18 ก.พ. 2022 เวลา 04:25 • เกม
10 เกมในตำนานที่ถูกเกมเมอร์ตั้งชื่อไทยให้
เกมแส้, เกมคณะละครสัตว์, เกมวางระเบิด, เกมปลูกผัก คุณเคยเรียกเกมเหล่านี้ว่าอะไรกันบ้าง
หากย้อนเวลากลับไปในวันวานที่ยังเป็นเด็กอยู่ ใครหลาย ๆ คนอาจเคยผ่านการเล่นเกมมาหลายเจน หลายเครื่องและหลายแพลตฟอร์ม ในช่วงเวลานั้นเป็นยุคที่เรายังสนใจแต่เกมเพลย์ ขอแค่เล่นสนุก เข้าใจง่าย แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ด้านเนื้อเรื่องและกราฟิกอาจเป็นสิ่งรองลงมาเพราะเรายังถือว่าเกมเป็นสิ่งสมมุติและภาษาญี่ปุ่นหรืออังกฤษนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะอ่านมันออกจนจับใจความได้หมด และแน่นอนว่ามีหลายเกมในยุคนั้นที่เราอ่านชื่อเกมไม่ออกหรือเล่นโดยที่ไม่รู้ชื่อเกมซะด้วยซ้ำ แต่การสื่อสารจำเป็นต้องมีอยู่ และการที่เราจะบอกว่าเกมที่เราเล่นนั้นคือเกมอะไร จึงต้องใช้วิธีเอาจุดเด่นของเกมนั้น ๆ มาตั้งเป็นชื่อเรียกในกลุ่มเพื่อนหรือสังคมที่เราอยู่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันนั่นเองครับ และนี่คือ 10 เกมในตำนานที่ถูกผู้เล่นตั้งชื่อมาแล้ว ไปชมกันครับว่าจะมีเกมอะไรบ้าง
1. Castlevania - เกมแส้
คาสเทลวาเนีย หรือ แคสเซิลวาเนีย สุดแล้วแต่คนอ่านภาษาอังกฤษออกจะเรียกกัน แต่ตัวผมในวัยเด็กนั้นเรียกเกมนี้ว่า "เกมแส้" ด้วยบริบทเกมที่เราจะได้รับบทเป็นนักล่าแวมไพร์และบุกเข้าไปในปราสาทแดร็กคิวล่าเพื่อปราบมันให้สิ้น แต่ด้วยอาวุธหลักที่ตัวเอกใช้เป็นแส้ที่ใช้ฟาดศัตรู อีกทั้งยังสามารถเพิ่มความยาวของแส้ได้ตามไอเทมที่เก็บ นั่นทำให้การโจมตีในเกมนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้แส้ฟาด จะค้างคาว ซอมบี้ ปีศาจชุดเกราะ หรือแวมไพร์ก็ล้วนจะต้องโดนแส้ฟาดทั้งนั้น นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อเกมแส้ที่เราเรียกกันสมัยเด็กนั่นเองครับ
2. Ice Climber - เกมทุบน้ำแข็ง
ที่เรียกว่าเกมทุบน้ำแข็งนั้นเนื่องจากเราจะได้รับบทเป็นชาวเอสกิโมที่จะต้องไต่ภูเขาน้ำแข็งขึ้นไปให้ถึงยอดเขา ในระหว่างทางที่ขึ้นไปนั้นก็จะพบกับอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าแมวน้ำที่คอยก่อกวน นก น้ำแข็งย้อย ก้อนเมฆที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่เป็นกิมมิคของแต่ละขั้นที่ไต่ขึ้นไปคือเราจะต้องใช้ค้อนทุบน้ำแข็งขึ้นไปข้างบนโดยการกระโดด จึงเป็นที่มาของเกมทุบน้ำแข็งนั่นเอง แถมเกมนี้ยังเล่นได้ 2 คนด้วยนะ เล่นกับเพื่อนดึงฉากกันได้ด้วย ใครเคยเล่นต้องจำความสนุกของมันได้แน่ ๆ
