18 ก.พ. 2022 เวลา 07:53 • การศึกษา
GIVE IT ALL
ย้อนภาพความทรงจำของ แพทย์หญิง สายสุดา ขวัญเพชร หรือ "หมอโหน่ง" ที่ในอดีตเธอเป็นเพียงเด็กนักเรียนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ชื่นชอบในการดูละครซีรี่ย์เกาหลี เฉกเช่นเด็กผู้หญิงทั่วไป ซึ่งตัวของเธอนั้นจะหลงใหลกับซีรี่ย์ที่มีเนื้อของการแพทย์ และการรักษาเป็นพิเศษ เพราะด้วยเนื้อหาที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้คน ตรงจุดนั้นเอง ที่ทำให้เธอเริ่มต้นค้นหาความฝันของตนเอง ฝึกฝน และรวบรวมความรู้จากการศึกษาเล่าเรียน เพื่อนำมาเป็นใบเบิกทางความฝัน
และเธอยังคงรักษาความตั้งใจอันเป็นจุดสำคัญแห่งความสำเร็จ ยังคงทบทวนบทเรียน อ่านและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ด้วยความหวังที่อยากจะทำให้ตัวเองและครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งยังได้ช่วยเหลือสังคมอีกด้วย มันทำให้เธอมีความสุขอย่างถึงที่สุด
ติดตามเรื่องราวแห่งความสุขได้ที่
Facebook และ Youtube : The Discoverer
ช่องทรูปลูกปัญญา ทรูวิชั่นส์ 37 และ HD 111
#TheDiscoverer
#TheDiscoverer
#TheDiscovererTH
#ความสุขของผู้ค้นพบ
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#ThaiMediaFund
แพทย์หญิง สายสุดา ขวัญเพชร หรือ "หมอโหน่ง"
หมอโหน่ง เธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กในพื้นที่ที่เธอเติบโตมา ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ขยัน อดทน ใฝ่รู้ และมีความกตัญญูรู้คุณ แบบอย่างของการสู้ชีวิตที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค สานต่อโอกาสที่รับ จนได้มาซึ่งความสำเร็จ รวมไปถึงความภาคภูมิใจ ที่สามารถนำพาตัวเองมาไกลได้ถึงขนาดนี้ หมอแกร่ง ผู้สู้ชีวิต หนึ่งในบัณฑิตเกียรตินิยม “แพทย์หญิงสายสุดา ขวัญเพชร”
โตขึ้นอยากเป็นอะไร? คงเป็นคำถามที่ชวนให้เราย้อนกลับไปนึกถึงช่วงเวลาในวัยเด็ก เพราะทุกครั้งที่เราได้ยินคำถามนี้จากพ่อแม่ หรือเสียงในหัวใจของเรา มีหลายครั้งที่เราจะตอบคำถามนี้เพียงเพราะ เราประทับใจกับสิ่งที่ส่งผลต่อความรู้สึกช่วงนั้น ซึ่งหากคุณเป็นคนที่ชื่นชมในความเป็นธรรม รักในความถูกต้อง จนรู้สึกอยากช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อน คงหนีไม่พ้นอาชีพตำรวจหรือทหาร แต่ถ้าตอนเด็กคุณเป็นคนที่ชอบเรื่องกีฬา คุณอาจจะไปในเส้นทางของการใต่ระดับความสามารถ เพื่อก้าวเป็นตัวแทนทีมชาติไทยในกีฬาประเภทใดประเภทหนึ่งก็เป็นได้ หรือถ้าเป็นเรื่องของจินตนาการ ที่อยากจะถ่ายทอดความสร้างสรรค์ผ่านไลฟ์สไตล์งานศิลปะ คุณก็อาจจะเป็นศิลปิน ดีไซเนอร์ นักร้อง นักแสดง
และสำหรับอาชีพที่เรียกได้ว่า เป็นอาชีพอันดับต้น ๆ ที่ในตอนเด็กเราจะใฝ่ฝัน
คงเป็นอาชีพหมอ....หนึ่งในอาชีพที่เราคิดว่ามีความมั่นคง สบาย มีหน้ามีตาในสังคม ตอนเด็ก ๆ ใครหลายคนอาจคิดแบบนั้น แต่เมื่อโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ เราทุกคนคงทราบดีว่าการที่คน ๆ หนึ่งจะเป็นหมอ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องทำงานหนัก มีความรับผิดชอบ และต้องเสียสละเวลาส่วนตัวให้กับผู้ป่วยมากมาย และที่สำคัญหมอ คือ อาชีพที่ถูกคาดหวังจากสังคม รวมถึงผู้คนรอบตัว ยังไม่รวมถึงแรงกดดันจากการเรียน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้เด็กหลายต่อหลายคนต้องพบเจอความผิดหวัง จนรู้สึกท้อแท้ และทิ้งความฝันตรงนี้ไป
