17 ก.พ. 2022 เวลา 06:07 • ดนตรี เพลง
13 กุมภา 2022 ถือเป็นวันครบรอบการก่อตั้ง Red hot chili pepers อายุ 39 ปีบริบูรณ์ ถือว่าอยู่คู่วงการอัลเทอร์เนทีฟร็อคมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ ไม่เพียงแต่ยืนหยัดอยู่เสมอ แต่ยังสร้างผลงานใหม่ๆให้เข้ากับยุคสมัยและยังออกทัวร์อย่างต่อเนื่อง พูดถึงช่วงเวลา 39 ปีเป็นเวลาที่ยาวนานทั้งความยอดเยี่ยมและยอดแย่เกิดขึ้นมากมาย เรามาลองมองกลับไปถึงอดีต และนี่คือ
.
10 เหตุการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนของRHCPตลอด 39ปี
1.woodstock 1999
woodstock 99 เป็นคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นเพื่ออุทิศแต่การเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของ Woodstock 1969 ในสเกลที่พร้อมจุผู้คนหลายแสน
คนแต่เมื่อขึ้นชื่อว่า Woodstockยอดต้องมีความวุ่นวาย ยุ่งเหยิงและโกลาหล ที่ผู้จัดไม่สามารถรับมือได้ พร้อมทั้งปัญหาเดิมๆ การ
ขาดน้ำดื่ม ความแออัด และอากาศที่ร้อนกว่าหลายๆปีที่ผ่านมา ย้อนไป1969ผู้คนที่มางานต่างเป็นฮิปปี้ที่รักเสรีภาพและมาเพื่อ
ผ่อนคลายชิลไปปกับบบรรยากาศและเพลง แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้ ที่ผู็คนล้วนแล้วแต่เป็นวัยรุ่นที่ต้องการมาปลดปล่อยตัวเองไปกับ
ดนตรีที่เกรี้ยวกาจ รวมถึงพร้อมใจกันทำเรื่องแย่ๆมากมาย เกิดคดีการล่วงละเมิดทางเพศเป็น 100 คดีภายในงาน แต่นอกเหนือ
จากความชิบหายวายป่วงแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ยอดเยี่ยมนั้นก็คือการขึ้นเล่นเป็นวงปิดงาน ของ Red hot chili peppers ที่เพิ่งมือขึ้นหลัง
จากปล่อย Californiacation ไปหมาดๆ
1
.
.
Flea เดินขึ้นเวลาทีด้วยร่างเปลือยเปล่า พร้อมทั้งการโดดสะบัดไอ้จ้อนใส่สาธารณะชนก่อนจะสะพายเบส และเริ่ม soloเบสเป็นเวลา
หลายนาทีก่อนจะเลื้อยคอร์ดเข้าสู่อินโทรอันดุดันของเพลง " around the world "พร้อมไฟบนเวลาส่องสว่างขึ้น แสดงให้เห็นถึงการ
กระโดดเข้าสู่บทเพลงของ Anthony ด้วยลุคผมทองสวมเชิตผูกไทด์แบบหลวมๆ และการปรากฏตัวของ John และ Chad ทันใดนั้น
ความมันส์ก็เริ่มขึ้น ก่อนจะต่อด้วยการสะบัดกระเจ๊้ยวของ Flea ไปทั่วบริเวณก่อนจะดึงเข้าสู่อินโทร "Give it away"ได้อย่างเกรี้ยว
กาจ ด้วยความฟังค์กี้ดำเนินไปทั้งเพลงเก่าและเพลงใหม่ถูกนำมาเล่นทั้งหมด 14 เพลงด้วยกัน วงใช้เวลาแสดงไป
1 ชั่วโมงกับ 8 นาที ก่อนแฟนเพลงจะก่อกองไฟขนาดมหึมาขึ้นหลังพื้นที่ อย่างไรก็ตามนี้คือหนึ่งในโชว์ที่โด่งดังที่สุดของ RHCP
และหลายๆคนนิยามเหตุการณ์นี้ว่าเป็นการปิดฉาคยุค 1990sอย่างแท้จริง
รับชมได้ที่นี่ https://youtu.be/Q0ps-dJ9eX0
.
