EP : 965
มิโดริ
ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ ผมว่าหลายๆคนที่ชอบแนว Guro คงรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะนี้คืองานเก่าที่เขียนไว้ตั้งแต่ปี 1984 ของ อ. Suehiro Maruo เจ้าพ่อแห่งวงการ Guro ที่แฟนๆ งานสายนี้ต้องเคยเห็นหรือเคยผ่านตามาบ้างอย่างแน่นอน จริงๆ เรื่องนี้แม้ไม่ใช่แฟนแนว Guro อย่างผมก็ยังรู้จักเลยครับ ถือว่าเป็นงานที่รู้จักในวงกว้างมากที่สุดเรื่องนึงของ อ. เลย แถมเคยถูกหยิบมาสร้างเป็นภาพยนต์ที่ผมยังไม่เคยดูแต่เคยเห็นเนื้อหาคร่าวๆในฉบับมังงะมาแล้ว .... ใช่ครับ คร่าวๆ จริงๆ และครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมที่ได้มาอ่านผลงานเรื่องนี้ที่หลายๆคนเคยพูดถึงกันแบบจริงๆจังๆ กับเรื่องนี้ครับ “มิโดริ”
เรื่องราวของสาวน้อย “มิโดริ” เริ่มต้นขึ้นเมื่อพ่อของเธอทิ้งแม่และเธอไป ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอย่างแร้งแค้นกับแม่ที่ป่วยของเธอ แต่นั่นยังไม่ใช่ปัญหาจริงๆของเธอ เพราะปัญหาจริงๆมันเกิดขึ้นเมื่อแม่ของเธอได้เสียชีวิตลง ปล่อยให้สาวน้อยวัยเพียงสิบกว่าปีอย่างเธอต้องอยู่เดียวดายอยู่คนเดียว และขณะที่เธอกำลังสับสนกับการใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง อยู่ๆ ก็มีชายผู้เป็นเจ้าของโรงละครเร่เข้ามาเสนอตัวที่จะดูแลเธอและจะพาเธอเดินทางไปกับคณะด้วย ด้วยความเป็นเด็กสาวที่ดูไร้ที่พึ่ง นี่คือทางเลือกเดียวสำหรับเด็กสาวอย่างเธอ
แต่.. เมื่อมิโดริได้ไปอยู่ที่คณะเร่แห่งนี้เธอถึงได้รู้ว่า นี่คือการหนีเสือปะจระเข้แท้ๆ เพราะนี่ไม่ใช่คณะละครเร่ธรรมดา แต่เป็นคณะละครเร่ที่จัดแสดงผู้คนที่มีความผิดปกติของร่างกายที่พวกเขารวมบรวมมาได้และไม่ใช่แค่ความประหลาดของรูปร่างหน้าตาของแต่ละคนในคณะละครแห่งนี้เท่านั้น พวกเขาและเธอยังมีความบิดเบี้ยวของจิตใจมากกว่าร่างกายอยู่หลายเท่า และความบิดเบี้ยวทั้งหลายนี้ก็ลงสู่เด็กสาวอย่างเธอ... เพียงคนเดียว....
เพราะแบบนั้นการใช้ชีวิตของเธอในละครเร่แห่งนี้จึงเต็มไปด้วยความยากลำบาก การกดขี่ด้วยเธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนเดียวที่ไม่สามารถขัดขืนหรือต่อต้านอะไรได้ เป็นสิ่งที่ทุกคนในคณะแห่งนี้ทำกัน นอกจากการกดขี่ทางกายเหล่านี้กับเธอแล้ว พฤติกรรมบางอย่างของพวกเขาก็เกินที่เด็กสาวอย่างเธอจะรับได้ การใช้ชีวิตในที่แห่งนี้จึงไม่มีความสุขสำหรับเธอเลย การเฝ้าฝันที่จะได้ออกจากที่แห่งนี้ไปกลายเป็นสิ่งที่หัวใจเธอเรียกร้องและรู้สึกตลอดเวลา... และแน่นอนมันเป็นไปไม่ได้สำหรับเด็กผู้หญิงอย่างเธอ..