แต่คุณเชื่อหรือไม่ เหตุการณ์พวกนี้ ไม่ส่งผลกับเส้นทางความฝันของผู้หญิงคนนี้เลย ถึงแม้เธอจะเติบโตมาจากชุมชนชายขอบที่ติดกัมพูชา ห่างไกลความเจริญ ทำให้ไม่มีโอกาสทางการศึกษามากมายนัก แต่ด้วยหัวใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลัง และกำลังใจที่มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ เพื่อไปให้ถึงเส้นทางฝันที่ค้นพบ ความฝันที่เธอตั้งใจมุ่งมั่นที่จะก้าวไปให้ถึงเพื่อเป็นคุณหมอ เด็กนักเรียนหญิงคนนั้นคือ แพทย์หญิงสายสุดา ขวัญเพชร หรือ หมอโหน่ง เธอเป็นทั้งความภูมิใจของครอบครัว และโรงเรียนบ้านด่าน ซึ่งกว่าเธอจะมาถึงตรงจุดนี้ได้นั้น เส้นทางที่เธอต้องฝ่าฟัน กว่าจะไปถึงความฝันได้ มันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย
#TheDiscoverer
#TheDiscovererTH
#ความสุขของผู้ค้นพบ
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#ThaiMediaFund
เมื่อย้อนภาพความทรงจำในอดีตของ หมอโหน่ง เธอเป็นเพียงเด็กนักเรียนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ชื่นชอบการดูซีรี่ย์เกาหลี เฉกเช่นเด็กผู้หญิงทั่วไป ซึ่งตัวของเธอหลงไหลกับซีรี่ย์ที่มีเนื้อหาของการแพทย์ และการรักษาเป็นพิเศษ เพราะด้วยเนื้อหาที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้คน ตรงจุดนั้นเอง ที่ทำให้เธอเริ่มต้นค้นหาความฝันของตนเอง ถึงแม้ว่าเส้นทางของการเป็นนักรบเสื้อกาวน์จะยากลำบากเพียงใด แม้จะต้องใช้ต้นทุนที่มากกว่าคนอื่นก็ตาม แต่เธอก็พยายามอย่างถึงที่สุด เพื่อเติมเต็มความสุขที่อยู่ภายในใจ และที่สำคัญเธอไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ คว้าโอกาสที่น้อยนิด จนนำไปสู่ความสำเร็จของชีวิตในนามของแพทย์หญิง แห่งโรงพยาบาลโนนคูณ สำหรับเธอแล้วต่อให้ชีวิตนี้จะเหลือเพียงแค่ความหวัง เธอจะให้ความหวังที่อยู่ภายในใจ เป็นดั่งแสงดาวที่คอยนำทาง และมันจะกลายเป็นพลังที่ส่งเธอให้ถึงเส้นชัย ดั่งที่ใจเธอหวัง
หมอโหน่งเกิดที่จังหวัดศรีสะเกษ อาศัยอยู่ที่บ้านด่าน อำเภอกันทรลักษ์ โดยพ่อของเธอต้องไปทำงานต่างแดนอยู่บ่อยครั้ง เดิมทีพ่อของหมอโหน่งเป็นคนจังหวัดนครพนม หลังจากปู่กับย่าเสียชีวิต พ่อของเธอตัดสินใจกลับมาสร้างบ้านเพื่อใช้ชีวิตที่ศรีสะเกษ
หมอโหน่ง
“เราศึกษาเรียนอยู่ที่บ้านด่าน ตั้งแต่อนุบาล จนเรียนจบ ม.3 ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ก็มาเรียนตามปกติ ส่วนเสาร์ อาทิตย์จะไปสวน ก็อยู่ห่างจากตัวหมู่บ้านประมาณ 5 กิโล บางครั้งถ้าไม่มีรถไป จะเดินไปสวน กับยาย กับน้องชาย”
ด้วยฐานะที่ยากจน ในช่วงวันหยุด เธอจะอาศัยอยู่ที่สวนเล็ก ๆ เพราะต้องช่วยงานพ่อกับแม่ทำสวน ปลูกผลไม้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะในช่วงนั้นเกิดฝนแล้ง พ่อต้องทิ้งสวน ไปทำงานรับซื้อของเก่าที่จังหวัดภูเก็ต
แม่ของหมอโหน่ง
“พ่อ แม่ ก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ตั้งแต่ ป.2 ป.3 ป.4 จะทิ้งลูกไว้ แล้วเราก็ออกไปหาเงิน พวกเขาจะอยู่กันเองลำพัง เด็กคนนี้เลยต้องดูแลน้อง เขาเลยเป็นคนที่มีความรับผิดชอบไปโดยปริยาย”
