17 ก.พ. 2022 เวลา 10:06 • กีฬา
เรื่องราวของเราในวันนี้ครับ เป็นเรื่องที่แสนคลาสสิค พ่อกับลูกในวงการลูกหนัง โดยจะมีเรื่องของพ่อลูก คู่ไหนกันบ้าง ไปติดตามกันเลย
▶ Sir Alex Ferguson & Darren Ferguson ◀
▶ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับ ดาร์เรน เฟอร์กูสัน ◀
❤ เซอร์​ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ชายผู้ซึ่งคนในวงการรู้จักกันดีว่า “ป๋า” ❤
สิ่งที่ป๋าทำให้กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นมีมากมายเหลือเกิน และหนึ่งชื่อเสียงที่ป๋าสร้างมาพร้อมกับบารมี คือ การสร้างอคาเดมี่ให้กับสโมสร โดยชุดที่โด่งดังมากที่สุด คือ คลาส ออฟ 92
เรื่องความสำเร็จคงไม่มีใครปฏิเสธความสามารถของป๋าได้ เพียงแต่หนึ่งในสิ่งที่ป๋าคาดหวัง คงเป็นเด็กอีกคน ที่ถูกผลักดันในยุคเดียวกันกับคลาส ออฟ 92 อันโด่งดัง ซึ่งเด็กคนนั้น ชื่อ ดาร์เรน เฟอร์กูสัน ลูกชายของเค้านั่นเองครับ
ดาร์เรน เฟอร์กูสัน ได้ลงเล่นให้กับแมนยูฯไปเพียง 15 นัดเท่านั้น เพราะฝีเท้านั้นไม่ถึง ก่อนถูกปล่อยตัวออกจากสโมสร และหลังจากนั้น ดาร์เรน ย้ายไปเล่นให้กับวูล์ฟ หลังจากนั้นเค้าก็เล่นอยู่กับทีมสปาต้า ร็อตเตอร์ดัม ก่อนย้ายกลับมาเล่นให้ทีมที่เล็กลงอีกอย่าง เร็กซ์แฮม และเริ่มเปลี่ยนเส้นทางไปคุมทีมเช่นเดียวกับพ่อของเขา แต่ตลอดเส้นทางการคุมทีมของเค้าก็มีเพียงการคุมทีมเล็กๆเท่านั้น
เรียกได้ว่า เส้นทางของพ่อกับลูก ตระกูลเฟอร์กูสัน ช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิง
▶ Johan Cruyff & Jordi Cruyff ◀
▶ โยฮัน ครัฟฟ์ และ ยอร์ดี้ ครัฟฟ์ ◀
❤ จาก พ่อ สู่ ลูก ❤
โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานทีมชาติฮอลแลนด์ นำทีม อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัมส์ คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ สามสมัยติดต่อกัน ในยุค 70 พาทีมชาติฮอลแลนด์ครองความยิ่งใหญ่ และมีวิธีการเล่นที่แปลกใหม่ น่าตื่นตา ตื่นใจ ที่เรียกว่า “โททัล ฟุตบอล” ราชาลูกหนังแห่งคัมป์นู เป็นดาวเตะค่าตัวแพงที่สุดในยุคนั้น จนทำให้ บาร์เซโลน่า ได้ฉายาว่า “เจ้าบุญทุ่ม”
โยฮัน ครัฟฟ์ ผู้พ่อ สร้างชื่อเสียงให้กับทุกทีมที่เขาลงเล่น จวบจนกระทั่งแขวนสตั๊ดไปเป็น ผู้จัดการทีม ซึ่งเขาก็ยังคงเป็นหนึ่งในบุคคลที่สามารถเรียกได้เต็มปากว่า "ปรากฏการณ์" เค้าสร้างรากฐานให้กับสโมสรฟุตบอลที่เคยได้ไปคุมทีม ทั้งกับอาแจกซ์​และบาร์เซโลน่า ฟุตบอลสวยงาม เกมรุกที่ทรงพลัง ที่ยังคงสืบเนื่องมาจนปัจจุบัน
โยฮัน ผลักดันลูกชาย ยอร์ดี้ ที่เป็นชื่อในภาษาคาตาลัน ให้เข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดของสโมสร จนก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะชุดใหญ่ของทีม เค้าก็สามารถทำผลงานได้ดีไม่น้อยในฐานะนักเตะดาวรุ่ง