2.Live at Slane Castle 2003
ทางวงเคยเล่นที่นี่มาแล้ว 1 ครั้งในตอนที่เป็นวงเปิดให้กับ U2 แต่รอบนี้ ถึงคราวโชว์ของพวกเขาเองซึ่งเป็นโชว์ที่สเกลใหญ่ที่สุด
ของวงในขณะนั้น ด้วยผู้ชม 80,000 คน ตั๋วทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกจับจองเต็มทุกใบในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง มีวงที่เล่นเปิดด้วยกัน
5 วง ได้แก่ Foo Fighters, Queens of the Stone Age เป็นต้น ด้วยกลุ่มผู้ชมเมื่อเต็มความจุ ทำให้คอนเสิร์ตของวงครั้งนี้ดูยิ่งใหญ่
กว่าที่ผ่านๆมา
อาจเกิดจากเพราะความสำเร็จของอัลบั้ม By the way ที่วางขายไปเมื่อปีก่อนหน้า
โชว์เริ่มขึ้นด้วยการเดินออกมาประจำการของ 3 นักดนตรี Johnในลุคผมยาว Chad ใส่หมวกตามปกติ flea ใส่ชุดลายโครงกระดูก
มนุษย์ (เพื่อรำลึกถึงการจากไปของ John Entwistle ตำนานมือเบสแห่งวง the who ที่จากไปในปี2002 เนื่องด้วย John Ent.เคยใส่
ชุดลายกระดูกแบบเดียวกันนี้ขึ้นเล่นคอนเสิร์ต isle of wight เทศกาลดนตรีในตำนานเมื่อปี 1970) ,
การแจมเพื่อเปิดงานก็เริ่มขึ้น John เริ่มส่งเมโลดี้ให้ทั้งสามคนแจมกันอย่างดุดัน เหมือนทั้ง 3 จะรู้จังหว่ะของตัวเองเป็นอย่างดี
ก่อนที่ Johnจะเริ่มเล่นอินโทรเพลงฮิตของอัลบั้มใหม่ "By the way" ที่เร้าอารมณ์ให้กลุ่มคนดูเมามันส์และร้องตาม ก่อนที่เพลงจะจบ
ไป ทั้งสามยังอิมโพรไวซ์กันต่อเพื่อปูเข้าเพลง "Scar tissue" ซึ่ง เรียกเสียงผู้ชมได้มหาศาล "Scar tissue" เวอร์ชั่นนี้ John สร้าง
ท่อนโซโล่เพิ่มขึ้นมาเอง 1 ท่อน ก่อนที่ flea จะตกใจ หันหน้าไปมองแล้วก็ตามน้ำไป โซโล่ทั้ง 3 ของเพลงนี้ John เล่นได้อย่างยอด
เยี่ยม อาจจะดีกว่าต้นฉบับเพราะด้วยอะดรีนลีนที่หลั่งไหลออกมา หลังจากนั้นทั้งวงก็ขนเพลงเก่าเพลงใหม่ที่แฟนเพลง ล้วนแล้วแต่
ร้องตามกันได้ไปอย่างดี และในช่วงเข้าสู่เวลา 1 ชั่วโมง 22 นาที John และ flea ได้ร่วมกันสร้างแจมที่เป็นเอกลักษณ์ของโชว์นี้ไป
โดยปริยาย ก่อนจะปูเข้าเพลงดัง Californiacation และการแสดงครั้งนี้จบลงด้วยเพลง “The Power of Equality”
ปิดฉากค่ำคืนอันยอดเยี่ยมทั้งตัววงและผู้ชมไปด้วยเวลา 1 ชั่่วโมง 40นาที แต่ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือการ Performance ของ John ในคืนนี้เขาเล่นได้
ดีที่สุดครั้งหนึ่งของชีวิตเท่าที่มีการบันทึกเอาไว้ ทั้งโซโล่สด คอรัส แบ็คกิ้งแทรค เขากินเรียบหมด โดยเฉพาะเพลง "Other side" ที่
ยอดเยี่ยมจริงๆ จนหลายๆคนเรียกคนเสิร์ตนี้แบบขำๆว่า "John Fruciante concert"
สองปีหลังจากนั้น DVD บันทึกคอนเสิร์ตก็ปล่อยออกมา โดยขายไปได้ถึงระดับ 4 แสนยูนิตด้วยกัน
รับชมได้ที่นี่ https://youtu.be/FmrGz8qSyrk
.
3.Under The Bridge สุดห่วยแตก ในรายการ Saturday Night Live 1992 (ย่ำแย่)
ด้วยความเก่งกาจของโปรดิวซ์เซอร์ Rick rubin และการค้นพบซาวด์ของตัวเองในอัลบั้ม " Blood Sugar Sex Magik" ตัวเพลงจึง
ออกมายอดเยี่ยมโด่งดังถึงขนาดขายไปได้ทั้งหมด 12 ล้านก็อปปี้ ทุกอย่างๆดูเหมือนจะเป็นไปได้ดีกว่าที่สมาชิกคาดหวัง มีเพียง
John คนเดียวที่มีปัญหากับความโด่งดังเหล่านั้น เขายังชอบให้วงยังเล่นอยู่ในสถานที่เล็กๆ และยังอยากทำเพลงนอกกระแสต่อไป
แต่มันขัดกับภาพลักษณ์และเส้นทางของวงในเวลานั้น John ดื้อขึ้น และเข้าหายาเสพติดมากขึ้นเรื่อยๆ
 
เหตุการณ์บาดปลายมาจนถึงจุดที่ Anthony ไม่ทนสิ่งนี้อีกต่อไปและยกมันขึ้นมาพูดอย่างจริงจัง การพูดคุยระหว่างทั้งคู่ย่ำแย่เป็น
อย่างมาก ในระหว่างที่ดราม่าของวงดำเนินไป
วงดันมีคิวต้องไปเล่นที่รายการ Saturday Night Live ซึ่งเป็นรายการสด
เพื่อโปรโมทอัลบั้ม ทั้งวงขึ้นไปเล่นทั้งๆที่ Anthony กำลังแตกหักกับ John อย่างรุนแรง และ อาจเป็นเพราะความเด็กหรืออะไรก็ตาม
ไม่มีใครรู้ว่า John คิดอะไรอยู่ในหัว แต่พยายามแสดงออกมาด้วยการทำให้วงและ Anthony ต้องขายขี้หน้าตั้งแต่อินโทร ด้วยการ
เล่นกีตาร์ผิดคีย์และเพี๊ยน เล่นต่างจากต้นฉบับจนออกทะเลไปเลย พร้อมทั้งไม่ร้องท่อนคอรัสของตัวเอง ทำแค่เปล่งเสียงตะโกนมั่ว
ซั่ว สังเกตได้จากสีหน้าของ Anthony ที่แสดงออกมาว่าไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก ถึงแม้โชว์จะพอถูๆไถๆกระท่อนกระแท่นไปจน
จบ หลังโชว์ทั้งสองมีปากเสียกันอย่างรุนแรง และในที่สุด John ก็ลาออก(หรือโดนไล่ออก)จากวงเป็นครั้งแรกในระหว่างการทัวร์
ญี่ปุ่น
รับชมได้ที่นี่ https://youtu.be/9nZ64GZsZJg
.