แม่ของหมอโหน่งเล่าถึงความรับผิดชอบที่หมอโหน่งมีในช่วงวัยเด็ก ที่ต้องอยู่ดูแลน้องเพียงลำพัง 2 คน ในยามที่พ่อแม่ต้องออกไปทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ด้วยความเป็นพี่คนโต เธอต้องเลี้ยงดูน้องเล็กแทนแม่อยู่ตลอด สิ่งนี้ทำให้สร้างนิสัยความรับผิดชอบที่ดีให้แก่หมอโหน่งนับแต่นั้นมา โดยคนในครอบครัวจะรู้กันดีว่า หมอโหน่ง เป็นเด็กที่เรียบร้อย มีความรับผิดชอบสูง เธอจะเป็นคนที่ค่อยแบ่งเบาภาระภายในครอบครัวอยู่เสมอ
#TheDiscoverer
#TheDiscovererTH
#ความสุขของผู้ค้นพบ
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#ThaiMediaFund
วัคซีน จากครอบครัว
หมู่บ้านที่เธออาศัยอยู่ เป็นชายแดนที่สุ่มเสี่ยงเรื่องยาเสพติด และเรื่องการท้องก่อนวัยอันควร หมอโหน่ง เธอเติบโตมาในสภาพแวดล้อมทางสังคมแบบนี้ แต่เธอกลับเติบโตไปในทางที่ควรเป็น อะไรคือสิ่งสำคัญที่ทำให้เธอเติบโตมามีคุณภาพเช่นนี้ โดยตัวของเธอก็บอกกับเรา
หมอโหน่ง
“สิ่งที่เป็นปัจจัยในการป้องกันไม่ให้เราออกไปสู่สังคมแบบนั้น ก็จะมาจากครอบครัว”
คำสั่งสอนของพ่อ แม่ ก็เหมือนพระในบ้านที่คอยสั่งสอน และชี้นำเราไปในทางที่ดี จึงไม่แปลกที่คนกตัญญูรู้คุณอย่างหมอโหน่ง จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในสภาพแวดล้อมภายนอก ที่อาจจะยั่วยุไปในเส้นทางที่ผิด เพราะมีพ่อแม่คอยตักเตือน สั่งสอน และชี้แนะ สิ่งนี้จึงเป็นเหมือนวัคซีนที่ช่วยให้เธอมีภูมิคุ้มกันที่ดีต่อสิ่งยั่วยุจากภายนอก และวัคซีนตัวนี้ได้นำพาเธอไปสู่ความรู้ทางการศึกษา จนก้าวมาเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างในปัจจุบันนี้
หมอโหน่ง
“เพราะว่าพ่อกับแม่ปลูกฝังมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กในเรื่องที่ดี เหมือนเป็นการฉีดวัคซีนให้ลูกว่า อันนี้มันไม่ดีนะ เราจึงไม่ได้ใฝ่ไปทางนั้น เรามุ่งมั่นไปด้านการเรียน เราเลยไม่ได้หลุดไปทางที่ผิด”
#TheDiscoverer
#TheDiscovererTH
#ความสุขของผู้ค้นพบ
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#ThaiMediaFund
คุณพ่อเเละคุณเเม่ หมอโหน่ง
ชีวิตที่ขึ้น ๆ ลง ๆ แต่ส่วนมากจะลง
ตอนนั้นพ่อของหมอโหน่ง จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ด้วยปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดจากการทำงานอย่างหนัก ส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำให้พ่อของหมอโหน่งต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายต่อหลายครั้ง เพราะเหตุนี้แม่ของหมอโหน่ง จึงจำเป็นต้องออกมาทำสวนมะขามเพียงคนเดียว เพื่อหาเงินทุนในการส่งเสียค่าเล่าเรียนให้แก่หมอโหน่ง
แม่ของหมอโหน่ง
“เราต้องทำงาน ก็คือทำสวนมะขามเพื่อให้ลูกได้เรียนสูง ๆ เพราะงานที่พ่อทำอยู่มันไม่ประสบความสำเร็จ ไปเมืองนอกมา ก็เจ็บขา และสะโพก ทำให้พ่อต้องนอนโรงพยาบาลหลายครั้ง พ่อเลยเสียความรู้สึก จากการออกงาน เลยดื่มเหล้าอย่างหนัก กินจนได้นอนโรงพยาบาลหลายครั้ง เขาเรียกกันว่าเป็นอาการลงแดงเนอะ”
ด้วยปัญหาทางการเงิน ทำให้พ่อและแม่ของหมอโหน่ง เกิดความเครียดสะสม พอนานวันเข้าจึงส่งผลต่อสภาพแวดล้อมภายในครอบครัว ถือว่าเป็นช่วงที่จิตใจของเธออ่อนแอมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จนมีหลายครั้งที่เธอรู้สึกท้อแท้กับปัญหามากมาย แต่ก็ไม่เคยท้อถอย เธอยังคงยืนหยัดในจุดยืน หมั่นศึกษาเล่าเรียนอย่างตั้งใจ และรวบรวมวิชาความรู้ที่ได้จากการเรียน เพื่อทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากช่วงเวลาที่แสนเจ็บปวด เพราะเธอเห็นถึงความพยายามของแม่ ที่อยากจะพยุงครอบครัวจากวิกฤตทางการเงิน รวมไปถึงอาการบาดเจ็บของพ่อ โดยนับตั้งแต่วันนั้นมา พฤติกรรมของหมอโหน่งก็เปลี่ยน