จนกระทั่งวันนึง ท่ามกลางปัญหาทางการเงินของคณะที่ไม่สามารถเรียกหาลูกค้าให้เดินเข้ามาจ่ายเงินเพื่อดูพวกเขาได้ง่ายเหมือนเดิมอีกต่อไป ทำให้หัวหน้าคณะต้องหาดาวดวงใหม่เข้ามาเพื่อแก้สถานะการณ์ และคนๆนั้นก็คือ “มาซามิตซุ” ชายร่างแคระที่มีความสูงเพียงเท่ากับเธอเด็กสาวเท่านั้น ชายผู้เรียกตัวเองว่า “ชายในขวดแก้ว” ซึ่งจะเข้ามาเป็นตัวทำเงินคนใหม่ให้กับคณะละครเร่ตัวประหลาดแห่งนี้ และเขาก็คนนี้จะพาเธอให้พบกับบางสิ่งที่เธอตามหามานาน แม้เธอจะรู้ตัวว่ามันคงไม่ง่ายขนาดนั้น...
พูดถึงเนื้อหาหลักก่อนนะครับ ตัวเนื้อหาเรื่องนี้ในมุมมองผมนั้น ค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการนำเสนอโลกอันโหดร้ายที่อยู่รอบด้านของสาวน้อยอันบริสุทธิ์ของ “มิโดริ” เป็นหลักอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าว่าตามโครงเรื่องแล้ว ตัวเรื่องเราจะเห็นเรื่องราวอันโหดร้ายในแง่มุมต่างๆ ที่กระทำต่อตัวเธอในฐานะเด็กที่ไม่มีทางสู้หรือไม่มีทางเลือกก็ว่าได้ จริงๆ ด้วยมันเป็นมังงะเก่ามากๆเรื่องนึงตัวเรื่องมันชัดเจนในเรื่องการไม่เท่าเทียมกันของเด็กโดยเฉพาะเด็กผู้หญิงในเชิงสังคมญี่ปุ่นในตอนนั้น แม้ตอนนี้อาจจะดีขึ้นมาบ้างระดับนึงก็ตาม เด็กที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว โดนกระทำโดยที่ตัวเองไม่อาจจะขัดขืนหรือปฎิเสธ ด้วยตัวตนอันบิดเบี้ยวที่แสดงออกมาให้เห็นชัดเจนในรูปร่างของผู้คนในคณะที่แปลกประหลาด ล้อไปกับจิตใจภายในที่กระทำออกมาในแนวทางเดียวกัน อันนี้เป็นสิ่งที่สามารถจับใจความได้จากมังงะเรื่องนี้ครับ
ด้วยบรรยากาศที่มีความเก่าของยุคสมัย และลายเส้นที่ให้อารมณ์ย้อนยุคอย่างมาก เนื้อหาถูกนำเสนอออกแนวแฟนตาซีมากระดับนึง แต่ไม่หลุดกรอบของความเข้าใจหรือสามารถรับรู้ของนักอ่านทั่วไปนัก รวมถึงการเข้ามาของ ชายในขวดแก้ว ที่จะมามอบทั้งความหวังที่ทั้งจริงและเสมือนจริงให้กับมิโดริสาวน้อยของเรา การแก่งแย่งตัวและหัวใจของมิโดริ โดยที่แม้ภาพจะเห็นว่าช่วงจังหวะนึงเธอเลือกได้ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องยอมรับความเห็นของเพศที่เหนือกว่าแม้จะในรูปแบบไม่ปกตินี้ ก็ยังคงยืนยันให้เห็นสถานะภาพ ของหญิงสาวตัวเล็กๆของเธออยู่ดี