4. Big Day Out, Sydney 2000 (ยอดเยี่ยม)
Red hot chili peppers ขึ้นเล่นเป็นเฮดไลน์ของงานท่ามกลางผู้ชมชาวออซซี่และนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลที่หลั่งไหลเข้ามาชมวง
เล่น โชว์ดำเนินไปด้วยดีจนกระทั่งช่วงเพลง "Scar tissue " John มือกีตาร์สังเกตุเห็นผู้คนแถวหน้ารั้วกำลังถูกอัดก็อปปี้จากแรงดัน
มหาศาลของคนข้างหลัง และมีเหตุกาณ์ทำร้ายร่างกายแย่งพื้นที่กัน ทำให้ John หยุดเล่นทันที และบอก Anthony ให้พูดออกไมค์ชี้
ให้เจ้าหน้าที่ในงานเข้ามาช่วยคนที่กำลังขาดอากาศใจ ดังนั้นฟร้อท์แมนจึงสื่อสารข้อความของเขาผ่านไมค์เพื่อแก้ไขสถานการณ์
" ตอนนี้เรามีเหตุการณ์แย่ๆกำลังเกิดขึ้น ผมไม่อยากให้การเบียดเสียดกันเป็นเรื่องปกติของเทศกาลดนตรี ผู้ติดกำลังขาดอากาศ
หายใจจากแรงดันจากข้างหลังพร้อมอัดก็อปปี้เข้ากับรั้ว เราไม่อยากให้คุณทำแบบนั้น ผมขอให้ทุกๆคนต้องถอยกลับไปคนล่ะก้าว
เพื่อช่วยคนที่กำลังขาดอากาศ ถ้าคุณไม่อยากให้ใครต้องขาดอากาศหายใจ ถอยกลับไป เมื่อไม่มีคนอัดกัน เมื่อไม่มีการทำร้ายร่าง
กายกัน เราจะเล่นต่อ ทุกคนเรามาเพื่อสันติ ภาพอย่าทะเลาะกัน ไม่มีใครมาที่นี่เพื่อชกต่อยคนอื่นจริงมั้ย เราต้องช่วยกันถอยหลัง
กลับไปทุกคน อย่าทำตัวดุร้าย-แต่จงส่งความรักให้กัน อย่าทำให้มันแย่ลง-ทำให้มันดีขึ้น ได้โปรดทุกๆคน "
ทั้งวงรอจนการช่วยเหลือผู้คนที่ขาดอากาศหายใจ บาดเจ็บ หรือใครก็ตามที่บอบช้ำจากการถูกแรงบีบอัดถูกช่วยเหลือจนครบเสีย
ก่อน และวงถึงจะยอมเล่นกันต่อไป การควบคุมสถาณการณ์ในครั้งนี้ได้รับคำชมจากทั้งผู้จัดงานและประชาชนทั่วไปเป็นวงกว้าง
รับชมได้ที่นี่ https://youtu.be/XTiyc-o0E2I
.