#TheDiscoverer
#TheDiscovererTH
#ความสุขของผู้ค้นพบ
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#ThaiMediaFund
ตัวแทนของความขยัน ความฝันของฉันต้องเป็นจริง
ในการแข่งขันตอบปัญหา เพื่อวัดระดับความรู้ของเด็กในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ ตัวแทนแห่งความภูมิใจของโรงเรียนบ้านด่านที่เข้าไปแข่งขันตอบคำถาม หมอโหน่งมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ด้วยความสามารถ ความขยัน อดทน รวมไปถึงความเอ็นดูจากครูหลาย ๆ ท่าน เธอทำอย่างสุดความสามารถ จนในที่สุดสามารถคว้ารางวัล สร้างความภาคภูมิใจให้กับโรงเรียนและครอบครัว สำหรับเธอแล้ว รางวัลแห่งชัยชนะในครั้งนี้ ได้พิสูจน์แล้วว่า เธอไม่ได้มีศักยภาพที่น้อยกว่าเด็กคนอื่นที่มีโอกาสมากกว่าเธอเลย
หมอโหน่ง
“เวลาที่ครูเขาต้องการคนที่เข้าไปตอบปัญหาต่าง ๆ ตัวของหนูเอง ก็จะเป็นตัวแทน ก็พยายามทำให้มันสำเร็จ และทุกครั้งที่ไปตอบปัญหา กลับมาก็จะได้รางวัลกลับมา ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในจุดที่ต่ำกว่าคนอื่นเขา ไม่ได้มีกำลังอะไรมาสนับสนุน แต่เราก็สามารถเข้าไปต่อสู้กับเด็กที่อยู่ในเมืองได้ เราทำได้ มันเลยทำให้เราภูมิใจในตัวเรา”
ถึงแม้จะไม่มีต้นทุน และสิ่งสนับสนุนต่าง ๆ มากมายเหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ ที่มีเพียบพร้อม เธอก็สามารถคว้าแชมป์ได้ จึงเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง เป็นความมุมานะที่หมอโหน่งตั้งใจฝึกฝน และลงมือปฏิบัติ สิ่งนี้หมอโหน่งทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว
หมอโหน่ง
“คุณครูที่หนูเรียนภาษาตอน ป.1 เป็นคุณครูภาษาอังกฤษ ตอนนี้ท่านเสียไปแล้ว คุณครูชื่อ คุณครูวันเพ็ญ ชูรักษ์ คุณครูท่านนี้ คือครูคนแรกที่สอนภาษาอังกฤษเรา ทำให้เราเป็นอีกอย่างหนึ่ง ที่เราไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อน ถัดมาเป็นครูประถมปลาย เป็นคนที่ให้โอกาสเรา ครูท่านนี้เขาเป็นคนขอทุนเรียนพิเศษให้เรา ชื่อครูวนัสนันท์ การิน เป็นครูภาษาอังกฤษอีกคนนึ่ง ที่ทำให้ความสามารถด้านวิชาการของตัวหนูก้าวกระโดดไปมากกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ เขา”
หมอโหน่งเล่าถึงครูผู้สอนแรกในช่วงประถมต้น ที่ทำให้เธอรู้จักกับภาษาอังกฤษ ท่านแรกคือ ครูวันเพ็ญ ชูรักษ์ เป็นบุคคลแรกที่ทำให้หมอโหน่งเข้าถึงภาษาสากล ต่อมาท่านที่สองที่ช่วยสนับสนุนและมองเห็นพัฒนาการและความสามารถของหมอโหน่งคือ คุณครูวนัสนันท์ การิน ครูโรงเรียนบ้านด่าน ท่านช่วยส่งเสริมสนันสนุนการเรียนการสอน ให้โอกาส และหาทุนช่วยเหลือเพื่อให้หมอโหน่งได้ศึกษาเรียนรู้เพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง และมีโอกาสทางการศึกษาเทียบเท่ากับคนอื่น
ครูวนัสนันท์ การิน