3. Circus Charlie - เกมคณะละครสัตว์
1
ผมเชื่อว่าหลายคนรุ่นเก๋า ๆ ต้องเคยเล่นเกมนี้มาก่อนแน่ ๆ ด้วยความที่อ่านชื่อเกมนี้ไม่ออก เราเลยเอาจุดเด่นของเกมมาเรียกเป็นชื่อ โดยชื่อคณะละครสัตว์นั้นก็มาจากบทบาทของเราที่อยู่ในเกม เราจะได้เป็นนักแสดงละครสัตว์ที่จะทำการแสดงต่าง ๆ ให้ผู้ชมได้รับชม ซึ่งในเกมจะแบ่งออกเป็น 5 ด่าน ได้แก่ ขี่สิงโตลอดห่วงไฟ ลิงไต่ราว เดินบนลูกบอล ขี่ม้าข้ามสิ่งกีดขวาง และด่านสุดท้ายคือโหนเชือก แม้จะเป็นเกมที่มีเบสิคการเล่นง่าย ๆ แต่การจะผ่านนั้นกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พูดแล้วก็แอบคิดถึงเหมือนกันเนอะ
4. Harvest Moon - เกมปลูกผัก
1
หลายคนอาจรู้จักเกมนี้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะเป็นแนวทางให้กับเกมอื่น ๆ แล้ว ตัวเกม Harvest Moon เองก็ยังมีภาคต่อภาคเสริมออกมามากมายหลายภาคหลายแพลตฟอร์ม และผู้เล่นอย่างเรามักจะเรียกเกมนี้ว่า "เกมปลูกผัก" ซึ่งมันเป็นจุดเด่นของเกมนี้ ก็คือการใช้ชีวิตทำไร่ทำฟาร์ม ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ แม้ในเกมจะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขุดแร่ อัพเกรดอุปกรณ์ สร้างบ้าน จีบสาว แต่งงาน บลา ๆ ๆ แต่เราก็ยังคงเรียกมันว่าเกมปลูกผักอยู่ดี อาจจะเป็นเพราะการปลูกผักเป็นกิจวัตรที่ต้องทำเป็นประจำทุกวันก็ได้เลยถูกเรียกว่าอย่างนั้น
5. Yu-Gi-Oh Monster Capsule - เกมยูกิเดินหมาก
ยูกิโอคือเกมที่สร้างจากการ์ตูนชื่อดังที่มีชุดเด่นด้านการเล่นเกมการ์ดดูเอลส์มอนสเตอร์ ซึ่งเป็นเกมการ์ดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน แต่ในช่วงเวลาหนึ่งของเนื้อเรื่องในการ์ตูนได้มีการเล่นเกมที่เกี่ยวกับการเอามอนสเตอร์มาเดินเป็นช่อง ๆ คล้ายหมากรุก แต่มอนสเตอร์เหล่านั้นสามารถต่อสู้กันได้ และพัฒนาร่างได้อีกด้วย ซึ่งเกม ๆ นั้นก็ถูกนำมาดัดแปลงลงบนเครื่อง PS1 จนกลายมาเป็น Yu-Gi-Oh Monster Capsule ในที่สุด แต่เพราะว่าเกมยูกินั้นส่วนใหญ่จะมีแต่เกมการ์ดเป็นหลัก เราจึงเรียกเกมยูกิภาคนี้ตามวิธีการเล่นของมัน เลยกลายเป็น "ยูกิเดินหมาก" นั่นเองครับ
6. Dance Dance Revolution - เกมเต้น
ในตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก "เกมเต้น" ที่เป็นตู้หยอดเหรียญตามห้าง มีแท่นเหยียบรูปลูกศรที่พื้น แล้วก็ให้เราเหยียบตามสิ่งที่เห็นในหน้าจอ ใช่ครับ ก่อนที่มันจะมาเป็นเกมเต้นหลากหลายเกมในปัจจุบันนั้น มันเคยมีเกมหนึ่งที่เป็นต้นแบบให้บ้านเรารู้จักแพลตฟอร์มนี้ ชื่อของเกมนั้นก็คือ Dance Dance Revolution ซึ่งนอกจากจะมีเป็นตู้เกมอาร์เคตแล้ว มันยังอยู่ในเครื่อง PS1 อีกด้วย แถมตัวเกมยังออกแบบคอนโทรลเลอร์เป็น Pad ที่ใช้ปูกับพื้นแล้วเหยียบเล่นที่บ้าน เป็นการออกกำลังกายไปในตัว ในช่วงนึงนั้นฮิตมากถึงขนาดว่ามีของปลอมของเก๊โผล่ออกมาไม่ขาดสายเลยล่ะครับ แต่ไม่ว่าเกมที่ออกมาจะชื่อเกมว่าอะไรหลังจากนั้น ถ้ามีลูกศรลอยขึ้นมาให้เหยียบหรือกดปุ่มเราจะเรียกมันว่า "เกมเต้น" ทั้งหมด
7. The House of the Dead - เกมยิงผี
อีกหนึ่งเกมที่มาจากเกมตู้อาร์เคตและได้นำมาลง PC ในภายหลัง ซึ่งที่เรียกว่าเกมยิงผีนั้นเพราะว่าเกมเพลย์ของมันจะเป็นมุมมองแบบ FPS แล้วเราจะต้องใช้เมาส์คลิกแทนการยิงปืนในเกม ซึ่งถ้าเป็นแบบตู้อาร์เคตนั้นคอนโทรลเลอร์ของเราก็จะเป็นตัวปืนเลยล่ะ แต่พอเกมนี้ทำลง PC คนส่วนใหญ่ที่มีโอกาสได้เล่นเลยมักจะเป็นเวอร์ชั่น PC ซะมากกว่า และด้วยเกมเพลย์ที่ออกแนวผจญภัย ยิงฝูงซอมบี้และปีศาจกลายพันธุ์ไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีการต่อสู้อย่างอื่นเลยนอกจากการยิงเท่านั้น เราจึงเรียกเกมนี้แบบง่าย ๆ ว่า "เกมยิงผี" ครับ
8. Bomberman - เกมวางระเบิด
สุดยอดเกม Puzzle ที่มีมาตั้งแต่ยุค Famicom จนถึงปัจจุบัน และตอนนี้ถูกเปลี่ยนมาเป็นปาตี้เกมที่ใช้เล่นกับเพื่อน ๆ ได้อย่างสนุกสนานและแฝงไปด้วยความหัวร้อนอยู่หน่อย ๆ Bomberman เป็นเกมที่เราจะได้รับบทเป็นมือวางระเบิดที่เกมเพลย์จะต้องทำการวางระเบิดใส่กันเพื่อทำลายเป้าหมายให้สิ้นซาก ในช่วงแรก ๆ ก็เป็นการสู้กับมอนสเตอร์ปกติ แต่หลัง ๆ มาดูเหมือนผู้เล่นจะชอบแนว Multiplayer แล้วเน้นระเบิดผู้เล่นด้วยกันซะมากกว่า ด้วยวิธีการเล่นที่ชัดเจนจึงทำให้เกมนี้ถูกเรียกชื่อภาษาไทยง่าย ๆ ว่า "เกมวางระเบิด" นั่นเองครับ
9. Downhill - เกมจักรยานลงเขา
2