5.SOCK ON THE DICK (ยอดเยี่ยม)
The Kit Kat Club,Hollywood 1983 การแสดงสดในช่วงแรกๆของวง Red hot chili pepers เปิดตัวด้วยการที่ทุกคนร่างกายเปลือย
เปล่า มีเพียงถุงเท้ายาวที่ปิดบังไอ้จ้อนของพวกเขาไว้แค่เท่านั้น ซึ่งไอเดียเริ่มต้นเกิดจาก Anthony การกระทำในครั้งนั้นส่งผลถึงชื่อ
เสียงของวงอย่างรวดเร็วในแทบ California
หลายปีผ่านไปหลังจากมือชื่อเสียงโด่งดังแล้วพวกเขานำไอเดียนี้กลับมาใช้อีกครั้งในช่วงการทัวร์ที่ Seattle การแสดงเป็นไปตาม
ปกติแต่ช่วงหลังการการร้องเพลงเดี่ยวของ John ทั้ง 4 คนก็หายไปจากเวทีชั่วครู่ ก่อนจะกลับมาในร่างเปลือยเปล่ามีเพียงถุงเท้า
เท่านั้นที่ปกคลุมไอ้จ้อนของพวกเข้าไว้ดั่งเช่นเดิม และเริ่มเล่นเพลง "Right on Time" ทันทีโดยใช้อินโทรท่อนเปิดจากเพลง
“London Calling” ของ The clash และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ไอเดียถุงเท้าและไอจ้อนนี้ถูกนำมาใช้ท่ามกลางสาธารณชน
โดย Flea เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ในการสัมภาษณ์กับ GQ เมื่อปี 201
"พวกผู้ชมหรือผู้ใหญ่ที่พาลูกๆของพวกเขามาชมคงไม่เก็บไปคิดมากหรอก พวกเขาสนใจและเคารพความเป็นนักดนตรีของเรา
มากกว่า และสนใจในและบทเพลงในงานของเรา เราเคยทำไปเมื่อนานมาแล้ว และก็ทำอีกครั้งเมื่อไม่กี่ 10 ปีที่ผ่านนี้ และผู้คนจะ
จดจำมันและจดจำเราในฐานะคนสร้างงานเพลงที่ดี ซึ่งการแสดงสดมันก็เป็นศิลปะการแสดงรูปแบบหนึ่งอยู่แล้ว อยู่ที่ตัวเราจะถ่าย
ทอดออกมาอย่างไรต่างหาก"
รับชมได้ที่นี่ https://youtu.be/rlEsKxAxYkk
.
6. อิทธิพลของ John fruciante และการผลุบๆโผล่ๆ (ยอดเยี่ยม)
หลังจากการจากไปของ Hillel Slovak มือกีตาร์และสมาชิกวงยุคก่อตั้งด้วยการโอเวอร์โดส Heroin ในปี 1988 ไม่นานหลังจากนั้น
ทางวงก็ตัดสินใจหามือกีตาร์คนใหม่ และมือกีตาร์ผิวขาวอายุ 18 ปีที่คลั่งไคล้ Hillel เป็นอย่างมากซึ่งก็คือ John fruciante , John
สามารถแกะทุกไลน์กีตาร์ของวงที่ Hillel เล่นไว้ได้ครบทุกแทร็คและยังใส่สไตล์ของตัวเองที่ได้แรงบัลดาลใจโดยตรงจาก Jimi
hendrix
"เอาจริงๆผมไม่ได้มีความรู้เรื่องดนตรีแบบลึกซึ้งมากหรอก แต่ John นี่ศึกษาทฤษฎีดนตรีจนบรรลุทุกอย่าง เขาเป็นคนที่มีวินัยใน
การฝึกกีตาร์มากที่สุดคนหนึ่ง เท่าที่ผมเคยเห็นมา และมีแค่ 2 สิ่งเท่านั้นที่ John สนใจคือ กีตาร์และบุหรี่" คำกล่าวจาก Flea
และเมื่อมีมือกีตาร์จอมเทคนิคและเก่งกาจเรื่องการสร้างเมโลดี้ให้กับบทเพลง ทางวงก็เริ่มต้นทำอัลบั้มที่4กันทันที ในที่สุด
อัลบั้ม " Mother's Milk "ก็ปล่อยออกมา ซึ่งการมี John เข้ามาร่วมวงสร้างความแตกต่างได้อย่างมากมาย และพวกเขาใกล้จะค้นพบ
ซาวด์ออริจินัลของตัววงเสียที
หลังจากความสำเร็จประมาณหนึ่ง ทางวงได้ย้ายไปสู่ค่ายที่ใหญ่ขึ้นอย่าง Warner Bros. Records และได้ Rick rubin โปรดิวซ์เซอร์
มือทองที่โด่งดังเรื่องการเค้นศักยภาพจากนักดนตรีทุกคนออกมา และการร่วมมือกันนี้เองได้นำไปสู่อัลบั้ม " Blood Sugar Sex
