบาลทิพย์ !! จิ้ม “ภูมิใจไทย” ประกบพรรคขนาดกลางเล็ก ที่พอจะพูดคุยกันรู้เรื่อง ผลิตนโยบายร่วมกัน และมวลชนคงไม่โกรธมาก “พลังประชารัฐ” มีสิทธิ์วืดร่วมรัฐบาล “ก้าวไกล” ติดแค่เส้นแบ่งอุดมการณ์
พรรคการเมือง ร่างทรงอนุรักษ์นิยม !?
“อ.พิชาย” รศ.ดร. พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผอ.หลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ ชี้ว่า 2 ขั้วอุดมการณ์ทางการเมืองอนุรักษ์นิยมปะทะเสรีนิยมนั้น
จริง ๆ แล้วที่ไหนก็มี 2 ขั้ว “ไม่เป็นปัญหาเลย เป็นธรรมชาติของระบอบประชาธิปไตย”
เพียงแต่ว่าพอผลการเลือกตั้งมา ขั้วหนึ่งต้องยอมรับเสียงส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรต้องยอมรับ
แต่ประเภทที่เลือกตั้งแล้วชนะ.. ไม่ยอมรับ และอาศัยอำนาจอื่นมาเปลี่ยนแปลงระบอบประชาธิปไตยนั้นละคือปัญหา !!
แน่นอนว่าในสังคมไทยปัญหาแบบนี้ก็มีอยู่บ้าง คือ สำนึกของการมีประชาธิปไตยที่คำนึงถึงเสียงส่วนใหญ่ และความจริงการเลือกตั้งมันไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่อย่างเดียว ต้องดูการทำงานของรัฐบาลด้วยว่ามี “ธรรมาภิบาล” หรือไม่ ถึงจะเกิดการยอมรับได้
ที่นี้ 2 ขั้วในพรรคการเมืองไทย
“ขั้วอนุรักษ์นิยม” จัดเป็นเสียงข้างมาก โดยสไตล์ “อนุรักษ์นิยม” สนใจเรื่องชาติ ความเป็นไทย ชุมชน หรือเน้นนโยบายรักษาความปลอดภัย ความมั่นคงต่าง ๆ
แต่ว่าในแง่ “อนุรักษ์นิยม” ก็จะมีประเภทย่อย ๆ มีระดับแตกต่างกันไป
“เพื่อไทย” เป็นแนวอนุรักษ์ใหม่ เน้นพัฒนาเศรษฐกิจ เน้นเอกชนมาประกอบธุรกิจ ขณะเดียวกันถ้าเป็นพวก “ประชาธิปัตย์ - ภูมิใจไทย - พลังประชารัฐ” เน้นเศรษฐกิจที่รัฐเข้าไปแทรกแซง เข้าไปควบคุม
แน่นอนว่าการเข้าไปยืนยันในขนบธรรมเนียมตามสไตล์อนุรักษ์นิยม ที่พยายามรักษาสถานภาพของตนดีกรีก็ต่างกัน
“เพื่อไทย” มีดีกรียอมรับความเปลี่ยนแปลงได้บางระดับ แต่ “พลังประชารัฐ - ประชาธิปัตย์ – ภูมิใจไทย” ยอมรับเรื่องของการเปลี่ยนแปลงขนบฯ หรือโครงสร้างสังคมได้น้อยหน่อย
ส่วนพรรคเกิดใหม่ “ไทยภักดี - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” เป็นพวกอนุรักษ์นิยมเข้มข้นหรือขวาจัด
มาถึง “ขั้วเสรีนิยม” ยืนหนึ่งพรรคเดียว “ก้าวไกล” คือเป็นเสรีนิยมในทางสังคม แก่นเน้นส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของปัจเจกบุคคล เน้นเรื่องที่รัฐไม่ควรใช้กฎหมายหรืออะไรต่าง ๆ มาจำกัดการใช้เสรีภาพ รัฐมีหน้าที่เพียงคุ้มครองให้ประชาชนใช้เสรีภาพ “ก้าวไกล” แสดงจุดยืนเรื่องนี้..หนักแน่นมาก !!
แม้ว่าจะมี 2 ขั้วอุดมการณ์ แต่ซีก “เพื่อไทย - พรรคอื่น ๆ” มีปมความขัดแย้งที่เป็น “ตัวบุคคล”
“เพื่อไทย” มีเงา “นายห้างดูไบ - ทักษิณ ชินวัตร” เป็นแนวอนุรักษ์นิยมใหม่ ถ้าเอาจริง ๆ อุดมการณ์ทางสังคม...ไม่ได้แตกต่างจาก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เท่าไหร่ เพียงแต่..ในแง่เศรษฐกิจเขาต่างกัน
มันเป็นภาพความขัดแย้งของชนชั้นนำที่เป็นอนุรักษ์นิยม !!
“พอเลือกตั้งประเทศไทยมีความขัดแย้งในตัวบุคคลสูงนะ ถึงแม้ว่าจะคุยกันได้บ้าง..แต่ก็ไม่มองหน้ากัน”
แลนด์สไลด์การเมืองจัดตั้งรัฐบาลทิพย์ !?
“อ.พิชาย” ให้น้ำหนักเรื่องความชื่นชมในตัวลักษณะผู้นำ !!