ในช่วงปลายยุค 90' เข้าสู่ช่วงต้นของยุค 2000 นั้นเป็นอะไรที่ต้องยอมรับว่าเกมแนวสเก็ตบอร์ดหรือกีฬาเอ๊กซ์สตรีมนั้นกำลังมาแรงอย่างสุด ๆ จนทำให้เกมในช่วงนั้นเป็นแนวกีฬาเอ๊กซ์สตรีมเยอะพอสมควร หนึ่งในนั้นก็คือ Downhill เกมปั่นจักรยานวิบากที่ค่อนข้างฉีกแนวของเกมกีฬาเอ็กซ์สตรีมในยุคนั้นสุด ๆ ในขณะที่เกมอื่นนั้นเน้นแข่งกันทำท่าสวย ๆ เก็บคะแนน แต่เกมนี้เน้นไปที่การปั่นจักรยานลงภูเขาด้วยความเร็วสูงสุด ซึ่งมันให้ความรู้สึกหวาดเสียวปนเร้าใจอย่างบอกไม่ถูก มันมีองค์ประกอบของความเป็นกีฬาเอ๊กซ์สตรีมครบครัน อันตราย รวดเร็ว สูงชัน รุนแรง แถมทำท่ากลางอากาศได้ด้วย ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นขณะหันหน้าดิ่งลงจากเขา จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อ "เกมจักรยานลงเขา" ที่เราเรียกกันในปัจจุบัน
9
10. Ragnarok Online - แร็กนรก
1
ในยุคที่เกมออนไลน์ก้าวเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงแรก ๆ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Ragnarok Online คือหนึ่งในเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น แต่ชื่อแร็กนรกนั้นไม่ได้มาจากจุดเด่นของเกมแต่อย่างใด ที่มาของมันก็คือชื่อเกมแร็กนาร็อกนั้นเรามักจะเรียกเป็นคำพยางค์เดียวง่าย ๆ ติดปากว่า "แร็ก" เฉย ๆ ส่วนการออกเสียงคำว่า "นาร็อก" นั้นดันมีความคล้ายคลึงกับคำว่า "นรก" ทำให้เด็ก ๆ วัยรุ่นเรียกเกมนี้กันเล่น ๆ ว่าแร็กนรก แต่ด้วยช่วงนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของเกมออนไลน์ ซึ่งสังคมไทยยังไม่พร้อมปรับตัวมากนัก จึงทำให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมากมายโดยใช้เกมออนไลน์เป็นสื่อ ไม่ว่าจะเป็นการขโมยเงินพ่อแม่ไปเติมเกม การหลอกลวงนัดเจอ การซื้อขายเงินเอ็มและไอเทมในเกมเป็นเงินจริง และอื่น ๆ ที่เคยเป็นข่าวให้เราได้เห็นซึ่งมักจะเกิดจากเยาวชนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผู้ใหญ่ในช่วงนั้นเรียกเกมนี้ว่าแร็กนรกตามไปด้วย
และนี่คือ "10 เกมในตำนานที่มักจะถูกผู้เล่นตั้งชื่อให้ใหม่ตามจุดเด่นของเกม" ตรงกับที่เพื่อน ๆ เคยได้ยินมาบ้างไหมครับ เอาจริง ๆ นั้นการตั้งชื่อเล่นให้กับเกมแบบนี้มันก็ไม่ได้นิยมเป็นวงกว้างเท่าไหร่ มันขึ้นอยู่กับกลุ่มเพื่อนในตอนนั้น สังคมที่เล่น หรือร้านเกมที่เราเล่นประจำ ว่าตอนนั้นพวกเขาเรียกเกมเหล่านี้ว่าอะไร เราก็จะเรียกตาม ๆ กันมาจนติดปาก ถ้าเกมไหนฮิตจริงดังจริง ชื่อเล่นนั้นก็จะถูกใช้งานติดต่อกันมาจนเรียกเหมือนกันทั่วทั้งประเทศ ถ้าเพื่อน ๆ มีเกมไหนที่ถูกตั้งชื่อเล่นเจ๋ง ๆ ก็คอมเมนต์บอกให้เรารู้ได้นะครับ
โฆษณา