Magik " ที่มีเพลงดังอย่าง "Give it away" อัลบั้มนี้ทำยอดขายไปทั้งหมด 12 ล้านก็อปปี้ เปลี่ยนสถานะวงให้ใหญ่ขึ้น และรู้จักกัน
อย่างกว้างขวาง
เว้นเสียแต่ว่าตัว John เองที่มีปัญหากับความดังเหล่านี้ เขาชอบให้วงทำเพลงนอกกระแสต่อไป และเกลียดชีวิตร็อคสตาร์ เมื่อความ
เห็นไม่ลงรอยกันท้ายที่สุดก็ต้องแยกทาง John ออกจากวงระหว่างทัวร์อยู่ที่ญี่ปุ่น และเขาดำดิ่งเข้าสู่โลกของเฮโรอีนเต็มตัว หนัก
เข้าจนถึงขนาดขายกีตาร์เพื่อนำเงินไปซื้อเฮโรอีน พิษร้ายของมันทำให้เขาซูบผอม ฟันหลุดแทบทั้งปาก ร่อแร่ใกล้จะจากไปเต็มที
จนเพื่อนเก่าอย่าง Flea เข้ามาเห็นและทนสภาพไม่ไหว เขาจึงจัดการผลัดดัน John เข้าสู่การบำบัดแบบจริงจังในความดูแลของ
แพทย์ เมื่ออาการเริ่มดีขึ้น Flea ก็ชวนเขากลับเข้าวงอีกครั้งหนึ่ง แน่นอน John ตอบตกลง และนั่นคืออีกหนึ่งจุดเริ่มต้นความพีคของ
RHCP
เริ่มด้วยอัลบั้ม Californication 1999 ที่ดังเป็นพลุแตกและต่อยอดความสำเร็จด้วย By the way 2002 ก็ยังประสบความสำเร็จอีกเช่น
เคย โดยเฉพาะ MV เพลง By the way ที่ฮิตติดชาร์ตของ MTV จนช่องต้องเปิดเพลงนี้วนไปทั้งวันมากกว่า 30 รอบ
และดับเบิ้ลอัลบั้ม Stadium Arcadium 2006 ที่ทำให้ทางวงได้รับรางวัลแกรมมี่ไปถึง 2 สาขา จากเพลง Dani california และทัวร์
คอนเสิร์ตซัพพอร์ตอัลบั้มนี้ที่ยาวเป็นหางว่าวทำให้ John เริ่มเบื่อชีวิตนักดนตรีอีกครั้ง ทั้งการทัวร์ การต้องอุทิศเวลาส่วนตัวทั้งหมด
เพื่อทำอัลบั้ม แบบออกอัลบั้มปีชนปี และความสนใจของเขาได้เปลี่ยนไปสู่ดนตรีอิเล็กโทรนิกแล้ว ในปี 2009 เขาจึงยื่นใบลาออก
เป็นครั้งที่สอง เพื่ออุทิศเวลาให้ตัวเองบ้าง
อย่างไรก็ตาม วงต้องเดินหน้าต่อไป Josh Klinghoffer นักดนตรีแบ็คอัพถูกดันขึ้นมาเป็นมือกีตาร์แทน John ที่เพิ่งออกไป ช่วงเวลา
ที่ไร้ John ทางวงได้ปล่อยสองสตูดิโออัลบั้ม I'm with You 2014 และ The Getaway 2016 การขายหายไปของผู้สร้างเมโลดี้ที่
เก่งกาจเปลี่ยนทิศทางของวงไปจริงๆ แต่เมื่อเรายอมรับความจริงว่า Josh เองก็มีสไตล์ของตัวเองที่แตกต่างไป เมื่อผู้ฟังเริ่มคุ้นชิน
กับวิธีการเล่นของ Josh อยู่ดีๆลมแห่งการเปลี่ยนแปลงก็พัดไหวเข้ามาแบบที่แฟนๆไม่ได้ตั้งตัว
ปลายปี 2019 ทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของทางวง ยืนยันว่าได้แยกทางกับมือกีตาร์ Josh Klinghoffer ด้วยดี และคนที่จะกลับมา
เล่นต่อนั้นก็คือ John fruciante นั่นเอง ซึ่งครบ 10 ปีพอดิบพอดีที่เขาหายไป 2009-2019 แน่นอนว่าการกลับมาหนนี้ของ John เขา
ไม่ได้มาเล่นๆ แต่มาเพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่หวังว่าจะเหลือกลิ่นอายบรรยากาศของเพลงเก่าๆเหลืออยู่บ้าง ซึ่งหลังจากทางวงปล่อยซิงเกิ้ล
"Black summers" เราก็ได้รับรู้ได้ทันทีว่านี่คือการเล่นของ John ที่เราคิดถึง
" นี่คือเหล้าที่รสชาติไร้ที่ติ กับรสชาติที่คุ้นเคย ถูกเติมกลับลงไปในขวดใบเก่าที่เรียกว่า Red hot chili peppers "
.