ตัวเรื่องมีเนื้อหาและการนำเสนอที่มีเอกลักษณ์สูงมากๆ เรียกว่าเห็นแล้วรู้ได้เลยว่าเป็นลายเส้นของใคร ถือเป็นสิ่งที่ผมชอบมากๆในเรื่องนี้ครับ บางครั้งความหลอนหรือความไม่วางใจก็เกิดจากลายเส้นที่ได้เห็นในแต่ละตอน โดยไม่ต้องใช้เนื้อหามากระตุ้น ด้วยหลายๆภาพจงใจใช้ความรุนแรงเข้านำเสนออย่างชัดเจนด้วยความเป็น Guro และลายเส้นเฉพาะตัวของ อ. เขา ถือว่าสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันได้อย่างเนียนเรียบมากๆ เอาจริงๆ แม้เนื้อหาหลักๆ หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันรุนแรงไปก็ตาม แต่แค่ได้เห็นลายเส้นผมว่าก็คุ้มแล้ว แม้มันจะรุนแรงด้วยลายเส้นส่วนหนึ่งก็ตามครับ แต่ลายเส้นแบบนี้ ปัจจุบันไม่มีให้เห็นแล้วครับ
คราวนี้กลับมาที่เนื้อหาและการนำเสนอบ้าง ผมขอพูดในฐานะคนที่ได้อ่านในยุคนี้ปี 2022นี้แบบเต็มๆ นะครับ ว่าเรื่องนี้ “ไม่ได้รุนแรง” อย่างที่คิด อันนี้ต้องยอมรับว่ามันเป็นมังงะที่เก่ามากตั้งแต่ปี 1984 ไม่แปลกเลยที่ความรุนแรงที่นำเสนอในแง่ภาพและเนื้อเรื่องในเรื่องนี้ อาจจะดูรุนแรงในช่วงปีนั้น แต่ถ้าเทียบกับมังงะ Guro ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาจจะทำให้เรื่องนี้ดูไม่แรงเท่าทั้งเนื้อหาและงานภาพอย่างที่ใครๆคิด ก็เพราะในหลายๆปีความรุนแรงในหลายๆด้านมันเยอะขึ้น มีให้เห็นมากขึ้นผ่านผลงานมังงะจนเราชาชินกับความรุนแรงไปเรียบร้อยแล้วครับ งานในเล่มนี้ในสายตาผมจึงไม่ใช่งานที่จะมาขายความรุนแรงอะไรมากนักครับ
แต่ก็นั่นอีกนั่นแหล่ะ ก็อย่างที่ผมบอกว่า มันเป็นงานที่คลาสิคมากๆ ตั้งแต่ลายเส้น และการนำเสนอเปรียบเทียบเปรียบเปรยมนุษย์ในหลายๆด้าน การกระทำต่อมนุษย์ด้วยกันในโลกของ มิโดริ ที่แสนแฟนตาซี แต่จับต้องได้ ความอัปลักษณ์ของความคิดที่จะกดขี่ผู้อ่อนด้อยกว่าตน ความอิจฉาในความสวยงามที่มิโดริมี หรือการพยายามถือครองมิโดริ ในฐานะสิ่งของที่ไม่อาจแสดงความคิดที่ตัวเองต้องการ รวมถึงชะตากรรมที่ไม่รู้ว่าท้ายสุดและสุดท้ายเธอจะต้องเจออะไรกันแน่ กับสิ่งที่เปิดทิ้งท้ายไว้ เหล่านี้ผมว่ามันสื่อสารออกมาได้สนุกและมีเอกลักษณ์มากๆเรื่องนึงในแนวนี้เลยทีเดียวครับ
“มิโดริ” เล่มนี้เป็นผลงานการนำเสนอจากค่ายไพเรท BH COMIC ซึ่งเป็นค่ายน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน และเพิ่งมีผลงานไม่กี่เรื่องออกมาครับ โดยเท่าที่เห็นเหมือนทางค่ายจะหยิบจับมังงะแนวสยองมาให้อ่านเป็นพิเศษครับ โดยเล่มนี้ทางค่ายทำออกมาด้วยขนาดบิ๊กบุ๊ค แบบปกสองชั้นตามสมัยนิยม ปกนอกทำการพิมพ์ภาพสีและใช้ภาษาไทย ส่วนตัวชอบสีสันบนหน้าปกที่ดูเหมือนต้นฉบับให้อารมณ์สีโทนเก่าๆ ครับ โดยปกนอกใช้กระดาษที่มีความหนาที่ดีไม่หดตัวมากนักเมื่อถอดออกมาจากตัวปก ยังคงรูปได้ดีประมาณนึงครับ โดยปกแข็งด้านในใช้ภาพเดียวกับปกนอก แต่พิมพ์เป็นภาพขาวดำครับ ภาพรวมงานปกถือว่าดีครับ