“ในตอนนั้นมีพระอาจารย์ที่เราศรัทธา พูดกับเราว่า ถ้ามีเด็กคนไหนที่อยากเรียนพิเศษ อาจารย์ฝากได้นะ ก็เลยไปกราบพระอาจารย์ว่า มีหมอโหน่งนี้แหละค่ะที่เรียนเก่ง แต่ไม่มีทุนทรัพย์ในการไปเรียนพิเศษ ก็อยากให้แกได้เรียนพิเศษบ้างเพื่อว่าแกจะได้มีโอกาสไปสอบที่ดี ๆ หน่อย พระอาจารย์ก็บอกว่าเอามาดูสิ เลยพาไป พระอาจารย์บอกว่า เดี๋ยวจะพาไปฝากเรียนพิเศษที่ สุรชัย เซ็นเตอร์ ที่อุบล”
ครูวนัสนันท์ การิน ท่านช่วยเหลือลูกศิษย์อย่างหมอโหน่ง ให้สามารถเข้าถึงการศึกษาภาษาอังกฤษที่มากขึ้นกว่าเดิม โดยมีพระอาจารย์ที่ท่านศรัทธาเป็นผู้มอบโอกาส เพราะเห็นว่าหมอโหน่งเป็นเด็กที่ขยัน และมีความตั้งใจที่อยากจะศึกษาวิชาความรู้ แต่ไม่มีทุนทรัพย์ในการเรียน ครูวนัสนันท์ ท่านเอ็นดูและเล็งเห็นถึงความสามารถที่เธอมี
ครูวนัสนันท์ การิน
“เวลาพูดกับครูจะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาเป็นคนที่แจ่มใส ยิ้มแย้มตลอดเวลา พูดอะไรก็พูดด้วยความมั่นใจ”
ครูวนัสนันท์ การิน เล่าถึงตัวของหมอโหน่งด้วยความชื่นชมและเอ็นดูในลูกศิษย์อันเป็นที่รัก ถึงแม้ว่าหมอโหน่งจะเจอปัญหาในเส้นทางชีวิตมากมาย แต่ก็ไม่เคยทำให้คนรอบกายต้องคอยกังวล เพราะเธอจะยิ้มสู้ชีวิตตลอดเวลา เดินหน้าต่อไปโดยทิ้งความกลัว ความทุกข์ และหยุดเสียใจ เพราะสิ่งเหล่านี้มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้นเลย แต่เธอจะเรียนรู้จากมันเพื่อก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต และจะนำรอยยิ้มกลับมาสู่คนในครอบครัวของเธออีกครั้ง
#TheDiscoverer
#TheDiscovererTH
#ความสุขของผู้ค้นพบ
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#ThaiMediaFund
คุณครูลดาวัลย์ ดอกดวง
หมอโหน่ง
“ทางด้านกีฬา ตอนอยู่ประถมปลาย ก็จะเป็นคุณครูลดาวัลย์ ดอกดวง คนนี้จะเป็นคนที่เป็นโค้ช คอยฝึกฝนทางด้านการกีฬา พวกการวิ่ง วอลเลย์บอล หรือ กรีฑาประเภทลานอื่น ๆ”
ครูลดาวัลย์ ดอกดวง
“เขาเห็นคุณครูเล่นกีฬา หรือพารุ่นพี่เล่นกีฬา เขาจะนั่งมองแต่เขาจะไม่พูด แต่ถามว่าเขาจะเล่นไหม เขาจะไม่เล่น แต่เขาจะไปแอบฝึกซ้อม แต่เริ่มแรกกีฬาของเขาจะเป็นแบดมินตัน เขาไม่ใช่นักวิ่ง เขาไม่เคยลืมกำพืด หรือแผ่นดินเกิดของเขา เขามีความกตัญญูเยอะ เขาจะกลับมาทุก ๆ วันเกิดของครู เขารู้ เขาจะซื้อไอศครีม ซื้อของมาให้ครูประจำ”
หมอโหน่งเป็นคนที่จดจำวันสำคัญของครูที่คอยสนับสนุนและอบรมสั่งสอนอยู่เสมอ ในวันสำคัญของครู เธอมักจะกลับมาเยี่ยมเยือน และนำของฝากติดไม้ติดมือไปมาให้ครูอยู่บ่อยครั้ง เป็นความกตัญญูรู้คุณที่น่าประทับใจ สิ่งนี้จึงทำให้เธอกลายเป็นที่รักของครูบาอาจารย์หลาย ๆ ท่าน
#TheDiscoverer
#TheDiscovererTH
#ความสุขของผู้ค้นพบ
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#ThaiMediaFund
คุณครูมานนท์ ศรีกระจ่าง
หมอโหน่ง
“แล้วอีกคนที่ให้โอกาสหนู เป็นครูภาษาอังกฤษ คุณครูมานุน ศรีกระจ่าง เป็นคนที่สอนพิเศษภาษาอังกฤษให้หนูฟรี โดยไม่คิดเงินเลย เพราะครูเขาอยากให้เด็กที่ตั้งใจได้มีโอกาส มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษมากขึ้น”
ทุกคนเห็นตรงกันใช่ไหมว่า เธอเป็นคนที่ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้จริง ๆ ด้วยนิสัย และการกระทำที่เด่นชัดในทางเส้นของการทำดี ส่งผลให้คนรอบข้างเธอคอยสนับสนุนในทุกด้าน และเธอคว้าโอกาสนั้นเพื่อสานความฝันของเธอมาเสมอ โดยไม่เคยปล่อยให้โอกาสที่เธอได้รับสูญเปล่าเลยสักครั้ง
ครูมานนท์ ศรีกระจ่าง