7 .Superbowl 2016 Halftime Show Unplugged (ย่ำแย่)
Halftime Show ในปีนั้นตัวชูโรงก็คือ Bruno ส่วน RHCP มาแจมแค่เพลงเดียว แต่ในขณะที่ฝั่งของ Bruno mars การแสดงของเขา
จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสุดยอด Performance ของ Halftime Show ตลอดกาลเลยก็ว่าได้ ส่วน Red hot chili pepers ก็เปิดตัวด้วย
เพลงอย่าง "Give it away" Anthony ยังมีพลังหลงเหลือตลอดเวลา Performance อย่างกับวัยรุ่น ส่วน Flea และ Josh ก็ออกลีลา
อย่างเมามันส์ทั้งคู่ เว้นแต่เสียว่า ทั้งเบสและกีตาร์ อันปลั๊ก ไม่ได้เสียบแอมป์และไม่ได้ใช้แอมป์ไร้สายใดๆ ทำให้โชวนี้ถูกสังเกตุ
และนำไปสู่จุดที่ถูกวิจารณ์เป็นอย่างมาก หลังจบโชว์คอมเม้นท์ในทางลบเกิดขึ้นมหาศาล จนติดเทรนด์ twitter กันเลยทีเดียว จน
Flea ต้องออกมาโพสอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพื่อทำความเข้าใจ
"ก่อนอื่นใด พวกเราถูกขอร้องจาก Bruno และ NFL ให้เล่น Give It Away ในช่วง Halftime Show ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าโชว์ใหญ่
สเกลระดับนี้ มีแค่เสียงจากไมค์เท่านั้นแหละที่เป็นของจริง
ส่วนกลอง เบส กีตาร์ล้วนแล้วแต่เป็นแบ็คกิ้งแทร็คทั้งสิ้น และเราเคารพ
จุดนั้น เพราะมีสิ่งที่ทางทีมงานของ NFL ต้องทำเป็นล้านอย่างระหว่างเซ็ทเวทีเพื่อการแสดง สมมุติมีความผิดพลาดเกิดขึ้นเพราะ
ดนตรีสด คนดูก็จะรับรู้สิ่งนั้นพร้อมๆกันผ่านทางทีวีหลายสิบล้านคน และเราไม่สามารถต่อรองอะไรได้เลย พวกเขาไม่กล้าเสี่ยงใช้
ดนตรีสดที่มาจากเครื่องดนตรีจริงๆ ,
อย่างที่รู้กัน Red hot chili peppers พวกเรารักในเสียงที่ออกมาจากเครื่องดนตรีจริงๆและพวกเราไม่เคยเปิดแบ็กกิ้งแทร็คเลย ตลอดอาชีพมีแค่เพียงครั้งเดียวที่โชว์เราไม่ได้เล่นจริงๆ คือเมื่อปลายปี 1980
ในรายการ ' Top Of the Pops' ทีมงานพวกเขาปฏิเสธที่จะให้เราเล่นสด ดังนั้นช่วงออกอากาศ ผมจึงเล่นเบสด้วยรองเท้าส่วน John
ขึ้นไปเล่นกีตาร์บนไหล่ของ Anthony และพวกเรายังมีการแข่งขันมวยปล้ำบนเวทีในขณะที่เพลงบนเวทีก็เล่นไป นี่เป็นการล้อเลียน
และประท้วงแบ็กกิ้งแทร็คจากเรา ,และแน่นอน เรารักการแสดงสดต่อหน้าผู้ชมตลอดมา ใครเคยชมการแสดงของเราจะเข้าใจในสิ่ง
นั้นดี พวกเราขับเคลื่อนโชว์ด้วยแรงใจและแรงกายมาตลอด 31 ปีบนถนนแห่งดนตรี ,
และวันหนึ่ง ไอเดียเรื่องการเล่นใน Superbowl
ก็เกิดขึ้นมา พวกเราชั่งใจกันอยู่นานเพื่อหาข้อสรุป แต่ก็นะ มันเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต เรายังได้ถามไถ่ความคิดเห็นจาก
เพื่อนนักดนตรีด้วยกันมากมาย คำตอบที่ได้ล้วยแต่ เอาสิ ! โอกาสทองแบบนี้ควรพวกนายคว้าไว้ ในที่สุดพวกเราก็ตอบตกลงกับ
NFL แม้จะรู้ว่ามีแค่เสียงร้องเท่านั้นที่สด ช่างแม่ง อย่างน้อยเราก็แสดงพลังงานของเราผ่านท่าทาง และลีลาได้อยู่ดี ต้องของคุณไปถึง
Bruno mars และ NFL ที่มอบโอกาสนี้ให้กับเรา ,ด้วยความนับถือจาก Flea "
รับชมข่าวได้ที่นี่ https://youtu.be/81AQP6QV-eg
.