ตัวเล่มเปิดอ่านแบบญี่ปุ่น โดยราวๆ 8 หน้าแรกจะพิมพ์เป็นภาพ 2 สีครับ ส่วนตัวชอบมากให้อารมณ์แบบงานเก่าๆอีกแล้ว นอกนั้นจะพิมพ์เป็นภาพขาวดำ ภาพคมชัดดีมากครับ เรื่องความคมชัดไม่เป็นปัญหา แต่ผมมองว่ามีปัญหานิดหน่อยตรงงานแปลครับ คือมีพิมพ์ผิดบ้างจุดเล็กๆ แต่มีบางจุดช่วงแรกๆที่อ่านแล้วต้องอ่านซ้ำเพื่อตีความใหม่ เหมือนการเรียงประโยคจะงงๆครับ ช่วงแรกๆนี่เห็นอยู่หลายจุดครับ แต่หลังๆรู้สึกว่าอ่านเนียนขึ้น แต่ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องนะครับ ถือว่าพอเข้าใจได้ประมาณนึงครับ นอกนั้นไม่มีอะไรให้คิดมากครับ ถือว่าเป็นงานที่ชอบเล่มนึงครับ
โดยส่วนตัวถ้ามองจากยุคนี้เรื่องนี้ไม่ได้มีความหนักในแง่ Guro มากนัก เพราะปัจจุบันความแรงแบบนี้ถูกใช้ในมังงะสายหลักจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว การได้อ่านเรื่องนี้ในปีนี้จึงเป็นอะไรที่ผมมองไปจุดอื่นมากกว่า... ใช่ครับ ผมประทับใจในแนวคิด และการนำเสนอเชิงเปรียบเทียบผ่านตัวมิโดริในแง่ความดราม่าและภาพสะท้อนสังคมผ่านช่วงยุคเวลาสมัยก่อนมากกว่า เนื้อหาที่มีความแฟนตาซีผสมมาพอหอมปากหอมคอ ทำให้มีหลายตอนที่เราต้องมานั่งคิดและตีความในแนวของตัวเองว่าทำไม ถึงเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ครับ ภ
าพสะท้อนโลกของมิโดริในคณะละครเร่ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ประหลาด ที่เห็นเธอเป็นเสมือนจุดรองรับในหลายๆเรื่อง เหมือนการกลับโลกทางสังคมที่จากคนปกติ กระทำต่อคนไม่ปกติ แต่ในที่นี้คนไม่ปกติ ทำกับคนปกติ ที่ไร้ทางสู้ เป็นเหมือนความสุขเล็กๆของผู้คนที่ไม่ปกติในแง่ของร่างกายหรือจิตใจ เอาจริงๆ มันเป็นโอเอซิสสำหรับพวกเขาที่อยากจะรักษาไว้ในหลายๆแง่ด้วยซ้ำครับ และด้วยภาพวาดที่มีเอกลักษณ์ บอกเลยว่าเป็นงานที่สายคลาสิคควรอ่านครับ ความรุนแรงเรื่องนึง แต่การนำเสนอและลายเส้นนี่ก็เรื่องนึง เป็นอีกเรื่องที่แนะนำให้อ่านครับ
ภาพ 10/10
เรื่อง 9/10
ความประทับใจ 9.5/10
อ่านรีวิวเรื่องอื่นๆที่ทางเพจเคยรีวิวไว้มีกว่า 900 กว่าเรื่องตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ.
.
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #BhComic #การ์ตูนแนวguro #การ์ตูนแนวรุนแรง #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวเสียดสีสังคม #9คะแนน #มิโดริ #หนังสือการ์ตูน #Rate18 #เล่มเดียวจบ #การ์ตูนคลาสิค
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