จนกระทั่ง โยฮัน ครัฟฟ์ ผู้เป็นพ่อ ต้องออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมบาร์เซโลน่า เพราะมีปัญหากับประธานสโมสร แต่ ยอร์ดี้ ครัฟฟ์ ก็ยังดีพอที่จะติดทีมชาติฮอลแลนด์ ไปโชว์ฝีเท้าในศึกยูโร 96 ที่อังกฤษ และตัวของ จอร์ดี้ ครัฟฟ์ เอง ก็โชว์ฟอร์มได้ดีจนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดึงตัวเขามาร่วมทีม หลังจบทัวร์นาเมนต์นั้น
แต่เส้นทางของเขากับแมนยูก็ไม่ได้ราบรื่นมากนัก เพราะในช่วงเวลาของปีศาจแดงชุดนั้น ก็มีนักเตะ อย่าง คาเรล โพบอร์สกี้ และ เดวิด เบ็คแฮม ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น
โอกาสของ ยอร์ดี้ ครัฟฟ์ เริ่มน้อยลงไปอีกจากอาการบาดเจ็บของเขาเอง และเขาก็เริ่มค่อยๆ หายไปจากทีม หากจะถูกจดจำก็เพียงเพราะว่าเค้าเป็นคนยิงประตู ที่ เอริค คันโตน่า ทำแอสซิสต์สุดท้ายของชีวิต
▶ Peter Schmiechel & Casper Schmiechel ◀
▶ ปีเตอร์ ชไมเคิล กับ แคสปอร์ ชไมเคิล ◀
❤ สองผู้รักษาประตูต่างยุคสมัย ❤
ปีเตอร์ ชไมเคิล ในตอนสมัยค้าแข้ง สามารถนำทีมชาติเดนมาร์กคว้าแชมป์ยูโร 1992 และคว้าแชมป์มากมาย กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หากจะถามถึงนักฟุตบอลในตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก ชื่อของ ปีเตอร์ ชไมเคิล ต้องติดอยู่ในลิสต์อย่างไร้ข้อกังขา
พอมาถึงรุ่นลูก แคสเปอร์ ชไมเคิล ที่เริ่มต้นจากการเป็นดาวรุ่งของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากนั้นก็ถูกยืมตัวไปเรื่อยกับทีมต่างๆ จนสุดท้ายได้มาเป็น ตัวจริงของ เลสเตอร์ ซิตี้ และที่นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ แคสเปอร์เริ่มเขียนบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ของตัวเขาเอง
จากทีมที่เป็นเพียงไม้ประดับในพรีเมียร์ลีก "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" สร้างมาตรฐานที่สูงขึ้นจนเข้ามาอยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์แบบเต็มตัว
ท้ายที่สุดแล้วในปี 2015/2016 เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศ โดย แคสเปอร์ ชไมเคิล คือ หนึ่งในแกนนำที่พาความสำเร็จเข้าสู่สโมสร เป็นหนึ่งในตำนานพ่อและลูกผู้รักประตู ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
▶ Frank Lampard Sr & Frank Lampard Jr ◀
▶ แฟรงค์ แลมพาร์ด ซีเนียร์ กับ แฟรงค์ แลมพาร์ด จูเนียร์ ◀
แฟรงค์ แลมพาร์ด ซีเนียร์ ผู้พ่อคือตำนานแบ็คซ้ายทีมขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ชุดที่คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้สองสมัย เป็นที่รักของแฟนบอลทีมขุนค้อน ด้วยการลงเล่นให้กับทีมไปห้าร้อยกว่านัด และติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ไปสองครั้ง