8. The shirtless signature (ยอดเยี่ยม)
นับตั้งแต่ตัวผมเองรู้จัก RHCP ก็เห็น Flea, Anthony และ John ถอดเสื้อเล่นคอนเสิร์ตมาตลอดจนกลายเป็นสิ่งที่คุ้นตา แม้แต่ MV
เพลง Californiacation ซึ่งเล่าผ่านการเดินทางของตัวละครในเกมไปยังที่สถาณที่ต่างๆ เจ้าตัวละครในอนิเมชั่นที่เป็นตัวแทนสมาชิก
ทั้ง 4 นั้นก็ยังถอดเสื้อกัน และสิ่งนี้ การเคลื่อนไหวของเนื้อหนังส่วนบน ความอิสระ เปรียบได้ดั่งการหลุดพ้นจากพันธนาการใดๆ
จากค่านิยมของสังคมที่กำหนดให้ทุกคนต้องใส่เสื้อผ้าไว้ตลอดเวลา การถอดเสื้อนี้ได้อยู่คู่กับวงมานานกว่า 30 ปีแล้วและเป็นหนึ่ง
สิ่งที่อยู่ในทุกสถานะการณ์ของวงไม่ว่างานจะสำคัญแค่ไหน
-วันที่วงได้รับการเสนอชื่อเข้าสู่ rock & roll hall of fame ในปี2016 หลังจากกล่าวขอบคุณทุกๆคนทีทำให้วงมาถึงจุดนี้ ตัดมาใน
ช่วงการแสดงทั้ง Anthony และ Flea ก็เปลือยท่อนบนเช่นเคย ส่วมผู้ชมส่วนใหญ่มักใส่สูท
-ในรายการของ James Corden , Carpool Karaoke ที่จะเชิญผู้มีชื่อเสียงขึ้นมาสัมภาษณ์ แล้วก็ร้องเพลงดังของพวกเขาไปพร้อมๆ
กัน เมื่อคราวของ RHCP มาถึง แน่นอน Anthony , Flea หรือแม้กระทั่งตัวพิธีกรเอง James ร่วมกันถอดเสื้อตอนที่ร้องเพลง "the
zephyr song" จากอัลบั้ม By the way
คลิปรายการถอดเสื้อช่วง10:49 https://youtu.be/cfudXO_vzWk
-นิยสาร Rolling Stone magazine ปก , 1992
ด้วยความสำเร็จของอัลบั้ม " Blood Sugar Sex Magik " ที่มีเพลงฮิตอย่าง “Give It Away,” “Under the Bridge” and “Suck My
Kiss.” แน่นอนเมื่อคุณสร้างผลงานเพลงที่ดีมากขนาดนี้ มีหรือที่นิตยสารที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับดนตรีที่เป็นเบอร์หนึ่งของวงการในขณะ
นั้นจะพลาดวงนี้ไปได้ และในปี 1992 พวกเขาได้ให้สัมภาษณ์และถ่ายปกสำหรับฉบับต่อไป แต่เชื่อหรือไม่ว่า ปกที่ทางนิตยสารใช้
ในฉบับนั้น คือภาพที่เต็มไปด้วยสมาชิกทั้งสี่ในร่างเปลือยเปล่า มีเพียงฝ่ามือเท่านั้นที่ปกปิดไอ้จ้อนของพวกเขาเอาไว้ แต่เป็นความ
ดิบห่ามนี้เองที่ทำให้ Rolling Stone ฉบับนั้นขายดีและเป็นที่จดจำอย่างไม่มีวันลืมเลือน
-Superbowl Halftime Show 2016 ถึงโชว์จะแย่เพียงใดแต่เช่นเคยท่ามกลางการถ่ายทอดสู่ผู้ชม 36 ล้านคน Anthony และ Flea ก็ไม่
ใส่เสื้อเหมือนเดิม , สิ่งนี้เป็นเสน่ห์ของวงที่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้วงอยู่รอดได้จนถึงทุกวันนี้ .
.
9. Original และ แนวเพลงที่ไร้คู่ต่อกร (ยอดเยี่ยม)
ถ้าเราชอบความดิบกร้านของกรันจ์ คุณสามารถฟังทั้ง Nirvana , Pearl jam , Sound garden , Alice in chains วงทั้งหมดนี้สามารถ
มอบความดิบไร้สารปรุงแต่งอย่างที่คุณต้องการได้ แคค่ถ้าคุณชอบเมทัลมีให้เลือกตั้งแต่ Black subbath , Metallica ,Megadeath
และอีกหลากหลายวงเพื่อคนหูเหล็ก และไม่ว่าคุณจะเลือกฟัง พังค์, ป็อปพังค์, เมทัลคอร์, อัลเตอร์เนทีฟ, การาจร็อค, และอีกหลายๆ
แนวมักจะมีตัวเลือกอื่นๆให้คุณเสมอ
แต่กับ RHCP มีวงไหนที่ซาวด์แบบนี้บ้างล่ะ แทบจะต้องนึกกันนานเลยทีเดียว เพราะสิ่งที่พวก
เขาสร้างขึ้นมา จากรู๊ฟกลองและเบสที่มีเอกลักษณ์ ผสมเข้ากับซาวด์กีตาร์ไซเคเดลิคฟังค์ร็อคของ John ที่อาจถือกำเนิดมาเพื่อ
RHCP โดยเฉพาะ เนื้อร้อง เนื้อแร็พ และท่อนฮุค Anthony สามารถทำได้ดีในการสื่อสารกับเจนเนอเรชั่นใหม่อยู่เสมอ และเมื่อนึก
ถึงความฟังค์ ร็อค อัลเตอร์เนทีฟ นีโอไซเคเดลิก ที่มีความออริจินัล เมื่อผสมรวมกับการแสดงสดที่ดุดัน ชื่อเดียวที่จะโผล่ขึ้นมาใน
สารระบบคงมีเพียง Red hot chili peppers แค่วงเดียวเท่านั้น และสิ่งที่ว่าไปนั้น เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่นำพาให้พวกเขาผ่านร้อนผ่าน
หนาวมาได้หลายทศวรรษแม้จะมีแรงตกบ้าง แต่ John Fruciante ก็กลับมาเติมพลังเหล่านั้นแล้วนี่ ได้แต่หวังว่าอัลบั้มใหม่ของทั้ง 4
คนจะพิเศษเหมือนที่ผ่านๆมา .