“เราในฐานะครู เราก็สอนเด็กทุกอย่าง เราพยายามสั่งสอนอะไรต่าง ๆ ที่เป็นสิ่งที่ดีงามทุกอย่างให้กับเขา เราไม่ได้คาดหวังว่า เด็กทุกคนจะเป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ แต่ว่า สายสุดา ชนะตัวเอง ผลักดันตัวเองจนมาเป็นวันนี้ ในฐานะที่เราเป็นครู เราก็ดีใจ”
ด้วยความรักในตัวของศิษย์ ทำให้ครูมานนท์ต้องอมยิ้มพร้อมกับน้ำตา แสดงให้เห็นถึงความสุขที่เอ่อล้นของครูผู้มอบความรู้ เขาจะบอกกับใครต่อใครเสมอว่า หมอโหน่งคือหนึ่งในลูกศิษย์ที่เขาภูมิใจที่สุด เขาอยากผลักดัน ให้หมอโหน่งได้มีชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อก้าวข้ามชีวิตที่แสนลำบากที่ตัวเธอเป็นอยู่
#TheDiscoverer
#TheDiscovererTH
#ความสุขของผู้ค้นพบ
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#ThaiMediaFund
คุณเเม่ หมอโหน่ง
หมอคนจน ที่อดทนเพื่อฝัน
อย่างที่เรารู้กัน ความฝันของเธอ คือการได้เป็นหมอ เพราะเธออยากช่วยเหลือคนไข้ยากไร้ และอยากก้าวข้ามความลำบากที่ตัวเองมี เธอวางแผนการเรียนอยู่เสมอ แต่ หมอโหน่ง ทำได้เพียงตั้งใจเรียนในห้องเรียนเท่านั้น ถ้าจะอ่านหนังสือตำราการแพทย์ ต้องหาในห้องสมุด เธออาศัยหนังสือเก่าของเพื่อน ๆ และข้อสอบปีเก่า ๆ จากรุ่นพี่ เธอฝึกทำโจทย์ซ้ำแล้วซ้ำอีก เนื่องจากไม่มีเงินไปเรียนพิเศษเหมือนคนอื่น
และเรื่องสำคัญที่ทำให้เธอต้องตัดสินใจเด็ดขาด คือ ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เป็นรอยต่อของซีวิตเธอ การเลือกเส้นทางการเรียนหมอ เป็นสิ่งที่เธอต้องครุ่นคิดอย่างหนัก เพราะตัวขับเคลื่อนหลัก คือ จำนวนเงิน การเรียนหมอจำเป็นต้องใช้เป็นเงินจำนวนมาก และมันเป็นราคาที่ต้องจ่ายเพื่อแลกกับความฝัน
หมอโหน่ง
“ตอนที่เข้าเรียน แพทย์ ก็กังวลอยู่เหมือนกันว่า ค่าใช้จ่ายปลายทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะตอนที่สอบเข้าได้ คือ ครอบครัวไม่ได้มีเงินอะไร พ่อตัดสินใจขายสวนทั้งหมดไป แต่ถามว่ามันจะพอไปจนถึงเรียนจบไหม บอกเลยว่าไม่พอ เพราะครอบครัวก็ต้องกินต้องใช้”
หลังจากสอบเข้าเรียนแพทย์ได้ สิ่งที่เธอต้องเสียไป คือ สวน 40 ไร่ ที่พ่อแม่จำต้องขายมัน เพื่อแบ่งเงินใช้หนี้และแบ่งส่วนหนึ่งให้เธอได้เรียนหนังสือ เป็นเงินก้อนสุดท้ายของครอบครัวเพื่อสานฝันการเรียนหมอให้กับเธอ แต่นั่นยังไม่เพียงพอต่อการเรียนหมอ ที่ต้องใช้ระยะเวลา 6 ปีกว่า ถึงจะสำเร็จการศึกษา
แม่
“ลองคุยกับลุงดู ลุงบอกว่า ถ้าจะให้ลุงช่วยก็ช่วยได้แค่ปีเดียวนะ จะช่วยหมอโหน่งไปตลอดคงไม่ได้ เพราะว่าการเรียนแพทย์ ไม่ใช่ว่าเรียนปีเดียวแล้วจบนะ ต้องเรียนตั้ง 6 ปีถึงจะจบ เพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรขายได้ก็ขาย และส่งให้ลูกไปเรียน เราก็ขายที่ได้เงิน 8 แสนกว่าบาท เป็นเงินใหญ่ก้อนสุดท้ายที่เรามีในตอนนั้น หลังจากนั้นหมอโหน่งเรียนได้อยู่ประมาณ 3 เดือน เขาก็ไปชิงทุนแพทย์ แต่ก็ต้องชิงกันว่าใครจะได้ทุนตัวนั้น”