รุ่นลูก แฟรงก์ แลมพาร์ด จูเนียร์ เริ่มต้นค้าแข้งกับทีมที่มีพ่อเป็นตำนานอย่างเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในยุคที่เต็มไปด้วยดาวรุ่งมากพรสวรรค์ อย่าง โจ โคล และ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ซึ่งตอนที่เขาได้ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ใหม่ๆนั้น มันเต็มไปด้วยคำถามว่า เขาเก่งจริงหรือเพราะมีพ่อเป็นผู้ช่วยโค้ช แต่ด้วยพรสวรรค์และความมุ่งมั่นทุ่มเท จนพิสูจน์ตัวเองได้ว่า เขาคือของจริง จนกระทั่งในเวลาต่อมา เขาก็ได้ย้ายไปอยู่กับทีมเชลซี
ที่นี่เค้าไม่เพียงเป็นนักเตะที่ดีพอในทีมชุดใหญ่ แต่ 13 ปี ในถิ่นสิงโตน้ำเงินคราม เค้ากลายเป็นตำนานของเชลซีอย่างแท้จริง และถือว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ก้าวออกจากเงาของพ่อของตัวเองได้อย่างงดงาม
▶ Cesare Maldini & Paolo Maldini & Daniel Maldini ◀
▶ เซซาเร่ มัลดินี่ กับ เปาโล มัลดินี่ และ ดาเนียล มัลดินี่ ◀
เชซาเร่ มัลดีนี่ ผู้พ่อ และได้กลายเป็นปู่ในอนาคต เป็นกองหลังของทีมปีศาจแดงดำมายาวนานถึง 12 ปี ได้รับเกียรติยศมากมาย และเมื่อหลังจากเลิกเล่นไปแล้ว ยังกลับมาคุมทีมในฐานะผู้จัดการทีม ก็ยังทำทีมได้อย่างยอดเยี่ยม
เปาโล มัลดินี่ เดินตามรอยพ่อของเขาในการขึ้นมาเล่นให้กับทีมเอซี มิลาน ตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยความที่เป็นกองหลังที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ และเทคนิคฟุตบอลเชิงสูงกว่ากองหลังทั่วไป แชมป์ที่เค้าสามารถคว้ามาครองได้นั้นมีมากกว่าผู้เป็นพ่อซะอีก
ไม่เพียงแต่ฝีเท้าที่ถูกยกย่อง แต่เป็นความจงรักภักดีที่มีให้กับสโมสรเดียว อย่างเอซี มิลาน ที่เค้าลงเล่นทั้งหมดไปถึง 23 ปี รวมกับสมัยพ่อของเขา คือ เกือบ 40 ปี ที่ตระกูลมัลดินี่ ไม่เคยหายไปจากทีมเอซี มิลาน
และยิ่งไปกว่านั้น ในเวลาเดียวกันนี้ อีกเจเนเรชั่นใหม่กำลังจะก้าวขึ้นมา ในฐานะดาวรุ่งคนใหม่สายเลือดเก่า ดาเนียล มัลดินี่ ลูกชายของเปาโล หลานของปู่เซซาเร่ ซึ่งดาเนียลได้ยิงประตูแรกของเขากับ เอซี มิลานได้แล้ว และนั่นเท่ากับว่า เรื่องราวของตระกูลมัลดินี่ กับ เอซี มิลาน จะยังถูกเล่าขานต่อ ในภาค 3
เราไม่อาจคาดเดาได้ว่า มันจะจบลงเมื่อไหร่ แต่เชื่อเหลือเกินว่า ประวัติศาสตร์มันจะยังคงถูกเขียนขึ้นใหม่ ไม่มีวันจบสิ้นอย่างแน่นอน
พ่อ เป็นแรงบันดาลใจให้ลูกมาตลอด
พ่อ คือ ฮีโร่ ของใครหลายคนตั้งแต่แรกเกิด จนถึงทุกวันนี้
และยังคงมีพ่อลูกอีกมากมาย บนถนนสายลูกหนัง
แต่ไม่ว่า พ่อ หรือ ลูก ใครจะประสบความสำเร็จมากกว่ากัน
สิ่งที่เรารู้ได้เสมอ จากทุกเรื่องราว คือ การผลักดันของผู้เป็นพ่อ
ความพยายามต่อสู้ของลูก ไม่ใช่เพื่อความสำเร็จของตัวเอง
แต่เพื่อทำในสิ่งเดียวกัน คือ อยากที่จะทำให้
“พ่อภูมิใจ”
Father and Son
โฆษณา