.
10.Live at the Alcatraz, Milan 2006 (ยอดเยี่ยม)
เมื่อวงปล่อยดับเบิ้ลอัลบั้มที่มีชื่อว่า Stadium Arcadium ในปี2006 ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ทั้งยังถือว่าเป็นช่วงพีคของทั้งสี่
ในการแสดงสด ความดุดันที่สามารถส่งถึงผู้ชมได้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะช่วงปี 2006-2009 ที่หลายๆคนเรียกว่า " John era "
เพราะทุกๆเพลงของอัลบั้มมีกีตาร์หันโหยหวนของ John ประกอบอยู่ด้วยทั้งสิ้น และทัวร์ซัพพอร์ตอัลบั้มนี้ก็เริ่มขึ้น และอาจเป็น
ช่วงที่พีคที่สุดของทั้งวงก็ว่าได้ ไม่ว่าจะ Livs in Poland กับโซโล่ Califirniacation ที่อาจจะดีที่สุดของเพลงนี้ก็เกิดขึ้นที่นั่น แต่ผม
ตัดสินใจใส่ Live at the Alcatraz เข้ามาในลิสท์นี้แบบเบียดกันแค่หนึ่งคะแนน อาจเพราะซาวด์ที่ออกมาควบคุมได้ดี เสียงเบส กลอง
กีตาร์ชัด คำร้อง ชัดทุกเม็ด
โชว์เปิดด้วยการแจมของกลองเบสกีตาร์ โดยมี John เป็นผู้นำด้านเมโลดี้ ก่อนจะปูเข้าสู่อินโทรอันคุ้นหู "can't stop" พร้อมด้วยการ
เปิดตัวของ Anthony สู่เวที หลังจากเพลงแรกจบทางวงต่อด้วยเพลงจังหว่ะโยกได้อย่าง "Charlie" John เก็บเรียบททุกเม็ดเมื่อถึง
เวลาของกีตาร์ เรียกว่าเนียบกริ้บทั้งโชว์เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะเพลง "Dani California" ที่หลังจากโซโล่ไปอย่างจัดจ้าน ก็เกิดการแจ
มที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งของทั้ง Flea และ John อิมโพรไวส์ปล่อยหนึ่งในริฟที่ดีที่สุดของเขาออกมา แต่ John กลับเลือกที่จะสลับมาตี
คอร์ดเพื่อให้ Flea โซ่โลบ้าง เป็นเคมีที่แค่มองตาก็รู้ใจของนักดนตรีคู่หนึ่งในประวัติศาสตร์ร็อค และโชว์ก็ปิดฉากไปด้วยเพลงฮิต
ตลอดกาล "Give it away" หลังจากเซ็ทลิสท์เล่นไปจนเข้านาทีที่ 40 แต่ทั้งสี่คนยังดูแรงดีไม่มีตกเลยให้ตายเถอะ และโชว์ก็จบไป
สำหรับตัวผมเอง นี่คือหนึ่งในโชว์ที่ยอดเยี่ยมติดท็อป 3 ในใจอย่างแน่นอน
รับชมได้ที่นี่ https://youtu.be/RlEzodN2ArI
.
Honorable mention (ยอดเยี่ยม)
- "Don't Forget Me" live At La Cigale , France
ยอมรับว่าไม่สามารถปล่อยโมเม้นท์แห่งความยอดเยี่ยมนี้ไปได้จริงๆ ทางวงเล่นเพลง "Don't Forget Me"จากอัลบั้ม By the way
อินโทรเริ่มต้นด้วยการตีคอร์ดของ Flea พร้อมด้วยเสียงโหยหวนของกีตาร์ John ก่อนที่ Flea จะตีคอร์ดเบสเข้าสู่อินโทรของเพลง
แทรกด้วยเสียงดีดจากแอ็ฟเฟ็คจาก John ที่ดังถี่ขึ้นเป็นระยะ จนดังสุดในท่อนฮุค เสียงกีตาร์ดิบกร้านแตกซ่านไปทั่วบริเวณ ก่อน
ที่หลังจากเข้าฮุคครั้งที่สอง John ก็ได้ปล่อยโซโล่อันดุดันยุงเหยิงและสวยงามออกมาในเวลาเดียวกันออกมาด้วยเทคนิกพิศดาร
หลังโซโล่จบ John เน้นเสียงเอคโค่ที่ขยายเรนจ์ของเสียง ให้กว้างขึ้นและอบอวลไปทั่วคำร้อง ก่อนที่เพลงจะจบไปด้วยความตก
ตะลึงของทั้งตัววงและผู้ชมเอง ช่างยอดเยี่ยมจริงๆอะไรแบบนี้มันเกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว
และโชคดีของแฟนเพลงอย่างเราที่มีโอกาศได้ชมบันทึกสดของเพลงนี้
รับชมได้ที่นี่ https://youtu.be/fV9IJVoFR_Q
จบ.
#rayligion
#RHCP
โฆษณา