แม่ของหมอโหน่งพยายามอย่างหนัก เพื่อหาหนทางในการหาเงินมาส่งเสียให้หมอโหน่งเรียนแพทย์ โดยเงินก้อนที่ได้มาจากการขายสวนมะขามนั้น บางส่วนต้องแบ่งใช้จ่ายภายในครอบครัว และอีกบางส่วนนำมาเป็นทุนในการซื้อของขาย เพื่อหากำไรเพิ่มเติมเข้าบ้าน และต้องเก็บหอมรอมริบ ส่งให้หมอโหน่งใช้ศึกษาเล่าเรียนต่อ เรียกได้ว่าแม่ของหมอโหน่ง อดทนและเข้มแข็งอย่างถึงที่สุด จนสามารถนำพาครอบครัวผ่านอุปสรรคทางการเงินมาได้ขนาดนี้ แต่ในความลำบากก็ยังพอมีโอกาสดี ๆ เกิดขึ้นบ้าง โดยสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชนูปถัมภ์ เข้ามาพยุงช่วยเหลือนักศึกษาแพทย์ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ด้วยการสนับสนุนทุนการศึกษา เป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดการเรียนหลักสูตรแพทย์ 6 ปี และยังทำให้น้องชายตนมีโอกาสได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยด้วย จากแต่ก่อนที่เคยหยุดเรียนเพราะต้องนำเงินมาส่งเสียตนเรียนนั่นเอง
#TheDiscoverer
#TheDiscovererTH
#ความสุขของผู้ค้นพบ
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#ThaiMediaFund
โอกาสอาจไม่เท่าใคร แต่พลังใจเต็มร้อย
หมอโหน่ง
“สมาคมแพทย์สตรี ยื่นมือเข้ามาช่วยเรา คือ สมาคมนี้ตั้งกองทุนขึ้นมาจาก นักวิชาการต่างประเทศที่เขามีมรดก แต่ไม่มีครอบครัว เลยต้องการเอามรดกที่เหลือของเขาไปทำประโยชน์ให้กับสังคม และคนที่นำกองทุนตรงนี้มาให้คือ ด็อกเตอร์ จอร์ส คูรูบี้ กองทุนนี้มอบให้กับนักศึกษาแพทย์ ที่เป็นผู้หญิงโดยเฉพาะ เพราะว่าสมาคมเป็นแพทย์สตรี และต้องเป็นเด็กที่ยากจน เขาอยากให้เงินส่วนนี้ไปช่วยกับแพทย์ที่อยากกลับไปเป็นหมอที่บ้านของตัวเอง เป็นสัญญาใจที่ไม่ได้ผูกพันใด ๆ โดยพวกเขาเป็นอาจารย์แพทย์ ที่เกษียณอายุกันหมด แล้วแต่ละคน คือ มาทำงานที่สมาคมโดยไม่ได้เงินเดือนเลย ทุกคนทำด้วยใจ มาเพื่อสร้าง ประโยชน์ให้สังคม”
แสงแห่งความหวัง จะส่องให้กับผู้ที่ตั้งใจเสมอ ซึ่งเธอยังคงรักษาความตั้งใจอันเป็นจุดสำคัญแห่งความสำเร็จ ยังคงทบทวนบทเรียน อ่านและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้สิ่งที่พยายามมาตลอดชีวิตต้องสูญเปล่า หากเธอไม่หมั่นรักษาระดับของความขยันตรงนี้ เธออาจสูญเสียจุดยืนของความเก่งกาจในด้านการเรียนได้
Dr. George Curuby
“ความรักที่ปราศจากเงื่อนไข และการสนับสนุนที่ไม่มีข้อเรียกร้อง เป็นสิ่งที่หายากมาก แต่สิ่งที่โครงการของเราต้องการ คือ ขอแค่ให้ผู้รับทุนไปทำหน้าที่แพทย์ในพื้นที่ กลับไปทำงานที่ชุมชนของพวกเขา เพราะพวกเรากำลังค้นหาผู้ที่มีความสามารถ และทะเยอทะยาน ซึ่งเราจะให้การสนับสนุนด้านการเงิน เพื่อสร้างความฝันให้เป็นจริง นั่นคือสิ่งที่เราทำกันมา โดยพวกเรามีความภาคภูมิใจในความสำเร็จของหมอโหน่งมาก และก็หวังว่าความสำเร็จของหมอโหน่งในครั้งนี้ จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กอีกหลาย ๆ คนที่อยากเป็นหมอ”
อาจารย์จากสมาคม
“สายสุดา ก็เป็นตัวอย่างที่น้อง ๆ เขาชื่นชม แล้วพวกเราทุกคนก็เอ็นดูเขา เพราะเขามีน้ำใจกับสมาคม เขาตรวจคนไข้วันนึงเกือบ 200 คน แต่เขาก็มาอาสาทำงานให้สมาคม และเมื่อเวลาที่สมาคมมีงานอะไรเขาก็จะมาช่วยเหลือเสมอ”
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เราจะเห็นว่ามีผู้คนที่กล่าวชื่นชมและเอ็นดูหมอโหน่งเสมอ รวมถึงนิสัยติดตัวที่รู้จักการกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ แม้จะมีงานเยอะล้นมืออยู่แล้ว แต่เธอยังสละเวลามาช่วยงานสมาคมอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นความภูมิใจของทั้งบุคลากรในสมาคมและครอบครัว อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างที่ดีแก่รุ่นน้องอีกด้วย
หมอโหน่ง