“เพื่อไทย” คนยังเชื่อมโยงถึง “นายห้างดูไบ” เป็นความชื่นชมด้านการคิดค้นนโยบายใหม่ ๆโดยเฉพาะประชาชนภาคเหนือและอีสาน กอปรกับ “พลังประชารัฐ” แตกสลายเป็นหลายกลุ่ม โอกาสที่จะมีพลังจึงเป็นไปได้ยาก
เมื่อ “พลังประชารัฐ” อ่อนแอ บวกกับบริหารล้มเหลว บวกกับ “เพื่อไทย” ลุยทำงานในพื้นที่ มีเครือข่าย หัวคะแนนเข้มแข็งอยู่ บวกกับระบบการเลือกตั้งแบบใหม่อีก..เอื้อต่อชัยชนะพรรคเพื่อไทย !!
ถ้าวิเคราะห์ภายใต้เงื่อนไขแบบนี้ ??
“เพื่อไทย” ได้เสียงอย่างน้อย 200 – 250 แลนด์สไลด์จัดตั้งรัฐบาล..ตามคำโฆษณา
ส่วนพรรคอื่น ๆ เล็งว่าเป็น “พรรคขนาดกลาง” จำแนกตามเสียงได้ 3 ขนาด
(1) พรรคขนาดกลางค่อนไปทางเล็ก = เสียง 20 - 30 กว่า ๆ
ตกที่ “แรมโบ้ - รวมไทยสร้างชาติ” ของ “บิ๊กตู่” เพราะชัยชนะในการเลือกตั้ง ต้องประกอบด้วยคะแนนความนิยมในตัวหัวหน้าพรรค
ล่าสุดนิด้าโพลสำรวจคะแนนนิยม “บิ๊กตู่” ต่ำลงมาก เหลือแค่ 17 % จากเดิม 40-30 %
รวมทั้งกลไกที่ใช้จัดตั้งหัวคะแนน บารมีของ “แรมโบ้ - เสกสกล อัตถาวงศ์” จำกัดมากเป็นบางพื้นที่ ซึ่งพรรคใหม่นั้นยังไม่เชี่ยวชาญเหมือนกับ “ภูกองนัส - ธรรมนัส พรหมเผ่า” ได้ทำไว้
ในอดีตเราเคยได้ยินกันเยอะว่านักธุรกิจขนเงินไปลงเลือกตั้งหลายคนก็แพ้ !! ถ้าหากไม่มีเครือข่ายและการจัดการเข้มแข็งในพื้นที่
ถึงคิววัดใจ “กลุ่มสมศักดิ์ - สมศักดิ์ เทพสุทิน” ถ้ามองว่าพรรคเพื่อไทยชนะแน่ !! แค่ตัดสินใจ 2 ทางเลือก คือ ออกจากพลังประชารัฐไปตั้งพรรคใหม่เองหรือร่วมกับเพื่อไทย..อันนี้ต้องตัดสินใจเองว่าทางเลือกไหนทำให้เขาได้ประโยชน์ ได้ตำแหน่งทางการเมืองบ้าง
(2) พรรคขนาดกลางแบบกลาง ๆ = เสียง 40-50 กว่า ๆ “ประชาธิปัตย์”
(3) พรรคขนาดกลางค่อนไปใหญ่ = เสียง 60 – 70 “พลังประชารัฐ – ภูมิใจไทย”
สำหรับ “ก้าวไกล” ก้ำกึ่งระหว่างพรรคขนาดกลางค่อนไปทางเล็ก หรือแบบกลาง ๆ
สมมติว่า “เพื่อไทย” แลนด์ไลด์จัดตั้งรัฐบาล คำถามต่อมาคือจะจิ้มพรรคไหนเป็นพรรคร่วมรัฐบาลบ้าง..ที่พอจะพูดคุยกันได้ - ผลิตนโยบายร่วมกัน – และมวลชนคงไม่โกรธมากนัก
มงลง “ภูมิใจไทย” เพราะถ้าจิ้ม “พลังประชารัฐ” มวลชนคงโกรธมากขึ้น แต่จะเอา “ประชาธิปัตย์” ก็ต้องคิดหนัก เพราะมวลชนของ “เพื่อไทย” อาจะไม่ยอมรับเท่าไหร่ !!??
หันมาหาพรรคทางเลือก.. “พรรคสมศักดิ์”
ส่วนจะเลือก “ก้าวไกล” หรือไม่นั้น !? “เพื่อไทย” ค่อนข้างคิดหนัก เพราะอุดมการณ์เพื่อไทยกับก้าวไกลมีปมขัดแย้งกันหลายอย่าง และน่าจะพูดคุยกันยาก เพราะก้าวไกลยืนหยัดในอุดมการณ์เสรีนิยมแนวปฏิบัตินิยม
ฉะนั้นถ้ามีการเลือกตั้ง..ภาพชุดรัฐบาลใหม่ !?
เพื่อไทย + ภูมิใจไทย + พรรคขนาดกลางค่อนไปทางเล็ก --//--
.
เรื่องและภาพ : WhoChillDay
17 กุมภาพันธ์ 2565
ขอบคุณที่เข้ามาติดตามอ่านทุกเรื่องราว
และทักทาย WhoChillDay นะคะ
.
ติดตาม “โนสน โนแคร์ รัฐบาลเป็ดง่อย !! ตอนที่ 1 หมูไม่กลัวน้ำร้อน – มายาคติรัฐประหาร” ได้ตามลิงค์
#WhoChillDay #รัฐบาลเป็ดง่อย #รัฐบาลทิพย์
#พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต #อุดมการณ์
- 6
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