“คือ ต้องขอขอบคุณสมาคมแพทย์สตรีมาก ๆ ที่ให้โอกาส ทำให้หนูได้มีวันนี้ ถ้าไม่มีสมาคมแพทย์สตรี เพราะก็ไม่รู้ว่าจะเรียนจบแพทย์ด้วยความอดทบแบบนี้ ได้มากแค่ไหนเหมือนกัน”
หมอโหน่งกล่าวแสดงความรู้สึกขอบคุณอย่างซาบซึ้ง ที่ทางสมาคมช่วยเหลือจนทำให้เธอสามารถประสบความสำเร็จทางด้านการเรียนได้อย่างที่ตั้งใจ
#TheDiscoverer
#TheDiscovererTH
#ความสุขของผู้ค้นพบ
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#ThaiMediaFund
หมอโหน่ง
“คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต่อสู้มาตั้งแต่เป็นเด็ก ไม่คิดว่าตัวเองจากเด็กบ้านนอก พ่อแม่ไม่ได้มีอะไรเพียบพร้อม ไม่ได้มีกำลังสนับสนุนอะไรเราแบบเต็มที่ เหมือนเพื่อนคนอื่นที่เรียนแพทย์มาด้วยกัน คือ ทางที่เดินมามันขรุขระมาตลอด ขึ้น ๆ ลง ๆ ส่วนมากจะมีแต่ลง แล้วต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่นเขา โรงเรียนที่จะไปติว ไปกวดวิชาตอน ม.ปลาย ก็ไม่มีเงินจะไป ตอนนั้นไม่ได้มีใครจะมาสนับสนุน เหมือนตอนที่อยู่บ้านด่าน หนังสือก็ต้องไปขอจากรุ่นพี่ ขอข้อสอบเก่าต่าง ๆ ต้องไปหาจากรุ่นพี่มา เพราะว่าเราไม่ได้มีเงินไปติวเหมือนคนอื่น
มันเป็นความมุ่งมั่นพยายามอย่างถึงที่สุด ที่เราอยากก้าวไปจุดที่มันดี แล้วก็ไม่เคยมีใครทำได้ ณ จากจุดที่เรามา ก็เลยเป็นอะไรที่มีความสุขมาก ๆ แล้วคนอื่นรอบข้างที่เราสัมผัส เขาก็ภูมิใจในตัวเราทุกคนที่คอยดูเราเติบโตมาจนทุกวันนี้ เขามีความสุข เห็นเขายิ้มได้ เขาไปพูดกับคนอื่น อย่างคุณครูเขาก็บอกตลอดว่า ก็พอจะได้คุยกับเขาบ้างว่าได้สอนลูกศิษย์แล้วมาเป็นหมอ พ่อกับแม่ก็บอกว่า พ่อหมอนะ แม่หมอนะ ญาติ ๆ เขาเห็นเรามาตั้งแต่เด็ก แล้วเขาเห็นเราได้ดี ความภูมิใจตรงนั้นมันมากมายจริง ๆ ค่ะ”
เส้นทางที่หมอโหน่งฝ่าฟันมานั้นไม่ง่ายเลย อุปสรรคต่าง ๆ ที่มีบนเส้นทางหมอของหมอโหน่งนั้น ยากลำบากแสนเข็น ต้องใช้พลังใจมากทีเดียวกว่าจะผ่านและก้าวพ้นมาได้ แต่เธอมุ่งมั่นที่อยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้น หมอโหน่งจึงทุ่มเทสุดกำลังให้ได้สิ่งที่ตั้งใจ เพื่อเธอจะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมของความสำเร็จดั่งที่ใจเธอวาดฝัน ด้วยความหวังที่อยากจะทำให้ตัวเองและครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้นและชอบช่วยเหลือสังคม นั่นจึงทำให้เธอมีความสุขที่ได้ยืน ณ จุดนี้ จุดที่ไม่คาดฝันว่าจะสามารถเดินทางมาถึงได้
#TheDiscoverer
#TheDiscovererTH
#ความสุขของผู้ค้นพบ
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#ThaiMediaFund
ความภูมิใจในวันนี้สามารถสร้างรอยยิ้มให้ครอบครัว และครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ที่คอยอบรมสั่งสอนและผลักดันอยู่เบื้องหลังให้เติบโต เรียนรู้ และก้าวหน้าไปได้ สิ่งนี้คือ ความสุขที่เปี่ยมล้นภายในจิตใจของหมอพลังนักสู้แดนอีสาน ผู้ก้าวข้ามความแร้นแค้นของชีวิตด้วยความรักที่เกิดจากการค้นพบ
แพทย์หญิงสายสุดา ขวัญเพชร หรือ “หมอโหน่ง”
บัณทิตแพทย์เกียรตินิยม สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต
วิทยาลัยแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
#TheDiscoverer
#TheDiscovererTH
#ความสุขของผู้ค้นพบ
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#ThaiMediaFund
โฆษณา